สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
เงินที่แจกก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นเงินของขวัญวันปีใหม่ มันก็เหมือนกับเงินโบนัสนั่นแหละคับ คนที่ได้รับมีสิทธ์เอาไปทำอะไรก็ได้ ประเทศไทยก็เหมือนบริษัทใหญ่ๆที่มีพนักงานหลากหลายต่ำแหน่ง พอสิ้นปีคนกลุ่มหนึ่งที่เป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดก็ได้รับเงินโบนัสจากรรมการบริหารที่ได้เข้ามาบริหารบริษัทนี้
ส่วนคำถามที่ว่า คิดยังไงกับเงินภาษีของพวกเรา
ผมมองว่าเงินภาษีทั้งหมดไม่ได้มาจากกลุ่มของคนที่จ่ายให้รัฐทุกๆปีเท่านั้นนะครับ การทำงานทุกๆภาคส่วนรวมถึงบริโภคขั้นพื้นฐานของคนในประเทศทุกคนก็มีการจ่ายภาษีไปในตัวอยู่แล้ว ยกตัวอย่าง ชาวนาแค่ซื้อเมล็ดพันธ์/ปุ๋ย/ยาฆ่าแมลง ในนั้นก็มีภาษีรวมไปแล้ว หรือจะเป็นกลุ่มคนใช้แรงงาน อาหารที่พวกเค้าซื้อกิน น้ำไฟที่พวกเค้าซื้อมาใช้ ค่าใช้การเดินในการเดินทางก็มีกระบวนการด้านจ่ายภาษีรวมอยู่ทั้งหมด เงินที่เค้าแจกมันก็คือภาษีที่คนกลุ่มนี้จ่ายไว้ด้วย
หรือมองกลับกันถนนที่พวกคนมีรถใช้ ทางด่วน รางรถไฟฟ้า เสาไฟฟ้า ทางเท้า หรือสาธาณะสำหรับคนกรุง ทั้งหมดมันก็มีเงินภาษีของคนต่างจังหวัดที่ไม่เคยเข้ากรุงเทพฯรวมอยู่เหมือนกัน
เงินเดือนของพวกเรามันก็มาจากการใช้จ่ายของคนจนส่วนใหญ่ในประเทศ เพราะทุกบริษัทในโลกล้วนขายสินค้าหรือบริการให้คนส่วนมากในโลกหริอก็คือคนจนทั้งนั้น คิดง่ายๆครับถ้าไม่มีพวกเค้ามันจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าอยู่ดีๆคน 70%ในประเทศวันดีคืนดีหายแว๊บไปกับตา คุณจะเอาสินค้าของคุณไปขายใครล่ะครับ ถ้ายอดขายหายไป 70% คุณจะยังได้เงินเดือนหรือรายได้ในระดับที่คุณได้อยู่ในปัจจุบันมั้ย..?
ที่นี้จะเข้าใจเองว่าทุกวิกฤตเศรษฐกิจมันเกิดจากการที่คนส่วนใหญ่ในประเทศไม่มีกำลังซื้อไง
ส่วนคำถามที่ว่า คิดยังไงกับเงินภาษีของพวกเรา
ผมมองว่าเงินภาษีทั้งหมดไม่ได้มาจากกลุ่มของคนที่จ่ายให้รัฐทุกๆปีเท่านั้นนะครับ การทำงานทุกๆภาคส่วนรวมถึงบริโภคขั้นพื้นฐานของคนในประเทศทุกคนก็มีการจ่ายภาษีไปในตัวอยู่แล้ว ยกตัวอย่าง ชาวนาแค่ซื้อเมล็ดพันธ์/ปุ๋ย/ยาฆ่าแมลง ในนั้นก็มีภาษีรวมไปแล้ว หรือจะเป็นกลุ่มคนใช้แรงงาน อาหารที่พวกเค้าซื้อกิน น้ำไฟที่พวกเค้าซื้อมาใช้ ค่าใช้การเดินในการเดินทางก็มีกระบวนการด้านจ่ายภาษีรวมอยู่ทั้งหมด เงินที่เค้าแจกมันก็คือภาษีที่คนกลุ่มนี้จ่ายไว้ด้วย
หรือมองกลับกันถนนที่พวกคนมีรถใช้ ทางด่วน รางรถไฟฟ้า เสาไฟฟ้า ทางเท้า หรือสาธาณะสำหรับคนกรุง ทั้งหมดมันก็มีเงินภาษีของคนต่างจังหวัดที่ไม่เคยเข้ากรุงเทพฯรวมอยู่เหมือนกัน
เงินเดือนของพวกเรามันก็มาจากการใช้จ่ายของคนจนส่วนใหญ่ในประเทศ เพราะทุกบริษัทในโลกล้วนขายสินค้าหรือบริการให้คนส่วนมากในโลกหริอก็คือคนจนทั้งนั้น คิดง่ายๆครับถ้าไม่มีพวกเค้ามันจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าอยู่ดีๆคน 70%ในประเทศวันดีคืนดีหายแว๊บไปกับตา คุณจะเอาสินค้าของคุณไปขายใครล่ะครับ ถ้ายอดขายหายไป 70% คุณจะยังได้เงินเดือนหรือรายได้ในระดับที่คุณได้อยู่ในปัจจุบันมั้ย..?
ที่นี้จะเข้าใจเองว่าทุกวิกฤตเศรษฐกิจมันเกิดจากการที่คนส่วนใหญ่ในประเทศไม่มีกำลังซื้อไง
ความคิดเห็นที่ 13
เมื่อก่อนซื้อได้เฉพาะร้านธงฟ้า เกิดปัญหาว่าทางร้านขายเกินราคา และเงินไปกระจุกแต่ร้านใหญ่ๆ
น่าจะเป็นการแก้ปัญหาจุดนี้เพื่อกระจายรายได้ให้ทั่วถึงมากขึ้น ลองนึกภาพคนที่ต้องไปต่อคิวรอร้านเปิด แย่งกันซื้อก่อนของหมด ของที่เขาซื้อก็ข้าวสาร น้ำมันพืช น้ำปลา ผงซักฟอก ฯลฯ
บางครอบครัวซื้อเข้าบ้านเดือนละครั้ง
ตอนนี้สามารถกดเงินได้ เอาเงินให้ลูกไป ร.ร. ได้เป็นเดือน
นโยบายภาครัฐหลายๆ นโยบาย เช่น บ้านเอื้ออาทร บ้านล้านหลัง เรียนฟรี บัตร 30 บาท รักษาฟรี
พักหนี้เกษตรกร กองทุนหมู่บ้าน เงินยังชีพผู้ชรา-พิการ ประกันราคาสินค้าเกษตร และอีกหลายๆ โครงการ ไม่ว่าจะเกิดจากรัฐบาลไหนล้วนแต่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนในประเทศทั้งนั้น
แต่มันก็จะมีพวกเห็บ หมัด สนิม ปริสิต อยู่ทุกที่ที่คอยอาศัยช่องโหว่ พวกพ้อง หาประโยชน์ จากโครงการเหล่านี้เบียดเบียนผู้อื่น ทุตจริต คอรัปชั่น
แต่อย่างน้อยที่สุดเงินก็ไปถึงมือคนจนจริงๆ ที่เขาดิ้นรนไม่ง้อมืองอเท้า ช่วยแบ่งเบาภาระเขาบ้าง
นโยบายเอื้อนายทุนก็มีเยอะนะ คนจนก็ได้แต่มองตาปริบๆ พอมีนโยบายช่วยคนจน คนจะมองแต่ข้อเสีย เป็นมาทุกรัฐบาล ทุกยุคทุกสมัย
เปิดใจมองส่วนที่ดีครับ
น่าจะเป็นการแก้ปัญหาจุดนี้เพื่อกระจายรายได้ให้ทั่วถึงมากขึ้น ลองนึกภาพคนที่ต้องไปต่อคิวรอร้านเปิด แย่งกันซื้อก่อนของหมด ของที่เขาซื้อก็ข้าวสาร น้ำมันพืช น้ำปลา ผงซักฟอก ฯลฯ
บางครอบครัวซื้อเข้าบ้านเดือนละครั้ง
ตอนนี้สามารถกดเงินได้ เอาเงินให้ลูกไป ร.ร. ได้เป็นเดือน
นโยบายภาครัฐหลายๆ นโยบาย เช่น บ้านเอื้ออาทร บ้านล้านหลัง เรียนฟรี บัตร 30 บาท รักษาฟรี
พักหนี้เกษตรกร กองทุนหมู่บ้าน เงินยังชีพผู้ชรา-พิการ ประกันราคาสินค้าเกษตร และอีกหลายๆ โครงการ ไม่ว่าจะเกิดจากรัฐบาลไหนล้วนแต่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนในประเทศทั้งนั้น
แต่มันก็จะมีพวกเห็บ หมัด สนิม ปริสิต อยู่ทุกที่ที่คอยอาศัยช่องโหว่ พวกพ้อง หาประโยชน์ จากโครงการเหล่านี้เบียดเบียนผู้อื่น ทุตจริต คอรัปชั่น
แต่อย่างน้อยที่สุดเงินก็ไปถึงมือคนจนจริงๆ ที่เขาดิ้นรนไม่ง้อมืองอเท้า ช่วยแบ่งเบาภาระเขาบ้าง
นโยบายเอื้อนายทุนก็มีเยอะนะ คนจนก็ได้แต่มองตาปริบๆ พอมีนโยบายช่วยคนจน คนจะมองแต่ข้อเสีย เป็นมาทุกรัฐบาล ทุกยุคทุกสมัย
เปิดใจมองส่วนที่ดีครับ
ความคิดเห็นที่ 2
บัตรคนจน ซื้อของคนรวย ทำไมไม่คิดให้ไปอุดหนุนคนจนด้วยกันล่ะ นิยามของคนจนยุคนี้ คือตัวกลางส่งผ่านความมั่งคั่ง มีคนได้แน่ๆคือ คะแนนเสียงกับนายทุน จริงๆแล้วการโยนอาหารให้มันก็ดี แต่จะดีกว่าถ้าโยนเครื่องมือหรือสร้างโอกาสให้กับคนจนเอาไปหากิน งบละลายทรัพย์แบบนี้ เอาไปลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานดีกว่า
แสดงความคิดเห็น
บัตรคนจน +500บาท จำนวน 11ล. คน ช่วยอะไรพวกเขาได้จริงๆไหมครับ
1.คนกลุ่มนี้เอาเงินไปใช้เกิดประโยชน์ หรือใช้อย่างไร กินเหล้า หวย พนัน (อาจจะคิดลบไปเองก็ได้)
2.มันน่าจะมากพอไปทำสาธารณะประโยชน์อย่างพวกอุปกรณ์การแพทย์ เอาสายไฟฟ้าลงดิน
พัฒนาระบบขนส่ง รถเมย์ รถไฟ รึป่าว
3.มันจะไม่คล้ายกับเวเนสุเอร่าใช่ไหมครับ (ที่ว่าแจกเงินเพื่อหาเสียง จนเงินเฟื้อ)
4.ถ้าจะช่วยพวกเขาจริงๆควรส่งเสริมในทางอื่นดีกว่าไหมครับอย่างการสร้างอาชีพ
เมื่อก่อนยังมี OTOP นะ ผมว่าถ้าพื้นที่นั้นสร้างรายได้มันก็ทำให้คนไม่กระจุกตัวในเมืองใหญ่ด้วย
5.คนที่อยู่ใน 55ล ที่เหลืออย่างผม อย่างชาวพันทิพรู้สึกยังไงกับเงินภาษีของท่าน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทุกท่านคิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ
***ขออนุญาติตอบรวมๆใน คห 99 นะครับ***