เกิดเป็นผู้หญิง เพราะอดีตเป็นชู้ จริงไหม?
ตอบว่าไม่จริง
การที่ผิดศีลข้อ ๓ เป็นชู้คนอื่นแล้วเกิดมาเป็นผู้หญิงอย่างนี้ไม่ใช่
เพราะสังคมตั้งเงื่อนไขขึ้นเพื่อการปกครอง ดูแล ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ซึ่งผู้หญิงจะมีสิทธิเสรีภาพต่ำกว่าผู้ชาย แต่ในธรรม โดยธรรมจริงแล้วไม่ใช่
คนที่จะเกิดมาเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็แล้วแต่วิบากกรรมของใครของเขา ซึ่งผู้ที่จะเกิดมาเป็นหญิงหรือชายนั้น มีองค์ประกอบดังนี้
๑. สุดแล้วแต่วิบากกรรมของเราว่าได้ทำสิ่งใดมาบ้าง
๒. สิ่งแวดล้อม เช่น พ่อแม่คู่นี้มียีนส์ที่ลูกจะเกิดมาเป็นหญิง ถ้าเราจะมาเกิดปฏิสนธิในท้องของพ่อแม่คู่นี้ ก็ต้องเกิดมาเป็นผู้หญิงแน่นอน เพราะกรรมพันธุ์ DNA ของพ่อแม่คู่นี้มีมาอย่างนี้ จะทำยังไงก็ต้องเกิดมาเป็นผู้หญิงอยู่ดี แต่ว่าบางคนขนาดเกิดออกมาเป็นผู้ชายยังกระเดียดไปทางผู้หญิง เพราะมีแรงวิบากกรรม ก็ต้องเอื้อวิบากตนเองและวิบากสิ่งแวดล้อม เป็นองค์ประกอบ
๓. ภาวะธรรมเวลานั้น
คนที่จะเกิดมาเป็นผู้หญิงจะต้องมีองค์ประกอบ ไม่ใช่อยู่ดีๆ หรือทำผิดกับผู้หญิงแล้วจะมาเกิดเป็นผู้หญิงไม่ใช่อย่างนี้ แต่มีองค์ประกอบหลายอย่างมาให้เกิดสัปปายะ
ในการให้ผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้า ส่วนผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลัง เพื่อเป็นเงื่อนไขในการปกครอง แบ่งแยกหน้าที่ไม่สับสนกัน
การที่เราผิดศีล ข้อ ๓ ในการมีชู้สู่ชายจะเกิดมาเป็นกระเทยหรือผู้หญิงหรือไม่นั้น อย่างนี้ไม่ใช่ ไม่จริงเลย ซึ่งไม่ใช่ทั้งหมดเลยทีเดียว
เพราะว่า คนที่ผิดศีลข้อ ๓ เป็นชู้กันนั้น อาจจะเกิดเป็น
ก็มี เป็นเกย์ เป็นทอม เป็นดี้ ขายตัวก็มี หรือเป็นกระเทยก็มี เป็นได้หมดสุดแล้วแต่วิบากกรรมของคนนั้น หรืออาจจะไม่ได้เป็นดังที่กล่าวมานี้ แต่อาจจะโดนคนอื่นข่มขืนก็ได้ หรือโดนข่มเหงก็ยังได้ ซึ่งไม่ตายตัว ไม่มีอะไรเสมอไป เพราะหลักธรรมได้บอกไว้แล้วว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่มีอะไรเสมอไปเป็นเช่นนั้น
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เกิดเป็นผู้หญิง เพราะอดีตเป็นชู้ จริงไหม?
ตอบว่าไม่จริง
การที่ผิดศีลข้อ ๓ เป็นชู้คนอื่นแล้วเกิดมาเป็นผู้หญิงอย่างนี้ไม่ใช่
เพราะสังคมตั้งเงื่อนไขขึ้นเพื่อการปกครอง ดูแล ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ซึ่งผู้หญิงจะมีสิทธิเสรีภาพต่ำกว่าผู้ชาย แต่ในธรรม โดยธรรมจริงแล้วไม่ใช่
คนที่จะเกิดมาเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็แล้วแต่วิบากกรรมของใครของเขา ซึ่งผู้ที่จะเกิดมาเป็นหญิงหรือชายนั้น มีองค์ประกอบดังนี้
๑. สุดแล้วแต่วิบากกรรมของเราว่าได้ทำสิ่งใดมาบ้าง
๒. สิ่งแวดล้อม เช่น พ่อแม่คู่นี้มียีนส์ที่ลูกจะเกิดมาเป็นหญิง ถ้าเราจะมาเกิดปฏิสนธิในท้องของพ่อแม่คู่นี้ ก็ต้องเกิดมาเป็นผู้หญิงแน่นอน เพราะกรรมพันธุ์ DNA ของพ่อแม่คู่นี้มีมาอย่างนี้ จะทำยังไงก็ต้องเกิดมาเป็นผู้หญิงอยู่ดี แต่ว่าบางคนขนาดเกิดออกมาเป็นผู้ชายยังกระเดียดไปทางผู้หญิง เพราะมีแรงวิบากกรรม ก็ต้องเอื้อวิบากตนเองและวิบากสิ่งแวดล้อม เป็นองค์ประกอบ
๓. ภาวะธรรมเวลานั้น
คนที่จะเกิดมาเป็นผู้หญิงจะต้องมีองค์ประกอบ ไม่ใช่อยู่ดีๆ หรือทำผิดกับผู้หญิงแล้วจะมาเกิดเป็นผู้หญิงไม่ใช่อย่างนี้ แต่มีองค์ประกอบหลายอย่างมาให้เกิดสัปปายะ
ในการให้ผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้า ส่วนผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลัง เพื่อเป็นเงื่อนไขในการปกครอง แบ่งแยกหน้าที่ไม่สับสนกัน
การที่เราผิดศีล ข้อ ๓ ในการมีชู้สู่ชายจะเกิดมาเป็นกระเทยหรือผู้หญิงหรือไม่นั้น อย่างนี้ไม่ใช่ ไม่จริงเลย ซึ่งไม่ใช่ทั้งหมดเลยทีเดียว
เพราะว่า คนที่ผิดศีลข้อ ๓ เป็นชู้กันนั้น อาจจะเกิดเป็นก็มี เป็นเกย์ เป็นทอม เป็นดี้ ขายตัวก็มี หรือเป็นกระเทยก็มี เป็นได้หมดสุดแล้วแต่วิบากกรรมของคนนั้น หรืออาจจะไม่ได้เป็นดังที่กล่าวมานี้ แต่อาจจะโดนคนอื่นข่มขืนก็ได้ หรือโดนข่มเหงก็ยังได้ ซึ่งไม่ตายตัว ไม่มีอะไรเสมอไป เพราะหลักธรรมได้บอกไว้แล้วว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่มีอะไรเสมอไปเป็นเช่นนั้น
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์