อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย.....
ส่วนที่สอง กรณีการยุบพรรคซึ่งให้ กกต.ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้นหากมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดต่อไปนี้
1. กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ ในรัฐธรรมนูญ
2. กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข
3. ดำเนินกิจการอันมีลักษณะเป็นการแสวงหากำไรมาแบ่งปันกัน
4. ยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่ สมาชิกกระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้ พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม
5. พรรคการเมืองหรือผู้ใดให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อมเพื่อจูงใจให้บุคคลหนึ่งบุคคลใด สมัครเข้าเป็นสมาชิก ทั้งนี้ เว้นแต่สิทธิหรือประโยชน์ซึ่งบุคคลจะพึงได้รับในฐานะที่เป็นสมาชิก
6. ตั้งสาขาพรรคการเมืองและตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด นอกราชอาณาจักร
7. พรรคการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง และสมาชิกรับบริจาค จากผู้ใดเพื่อกระทำการหรือสนับสนุนการกระทำอันเป็นการบ่อนทำลายความมั่นคงของราชอาณาจักร ราชบัลลังก์ เศรษฐกิจของประเทศ หรือราชการแผ่นดิน
8. พรรคการเมืองหรือผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองกระทำการ หรือส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นการก่อกวนหรือคุกคามความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี ของประชาชน หรือกระทำการอันเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ
9. พรรคการเมือง สมาชิก หรือผู้ใด เรียก รับ หรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ใด เพื่อให้ผู้นั้นหรือบุคคลอื่นได้รับแต่งตั้ง หรือสัญญาว่าจะให้ได้รับ แต่งตั้ง หรือเพราะเหตุที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือตำแหน่งใดในการบริหาร ราชการแผ่นดินหรือในหน่วยงานของรัฐ รวมทั้ง ห้ามมิให้ผู้ใดให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่พรรคการเมือง สมาชิก หรือผู้ใด เพื่อจูงใจให้ตนหรือบุคคลอื่นได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือตำแหน่งใดในการบริหารราชการแผ่นดินหรือในหน่วยงานของรัฐ
10. พรรคการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่า มีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
11. พรรคการเมืองหรือสมาชิกรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์ อื่นใดจาก 1) บุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทย 2) นิติบุคคลตามกฎหมายต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจหรือกิจการหรือจดทะเบียนสาขาอยู่ใน หรือนอกราชอาณาจักร 3) นิติบุคคลที่จดทะเบียนในราชอาณาจักรโดยมีบุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทยมีทุนหรือเป็นผู้ถือหุ้น เกินกว่าร้อยละ 49 4) คณะบุคคล หรือนิติบุคคลที่ได้รับทุนหรือได้รับเงินอุดหนุนจากต่างประเทศซึ่งมีวัตถุประสงค์ ดำเนินกิจการเพื่อประโยชน์ของบุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทยหรือซึ่งมีผู้จัดการหรือกรรมการเป็นบุคคล ผู้ไม่มีสัญชาติไทย
ทั้งนี้ ตามขั้นตอน เมื่อศาลรัฐธรรมนูญดำเนินการไต่สวนแล้วมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองกระทำการตามสิ่งที่ห้ามไว้ให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมืองและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น
ภายหลังนายทะเบียนประกาศคำสั่งยุบพรรคการเมืองในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ห้ามมิให้บุคคลใดใช้ชื่อ ชื่อย่อ หรือภาพเครื่องหมายของพรรคการเมืองที่ถูกยุบ และห้ามกรรมการบริหารพรรคชุดดังกล่าวไปจดทะเบียนตั้งพรรคการเมืองใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองหรือส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ขึ้นอีก ภายในระยะเวลา 10 ปี
ทั้งหมดล้วนแต่เป็นรายละเอียดที่แต่ละพรรคการเมืองจะต้องระมัดระวังไม่ให้พรรคการเมืองต้องถูกยุบ
https://thaipublica.org/2018/07/political-parties-act-of-thailand-02/
https://www.posttoday.com/politic/report/537676
https://thaipublica.org/2018/07/political-parties-act-of-thailand-02/
http://oknation.nationtv.tv/blog/naiman/2008/07/08/entry-1
ย้อนดูสถิติที่ กกต.เคยให้ใบเหลือง หรือ สั่งเลือกตั้งใหม่ ส.ส.หลังประกาศผลเลือกตั้ง ระหว่างปี 2553 จนถึงปี 2555 ในข้อกล่าวหา ทุจริตเลือกตั้งด้วยการซื้อเสียง พบว่า กกต.แจกใบเหลือง พรรคประชาธิปัตย์ 2 ราย แต่ศาลฎีกาแผนคดีเลือกตั้ง ยกทั้ง 2คำร้อง / ขณะที่ พรรคภูมิใจไทย ถูกแจกใบเหลืองมากที่สุด 3 ราย แต่ศาลฎีกาไม่ยืนตาม กกต.ใน 2คำร้อง
ส่วนยาแรงอย่างการตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี ด้วยการให้ใบแดง พบว่า พรรคภูมิใจไทย ถูกใบแดงมากที่สุด 4 ใบ โดยศาลฎีกายืนตาม กกต.เพียง 2 ใบแดง / ขณะที่พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ต่างถูก กกต.แจกใบแดง พรรคละ 1 ราย ซึ่งศาลฎีกา ยืนตามความเห็นของ กกต.
https://www.voicetv.co.th/read/112165
ดูในอดีตสิคะ...ค้นมาให้อ่านเท่าที่หาได้
น่าอายไหมคะ ว่าคนอื่นโกงที่แท้ๆ พวกพรรคและนักการเมืองที่ยื่นหน้ายื่นตา ว่าคนอื่นโกง
ล้วนเคยโกงกันมาแล้วทั้งนั้น
🎣~มาลาริน~นักการเมืองตัวดีมาว่ารบ.โกง ทั้งที่พรรคตัวเองเคยโกงเลือกตั้งหรือโดนยุบมาก่อน นึกว่าใครไม่รู้หรือน่าอายจริงๆ
ส่วนที่สอง กรณีการยุบพรรคซึ่งให้ กกต.ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้นหากมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดต่อไปนี้
1. กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ ในรัฐธรรมนูญ
2. กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข
3. ดำเนินกิจการอันมีลักษณะเป็นการแสวงหากำไรมาแบ่งปันกัน
4. ยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่ สมาชิกกระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้ พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม
5. พรรคการเมืองหรือผู้ใดให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อมเพื่อจูงใจให้บุคคลหนึ่งบุคคลใด สมัครเข้าเป็นสมาชิก ทั้งนี้ เว้นแต่สิทธิหรือประโยชน์ซึ่งบุคคลจะพึงได้รับในฐานะที่เป็นสมาชิก
6. ตั้งสาขาพรรคการเมืองและตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด นอกราชอาณาจักร
7. พรรคการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง และสมาชิกรับบริจาค จากผู้ใดเพื่อกระทำการหรือสนับสนุนการกระทำอันเป็นการบ่อนทำลายความมั่นคงของราชอาณาจักร ราชบัลลังก์ เศรษฐกิจของประเทศ หรือราชการแผ่นดิน
8. พรรคการเมืองหรือผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองกระทำการ หรือส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นการก่อกวนหรือคุกคามความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี ของประชาชน หรือกระทำการอันเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ
9. พรรคการเมือง สมาชิก หรือผู้ใด เรียก รับ หรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ใด เพื่อให้ผู้นั้นหรือบุคคลอื่นได้รับแต่งตั้ง หรือสัญญาว่าจะให้ได้รับ แต่งตั้ง หรือเพราะเหตุที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือตำแหน่งใดในการบริหาร ราชการแผ่นดินหรือในหน่วยงานของรัฐ รวมทั้ง ห้ามมิให้ผู้ใดให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่พรรคการเมือง สมาชิก หรือผู้ใด เพื่อจูงใจให้ตนหรือบุคคลอื่นได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือตำแหน่งใดในการบริหารราชการแผ่นดินหรือในหน่วยงานของรัฐ
10. พรรคการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่า มีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
11. พรรคการเมืองหรือสมาชิกรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์ อื่นใดจาก 1) บุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทย 2) นิติบุคคลตามกฎหมายต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจหรือกิจการหรือจดทะเบียนสาขาอยู่ใน หรือนอกราชอาณาจักร 3) นิติบุคคลที่จดทะเบียนในราชอาณาจักรโดยมีบุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทยมีทุนหรือเป็นผู้ถือหุ้น เกินกว่าร้อยละ 49 4) คณะบุคคล หรือนิติบุคคลที่ได้รับทุนหรือได้รับเงินอุดหนุนจากต่างประเทศซึ่งมีวัตถุประสงค์ ดำเนินกิจการเพื่อประโยชน์ของบุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทยหรือซึ่งมีผู้จัดการหรือกรรมการเป็นบุคคล ผู้ไม่มีสัญชาติไทย
ทั้งนี้ ตามขั้นตอน เมื่อศาลรัฐธรรมนูญดำเนินการไต่สวนแล้วมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองกระทำการตามสิ่งที่ห้ามไว้ให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมืองและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น
ภายหลังนายทะเบียนประกาศคำสั่งยุบพรรคการเมืองในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ห้ามมิให้บุคคลใดใช้ชื่อ ชื่อย่อ หรือภาพเครื่องหมายของพรรคการเมืองที่ถูกยุบ และห้ามกรรมการบริหารพรรคชุดดังกล่าวไปจดทะเบียนตั้งพรรคการเมืองใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองหรือส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ขึ้นอีก ภายในระยะเวลา 10 ปี
ทั้งหมดล้วนแต่เป็นรายละเอียดที่แต่ละพรรคการเมืองจะต้องระมัดระวังไม่ให้พรรคการเมืองต้องถูกยุบ
https://thaipublica.org/2018/07/political-parties-act-of-thailand-02/
https://www.posttoday.com/politic/report/537676
https://thaipublica.org/2018/07/political-parties-act-of-thailand-02/
http://oknation.nationtv.tv/blog/naiman/2008/07/08/entry-1
ย้อนดูสถิติที่ กกต.เคยให้ใบเหลือง หรือ สั่งเลือกตั้งใหม่ ส.ส.หลังประกาศผลเลือกตั้ง ระหว่างปี 2553 จนถึงปี 2555 ในข้อกล่าวหา ทุจริตเลือกตั้งด้วยการซื้อเสียง พบว่า กกต.แจกใบเหลือง พรรคประชาธิปัตย์ 2 ราย แต่ศาลฎีกาแผนคดีเลือกตั้ง ยกทั้ง 2คำร้อง / ขณะที่ พรรคภูมิใจไทย ถูกแจกใบเหลืองมากที่สุด 3 ราย แต่ศาลฎีกาไม่ยืนตาม กกต.ใน 2คำร้อง
ส่วนยาแรงอย่างการตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี ด้วยการให้ใบแดง พบว่า พรรคภูมิใจไทย ถูกใบแดงมากที่สุด 4 ใบ โดยศาลฎีกายืนตาม กกต.เพียง 2 ใบแดง / ขณะที่พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ต่างถูก กกต.แจกใบแดง พรรคละ 1 ราย ซึ่งศาลฎีกา ยืนตามความเห็นของ กกต.
https://www.voicetv.co.th/read/112165
ดูในอดีตสิคะ...ค้นมาให้อ่านเท่าที่หาได้
น่าอายไหมคะ ว่าคนอื่นโกงที่แท้ๆ พวกพรรคและนักการเมืองที่ยื่นหน้ายื่นตา ว่าคนอื่นโกง
ล้วนเคยโกงกันมาแล้วทั้งนั้น