สวัสดีค้า จขกท ขอมาเล่าประสบการณ์การผ่าตัดเอามดลูกออกของ จขกทเอง และ ขอพี่สาวให้สาวๆได้ฟัง
เริ่มจากกจขกทก่อน เราอายุ 39 ปี ที่เข้ารับการผ่าตัดเอามดลูกออกด้วยวิธีการส่องกล้อง ซึ่งเป็นวิธีที่คุณหมอบอกว่าสบายคนไข้ แต่ลำบากหมอเพราะแผลจะเล็ก ฟื้นตัวไว ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดเพราะ จขกท ป่วยเป็นเยื่อบุโพรงมดลูกงอกผิดปกติ เริ่มจากปวดท้องมาก พอตรวจเจอผนังมดลูกด้านหลังลูกหนากว่าด้านหน้า 3 เท่าซึ่งรักษามาประมาณ 7 ปีด้วยฮอร์โมนทั้งกินและฉีดมันเหมือนจะดีก็แล้วก็เริ่มแย่ลงอีก โดยสาเหตุหลักๆที่ตัดสินใจผ่าตัดเพราะมีอาการประจำเดือนมาไม่หยุด 3 เดือน ซึ่งเป็นการมาแบบกระปิดกระปอย มาๆหยุดๆ เคยมีประจำเดือนมา 40 วัน 2 ครั้งก็แบบนี้ และก่อนหน้านั้น 1 ปีเต็มที่เวลาประจำเดือนจะมาหรือไม่มาจะมีการปวดท้องมากแบบไม่สามารถนอนหรือ นั่งได้เลย ต้องยืนตัวงอๆ ตลอด
ต้นเดือนมีนาคม 2561 ได้พบคุณหมอ และแจ้งคุณหมอเลยว่า ขอผ่าเถอะไม่ไหวแล้ว แต่เนื่องจากมีอาการเลือดออกแบบนี้คุณหมอเลยนัดทำการขูดมดลูกก่อน อันนี้นอนพัก 1 คืนจบ นัดผ่าวันที่ 29 มีนาคม 61 โดยเข้าโรงพยาบาลตั้งแต่คืน 28 มีนาคม 61 ตอน 2 ทุ่มครึ่ง เข้าห้องก็เตรียมตัวมีคุณพยาบาลมาโกนขน สวนให้ระบาย (อันนี้โดน 2 รอบ กลางคืน กับเช้า) แล้วก็นอนไป ตี 5 ครึ่ง คุณพยาบาลมาปลุกให้ไปอาบน้ำแปลงฟัน เปลี่ยนชุดแล้วมาเปิดเส้น เจาะเลือดเก็บไว้ 6.30 เจ้าหน้าที่เข็นเตียงมารับไปห้องผ่าตัด คุณหมอดมยา กับ พยาบาลจะมาทวนชื่อนามสกุล คุณหมอที่รักษา วันนี้จะผ่าอะไร ผ่าแบบไหน 2 รอบแล้วให้เซ็นต์เอกสาร ให้ยาฆ่าเชื้อเข้าเส้น แล้วถึงจะเข้าห้องผ่าตัด ในห้องผ่าตัดนี้จะถอดเสื้อออกมีผ้าห่มคลุม ห้องผ่าตัดเย็นมาก คุณหมอเข้ามาคุยแบบชวนคุยไม่ให้เราเครียด ความดันจะได้ไม่ขึ้น มีแนะนำคุณหมอผู้ช่วยคุณพยาบาล แล้วคุณหมอดมยาเอาหน้ากากมาจ่อที่จมูกบอกให้สูดหายใจลึกๆๆ แล้วก็หลับไป ตื่นในห้องพักดูอาการเพราะหนาวพอได้ผ้าห่มมาห่มก็หลับไป มาตื่นตอนพยาบาลจะย้ายจากเตียงผ่าตัดไปเตียงในห้องพัก มีสายน้ำเกลือ กับ สายสวนปัสสาวะอยู่ สอบถามอาการแล้วหลับยาวไปถึง 5 โมงเย็น พี่สาวพาพ่อมาเยี่ยม
ตอนเย็นวันผ่าเราเริ่มพยายามพลิกตัวบนเตียงแล้ว เพราะคุณหมอบอกไว้ก่อนผ่าแล้วว่า การผ่าแบบส่องกล้องจะต้องมีการอัดก๊าซเข้าไปในช่องท้องเพื่อให้ทำงานง่ายดังนั้นถ้าเราไม่ขยับตัวจะเกิดอาหารลมดันทำให้ปวด แผลของเรา มี 3 จุดคือที่สะดือ 1 กับฝั่งด้านซ้าย 2 แผลเลยจะพลิกไปด้านขวา พอพลิกไปเท่านั้น เม่เจ้าลมตีขึ้นทั้งจุก ทั้งปวดต้องพลิกไปทางซ้ายแทน วันรุ่งขึ้นคุณหมอมาเช็คบอกเที่ยงๆจะเอาสายสวนออกถ้าลุกได้ให้ลุกเลย อันนี้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคนนะ ของเราคือเริ่มทานอาหารมื้อเที่ยงของวันที่ 2 ได้พอถอดสายสวนออกก็เริ่มลุกนั่ง ยืน และ เดินได้เลย พอเดินได้ก็เริ่มตด ยิ่งสบายท้องไม่แน่น เย็นวันที่ 30 มีค 61 เราอาบน้ำเองได้แล้ว พักอยู่โรงพยาบาล3คืน 4 วัน แล้วก็กลับไปพักที่คอนโดอีก 2 อาทิตย์ สำหรับการพักฟื้นนั้นคุณหมอบอกว่าถ้าเราต้องการไปทำงานจริงๆ นับจากวันผ่าตัดไปประมาณ 7-10วันก็กลับไปทำงานได้แล้วแต่เราลาไว้ 2 อาทิตย์แล้วก็เลยลาไประหว่างนั้นครบ 7 วันก็ตัดไหมแผลแห้งปกติ ช่วงที่พักก็ทำงานบ้านพวกดูดฝุ่น เช็ดบ้าน ซักเสื้อนอนไป ไม่อยู่เฉย เริ่มขับรถก่อนกลับไปทำงาน วันทำงานวันแรกก็มีปวดหน่วงๆบ้างแต่กินพาราก็หาย ครบ 1 เดือยก็ไปเที่ยวสิงค์โปรได้ตามกำหนดแต่ไม่ยกกระเป๋าหนักๆเท่านั้น นี้ก็เพิ่งตรวจหลังผ่า 6 เดือนไปก็ ok
มาตาพี่สาวเราบ้าง เพิ่งผ่าตัดเอามดลูกออกแบบเปิดหน้าท้องไปเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 61 ที่ผ่านมานี้เองโดยเริ่มจากพี่สาวเรามีอาการไข้ขึ้นสูง39 กว่าติดกันไม่ลงเลยพาไปโรงพยาบาล คุณหมอตรวจแล้วลองกดที่ท้องซึ่งพี่สาวบอกเจ็บไปหมด คุณหมอกลัวว่าจะมีการติดเชื้อเลยให้แอดมินวันนั้นเลยมีการให้ยาฆ่าเชื้อ เจาะเลือดไปเพาะเชื้อเจอว่าเป็นไข้รากสาดใหญ่ อันนี้คือคุณหมองง เพราะโรคนี้ส่วนใหญ่จะเกิดกับคนที่ไปเที่ยวป่า เดินป่าซึ่งพี่สาวเราไม่ได้เฉียดไปใกล้เลย ก็ได้ยารักษา ยาฆ่าเชื้อไป แต่ที่แปลกคือไข้ลงมาอยู่ที่ 37.5 – 38.5 เท่านั้นซึ่งถือว่ายังมีไข้อยู่ทั้งๆที่ได้ยาฆ่าเชื้อเข้าเส้นไป 5 ถุงแล้วและยังมีอาการแน่นท้องอยู่ คุณหมอเลยสั่งอัลตร้าซาวช่องท้องช่วงล่าง คราวเจอเนื้องอกในมดลูก วันรุ่งขึ้นเลยให้คุณหมอสูติมาตรวจก็ไปอัลตร้าซาวที่แผนกสูติ เจอก้อนเนื้อ 2 ก้อน ขนาด 7 เซนติเมตรในมดลูก และ 10 เซนติเมตรที่ปีดมดลูก โดยที่พี่สาวเราไม่เคยมีอาการปวดท้องเวลามีประจำเดือน หรือ ประจำเดือนมามากผิดปกติเลย คุณหมอบอกว่าเพราะพี่สาวเรากระดูกเชิงกรานใหญ่ทำให้ก้อนเนื้องอกไม่ไปเบียดอวัยวะอื่นๆ
คุณหมอดูผลอัลตร้าซาว + ค่าเลือดแล้วสั่งผ่าวันรุ่งขึ้นเลย ขอบอกเลยว่าหลังจากส่งพี่สาวกลับไปที่ห้องพักตอนที่คุณหมอเรียกให้เราไปคุยกันด้านนอกถ้าคุณหมอไม่จูงเราไปนั่งก่อนที่จะเริ่มอธิบายผลทั้งหมด เราคงลงไปกองกับพื้นหน้าเคาเตอร์พยาบาลแล้ว เพราะคุณหมอบอกว่าพี่เราอาจจะเป็นมะเร็งได้ (พ่อเราเพิ่งตรวจเจอและรับการผ่าตัด + คีโมจบไปเมื่อปี60ช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงติดตามอาการ) แต่คุณหมอก็ปลอบเรานะว่ามันก็ไม่แน่เสมอไปนะ ต้องเอาชิ้นเนื้อไปตรวจก่อน สรุปคือพี่สาวเราต้องผ่าแบบเปิดหน้าท้อง แผลยาวประมาณ 8 นิ้วเพราะ 1. ก้อนเนื้องอกมันใหญ่ 2. หมอไม่อยากทำให้ก้อนเนื้องอกแตกซึ่งจะเสี่ยงที่เกิดการแพร่กระจายถ้าเป็นเนื้อร้าย
การเตรียมตัวก็คล้ายกับเรานะ ส่งพี่เข้าห้องผ่าตัดตอนบ่ายโมงกว่า แล้วเราก็กลับมารอในห้องผ่านไป 2 ชั่วโมงคุณพยาบาลมาบอกว่าผ่าตัดเสร็จแล้ว แต่ต้องดูพักดูอาการก่อน 2 ชั่วโมงแล้วถึงจะกลับมาที่ห้อง พี่สาวกลับมาที่นอนตอนทุ่มกว่าๆ หลังจากนั้นความบันเทิงก็เริ่ม พี่เราผ่าโดยที่วิธีบล็อกหลัง กับได้ยานอนหลับอ่อนๆ อันนี้คุณหมอบบอกว่าวิธีนี้จะช่วยให้พี่เราไม่ต้องทนปวดแผลในช่วง 24 ชั่วโมงแรกที่ยาบล็อกหลังออกฤทธิ์ แต่พี่สาวเราดันแพ้ยาบล็อกหลัง ทำให้คันไปทั้งตัว ต้องเรียกคุณพยาบาลกลางดึกมาให้ยาแก้แพ้เข้าเส้นไป กับตอนบ่ายวันถัดไปอีกรอบ จนยาบล็อกหลังหมดฤทธิ์ พี่สาวเราก็พยายามพลิกตัวบนเตียง พยายามลุกนั่ง แล้วก็เดินตามที่พยาบาลและเราเตือนนะซึ่งเขาบอกว่ามันเจ็บมากกกก วันที่ 3หลังผ่าก็เอาสายสวน สายน้ำเกลือออก เขาก็อาบน้ำเองได้ จนวันที่ 5 หลังผ่าผลแลปออกมาว่าไม่ใช่เนื้อร้าย แต่ก็มีการติดเชื้อซึ่งคุณหมอก็บอกว่ามันเหมือนมีระเบิดเวลาในตัวแตกเมื่อไหร่ก็ได้ ซึ่งถ้าแตกก็งานช้างเลยเพราะจะเป็นการผ่าที่ไม่สามารถเย็บปิดแผลได้เพราะต้องทำความสะอาดเพื่อฆ่าเชื้อจนแน่ใจก่อน
ตอนนี้พี่สาวเราอยู่ในช่วงพัก 30 วันตามคำสั่งหมอและห้ามยกของหนัก ขึ้นบันไดได้ 2-3 ขั้นมากกว่านั้นไม่ไหว ส่วนแผลปิดสนิทดี หลังตัดไหมคุณหมอให้แผ่นซิลิโคนเจลมาแปะแผลไว้อย่างต่ำ 1 เดือนจะได้ไม่เป็นแผลเป็น
จากอาการป่วยของพี่สาวเราอยากเตือนคุณสาวๆว่าถึงคุณไม่เคยปวดท้องแบบหนักๆเวลามีประจำเดือน ประจำเดือนมาปกติ ทุก 28 -30 วัน ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่มีเนื้องอกถ้ามีเวลาลองไปตรวจดู เลือกแบบอัลตร้าซาวด์ช่องท้องช่วงล่างก็ได้ไม่จำเป็นต้องขึ้นขาหยั่ง
เล่าประสบการณ์เมื่อ 2 พี่น้องต้องผ่ามดลูกออกห่างกันเพียง 8 เดือน
เริ่มจากกจขกทก่อน เราอายุ 39 ปี ที่เข้ารับการผ่าตัดเอามดลูกออกด้วยวิธีการส่องกล้อง ซึ่งเป็นวิธีที่คุณหมอบอกว่าสบายคนไข้ แต่ลำบากหมอเพราะแผลจะเล็ก ฟื้นตัวไว ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดเพราะ จขกท ป่วยเป็นเยื่อบุโพรงมดลูกงอกผิดปกติ เริ่มจากปวดท้องมาก พอตรวจเจอผนังมดลูกด้านหลังลูกหนากว่าด้านหน้า 3 เท่าซึ่งรักษามาประมาณ 7 ปีด้วยฮอร์โมนทั้งกินและฉีดมันเหมือนจะดีก็แล้วก็เริ่มแย่ลงอีก โดยสาเหตุหลักๆที่ตัดสินใจผ่าตัดเพราะมีอาการประจำเดือนมาไม่หยุด 3 เดือน ซึ่งเป็นการมาแบบกระปิดกระปอย มาๆหยุดๆ เคยมีประจำเดือนมา 40 วัน 2 ครั้งก็แบบนี้ และก่อนหน้านั้น 1 ปีเต็มที่เวลาประจำเดือนจะมาหรือไม่มาจะมีการปวดท้องมากแบบไม่สามารถนอนหรือ นั่งได้เลย ต้องยืนตัวงอๆ ตลอด
ต้นเดือนมีนาคม 2561 ได้พบคุณหมอ และแจ้งคุณหมอเลยว่า ขอผ่าเถอะไม่ไหวแล้ว แต่เนื่องจากมีอาการเลือดออกแบบนี้คุณหมอเลยนัดทำการขูดมดลูกก่อน อันนี้นอนพัก 1 คืนจบ นัดผ่าวันที่ 29 มีนาคม 61 โดยเข้าโรงพยาบาลตั้งแต่คืน 28 มีนาคม 61 ตอน 2 ทุ่มครึ่ง เข้าห้องก็เตรียมตัวมีคุณพยาบาลมาโกนขน สวนให้ระบาย (อันนี้โดน 2 รอบ กลางคืน กับเช้า) แล้วก็นอนไป ตี 5 ครึ่ง คุณพยาบาลมาปลุกให้ไปอาบน้ำแปลงฟัน เปลี่ยนชุดแล้วมาเปิดเส้น เจาะเลือดเก็บไว้ 6.30 เจ้าหน้าที่เข็นเตียงมารับไปห้องผ่าตัด คุณหมอดมยา กับ พยาบาลจะมาทวนชื่อนามสกุล คุณหมอที่รักษา วันนี้จะผ่าอะไร ผ่าแบบไหน 2 รอบแล้วให้เซ็นต์เอกสาร ให้ยาฆ่าเชื้อเข้าเส้น แล้วถึงจะเข้าห้องผ่าตัด ในห้องผ่าตัดนี้จะถอดเสื้อออกมีผ้าห่มคลุม ห้องผ่าตัดเย็นมาก คุณหมอเข้ามาคุยแบบชวนคุยไม่ให้เราเครียด ความดันจะได้ไม่ขึ้น มีแนะนำคุณหมอผู้ช่วยคุณพยาบาล แล้วคุณหมอดมยาเอาหน้ากากมาจ่อที่จมูกบอกให้สูดหายใจลึกๆๆ แล้วก็หลับไป ตื่นในห้องพักดูอาการเพราะหนาวพอได้ผ้าห่มมาห่มก็หลับไป มาตื่นตอนพยาบาลจะย้ายจากเตียงผ่าตัดไปเตียงในห้องพัก มีสายน้ำเกลือ กับ สายสวนปัสสาวะอยู่ สอบถามอาการแล้วหลับยาวไปถึง 5 โมงเย็น พี่สาวพาพ่อมาเยี่ยม
ตอนเย็นวันผ่าเราเริ่มพยายามพลิกตัวบนเตียงแล้ว เพราะคุณหมอบอกไว้ก่อนผ่าแล้วว่า การผ่าแบบส่องกล้องจะต้องมีการอัดก๊าซเข้าไปในช่องท้องเพื่อให้ทำงานง่ายดังนั้นถ้าเราไม่ขยับตัวจะเกิดอาหารลมดันทำให้ปวด แผลของเรา มี 3 จุดคือที่สะดือ 1 กับฝั่งด้านซ้าย 2 แผลเลยจะพลิกไปด้านขวา พอพลิกไปเท่านั้น เม่เจ้าลมตีขึ้นทั้งจุก ทั้งปวดต้องพลิกไปทางซ้ายแทน วันรุ่งขึ้นคุณหมอมาเช็คบอกเที่ยงๆจะเอาสายสวนออกถ้าลุกได้ให้ลุกเลย อันนี้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคนนะ ของเราคือเริ่มทานอาหารมื้อเที่ยงของวันที่ 2 ได้พอถอดสายสวนออกก็เริ่มลุกนั่ง ยืน และ เดินได้เลย พอเดินได้ก็เริ่มตด ยิ่งสบายท้องไม่แน่น เย็นวันที่ 30 มีค 61 เราอาบน้ำเองได้แล้ว พักอยู่โรงพยาบาล3คืน 4 วัน แล้วก็กลับไปพักที่คอนโดอีก 2 อาทิตย์ สำหรับการพักฟื้นนั้นคุณหมอบอกว่าถ้าเราต้องการไปทำงานจริงๆ นับจากวันผ่าตัดไปประมาณ 7-10วันก็กลับไปทำงานได้แล้วแต่เราลาไว้ 2 อาทิตย์แล้วก็เลยลาไประหว่างนั้นครบ 7 วันก็ตัดไหมแผลแห้งปกติ ช่วงที่พักก็ทำงานบ้านพวกดูดฝุ่น เช็ดบ้าน ซักเสื้อนอนไป ไม่อยู่เฉย เริ่มขับรถก่อนกลับไปทำงาน วันทำงานวันแรกก็มีปวดหน่วงๆบ้างแต่กินพาราก็หาย ครบ 1 เดือยก็ไปเที่ยวสิงค์โปรได้ตามกำหนดแต่ไม่ยกกระเป๋าหนักๆเท่านั้น นี้ก็เพิ่งตรวจหลังผ่า 6 เดือนไปก็ ok
มาตาพี่สาวเราบ้าง เพิ่งผ่าตัดเอามดลูกออกแบบเปิดหน้าท้องไปเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 61 ที่ผ่านมานี้เองโดยเริ่มจากพี่สาวเรามีอาการไข้ขึ้นสูง39 กว่าติดกันไม่ลงเลยพาไปโรงพยาบาล คุณหมอตรวจแล้วลองกดที่ท้องซึ่งพี่สาวบอกเจ็บไปหมด คุณหมอกลัวว่าจะมีการติดเชื้อเลยให้แอดมินวันนั้นเลยมีการให้ยาฆ่าเชื้อ เจาะเลือดไปเพาะเชื้อเจอว่าเป็นไข้รากสาดใหญ่ อันนี้คือคุณหมองง เพราะโรคนี้ส่วนใหญ่จะเกิดกับคนที่ไปเที่ยวป่า เดินป่าซึ่งพี่สาวเราไม่ได้เฉียดไปใกล้เลย ก็ได้ยารักษา ยาฆ่าเชื้อไป แต่ที่แปลกคือไข้ลงมาอยู่ที่ 37.5 – 38.5 เท่านั้นซึ่งถือว่ายังมีไข้อยู่ทั้งๆที่ได้ยาฆ่าเชื้อเข้าเส้นไป 5 ถุงแล้วและยังมีอาการแน่นท้องอยู่ คุณหมอเลยสั่งอัลตร้าซาวช่องท้องช่วงล่าง คราวเจอเนื้องอกในมดลูก วันรุ่งขึ้นเลยให้คุณหมอสูติมาตรวจก็ไปอัลตร้าซาวที่แผนกสูติ เจอก้อนเนื้อ 2 ก้อน ขนาด 7 เซนติเมตรในมดลูก และ 10 เซนติเมตรที่ปีดมดลูก โดยที่พี่สาวเราไม่เคยมีอาการปวดท้องเวลามีประจำเดือน หรือ ประจำเดือนมามากผิดปกติเลย คุณหมอบอกว่าเพราะพี่สาวเรากระดูกเชิงกรานใหญ่ทำให้ก้อนเนื้องอกไม่ไปเบียดอวัยวะอื่นๆ
คุณหมอดูผลอัลตร้าซาว + ค่าเลือดแล้วสั่งผ่าวันรุ่งขึ้นเลย ขอบอกเลยว่าหลังจากส่งพี่สาวกลับไปที่ห้องพักตอนที่คุณหมอเรียกให้เราไปคุยกันด้านนอกถ้าคุณหมอไม่จูงเราไปนั่งก่อนที่จะเริ่มอธิบายผลทั้งหมด เราคงลงไปกองกับพื้นหน้าเคาเตอร์พยาบาลแล้ว เพราะคุณหมอบอกว่าพี่เราอาจจะเป็นมะเร็งได้ (พ่อเราเพิ่งตรวจเจอและรับการผ่าตัด + คีโมจบไปเมื่อปี60ช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงติดตามอาการ) แต่คุณหมอก็ปลอบเรานะว่ามันก็ไม่แน่เสมอไปนะ ต้องเอาชิ้นเนื้อไปตรวจก่อน สรุปคือพี่สาวเราต้องผ่าแบบเปิดหน้าท้อง แผลยาวประมาณ 8 นิ้วเพราะ 1. ก้อนเนื้องอกมันใหญ่ 2. หมอไม่อยากทำให้ก้อนเนื้องอกแตกซึ่งจะเสี่ยงที่เกิดการแพร่กระจายถ้าเป็นเนื้อร้าย
การเตรียมตัวก็คล้ายกับเรานะ ส่งพี่เข้าห้องผ่าตัดตอนบ่ายโมงกว่า แล้วเราก็กลับมารอในห้องผ่านไป 2 ชั่วโมงคุณพยาบาลมาบอกว่าผ่าตัดเสร็จแล้ว แต่ต้องดูพักดูอาการก่อน 2 ชั่วโมงแล้วถึงจะกลับมาที่ห้อง พี่สาวกลับมาที่นอนตอนทุ่มกว่าๆ หลังจากนั้นความบันเทิงก็เริ่ม พี่เราผ่าโดยที่วิธีบล็อกหลัง กับได้ยานอนหลับอ่อนๆ อันนี้คุณหมอบบอกว่าวิธีนี้จะช่วยให้พี่เราไม่ต้องทนปวดแผลในช่วง 24 ชั่วโมงแรกที่ยาบล็อกหลังออกฤทธิ์ แต่พี่สาวเราดันแพ้ยาบล็อกหลัง ทำให้คันไปทั้งตัว ต้องเรียกคุณพยาบาลกลางดึกมาให้ยาแก้แพ้เข้าเส้นไป กับตอนบ่ายวันถัดไปอีกรอบ จนยาบล็อกหลังหมดฤทธิ์ พี่สาวเราก็พยายามพลิกตัวบนเตียง พยายามลุกนั่ง แล้วก็เดินตามที่พยาบาลและเราเตือนนะซึ่งเขาบอกว่ามันเจ็บมากกกก วันที่ 3หลังผ่าก็เอาสายสวน สายน้ำเกลือออก เขาก็อาบน้ำเองได้ จนวันที่ 5 หลังผ่าผลแลปออกมาว่าไม่ใช่เนื้อร้าย แต่ก็มีการติดเชื้อซึ่งคุณหมอก็บอกว่ามันเหมือนมีระเบิดเวลาในตัวแตกเมื่อไหร่ก็ได้ ซึ่งถ้าแตกก็งานช้างเลยเพราะจะเป็นการผ่าที่ไม่สามารถเย็บปิดแผลได้เพราะต้องทำความสะอาดเพื่อฆ่าเชื้อจนแน่ใจก่อน
ตอนนี้พี่สาวเราอยู่ในช่วงพัก 30 วันตามคำสั่งหมอและห้ามยกของหนัก ขึ้นบันไดได้ 2-3 ขั้นมากกว่านั้นไม่ไหว ส่วนแผลปิดสนิทดี หลังตัดไหมคุณหมอให้แผ่นซิลิโคนเจลมาแปะแผลไว้อย่างต่ำ 1 เดือนจะได้ไม่เป็นแผลเป็น
จากอาการป่วยของพี่สาวเราอยากเตือนคุณสาวๆว่าถึงคุณไม่เคยปวดท้องแบบหนักๆเวลามีประจำเดือน ประจำเดือนมาปกติ ทุก 28 -30 วัน ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่มีเนื้องอกถ้ามีเวลาลองไปตรวจดู เลือกแบบอัลตร้าซาวด์ช่องท้องช่วงล่างก็ได้ไม่จำเป็นต้องขึ้นขาหยั่ง