กระทู้นี้ไม่ได้ต้องการคำแนะนำอะไรนะครับ (ถ้าใครแนะนำก็ขอบคุณมาก ๆ)
อยากแค่ระบายเฉย ๆ .. ซึ่งเป็นการระบาย "ข้างเดียว" นะครับ หมายความว่า เรื่องราวอาจจะไม่ใช้ความจริงของอีกฝ่าย
เรื่องมันเริ่มมาจาก
ผมรักภรรยาผมมากครับ รักจนคิดว่าขาดเค้าไม่ได้ .. ผมสูญเสียแม่ไป เนื่องจากโรคร้าย และภรรยาก็เข้ามาเติมเต็มช่วงนั้น
ทำให้ผมรู้สึกว่าเค้าเป็นตัวแทนแม่ .. เราก็มีความสุขกันจนแต่งงาน
วันนึงภรรยาผมเจอโรคร้าย ผมแทบช๊อค "ซึ่งตรงนี้" เป็นจุดเริ่มต้นของนิสัยแย่สุด ๆ ของผม "ขี้กังวล"
คือตอนที่แฟนเจอ ผมกังวลต่างต่าง นานา ผมหาวิธีรักษาแฟนใน internet, ผมไปขอเป็น friend กับหมอและคุยปรึกษาเป็น second op.
ผมขอเป็นเพื่อนกับ คนทุกคนที่เป็นโรคเดียวกับแฟน พยายามคุยว่าเค้าอยู่ยังไง รักษายังไง แล้วมาปรับกับแฟน
และก็ให้กำลังใจแฟนแบบ over มาก ๆ (จนแฟนพูดว่า ถ้าเค้าจะนิสัยไม่ดีขึ้นก็เพราะเทอตามใจนี่แหล่ะ)
แต่ลึก ๆ ผมก็ยังกังวล จนมีช่วงนึงผมไปหาหมอ จิตเวช หมอบอกผมเป็น โรคขี้กังวล เพราะผูกชิวิตตัวเองกับแฟนมาก
จิง ๆ เค้าก็พูดอ้อม ๆ ว่าให้ลองมีลูกดู (บังเอิญแฟนผมเป็น แต่ยังมีลูกได้)
ผมก็มีลูก ซึ่งในใจผมคิดว่า ลูกสามารถทดแทนแฟนผมได้ ความขี้กังวลของผมก็มากขึ้น ๆ
ลูกผมก็เจ็บป่วยตามธรรมดาเด็กทั่วไป แต่อาจจะมากกว่านิดหน่อย ยกตัวอย่างเช่น
1. ลูกผมถ่ายเป็นเลือดตอนเด็ก
2. ลูกผมมีปากสตอเบอรี่ที่หัว
3. ลูกผมกรวยไตขยาย (แต่ sound อีกรอบไม่เป็นอะไร)
4. ล่าสุดปวดท้องติดต่อกัน 1 เดือน
นิสัยแย่ ๆ ของผมแปลงไปลงกับแฟน คือผมอยากจะพูดให้แฟนช่วยคิด ช่วยกังวล แต่แฟนผมนิสัยคนละขั้ว เค้ามอง positive สุด ๆ
ซึ่งตัวผมเองก็มอง negative สุด ๆ เช่นนะ
ลูกถ่ายเป็นเลือด -> แฟนมองไม่เป็นไรแพ้อาหาร -> ผมมองว่าต้องเป็นโรคร้ายในลำไส้ -> ความจริงคือแพ้อาหาร
ลูกปวดท้อง 1 เดือน -> แฟนมองเด๋วก็หายไม่ต้องหาหมอ -> ผมมองว่าต้องไป กลัวเป็นโรคร้าย -> ความจริงยังไม่รู้ แต่ต้องกินยาขับลมตลอด
ลูกเป็นไฝ -> แฟนมองปกติ -> ผมมองกลัวเป็นโรคร้าย -> ความจริง ก็เป็นไฝ
ซึ่งผมอะยอมรับเลยว่าเยอะกว่าปกติ แต่การที่ไปหาหมอผมก็ได้อะไรหลาย ๆ อย่างมาปรับใช้ ซึ่งถ่าไม่ไปก็ไม่ได้ข้อมูลเหล่านั้น
เมื่อวาน ผมพูดจาไม่ดีเพราะผมทนไม่ไหวที่ผมปรึกษแฟนเรื่องอาการลูก (เพราะลูกถ่ายสีดำ)
แต่แฟนตอบเชิงรำคาญผม แล้วผมก็ทนไม่ไหว เอาอุจจาระลูกไปตรวจ
แฟนผมขอเลิกผมต่อหน้าลูก (ซึ่งสัญญากันหลายรอบแล้วว่าจะไม่ทำ) เพราะทนไม่ไหวที่ผมพูดแล้วทำให้เค้าคิดเหมือนผมว่า ว่าเค้าไม่รักลูก
วันนี้ตอนเช้าแฟนผมก็ย้ำใส่ผมว่า
ทุกคนที่เค้าปรึกษามารวมทั้งแฟน มองว่าผม "เห็นแก่ตัว" พูดย้ำหลายสิบรอบ
บอกว่าผมกลัวสูญเสีย จนไม่รักษาความสุขตรงหน้า ผมขอโอกาสเค้าแก้ตัว แต่เค้าไม่ยอม บอกว่า แก่ก็อยู่คนเดียวไป
ตอนนี้ความรู้สึกผมก็ทุกข์ใจมาก
แต่ความคิดก็วน ๆ ตรงที่ว่า
เราคิดว่าเราไม่เห็นแก่ตัว (คนอื่นเราไม่สนนะ) --> แต่คนที่เรารักคิดแบบนั้น
เราไม่อยากเลิกกับเค้า -> เค้าบอกว่าเราเลิกกันแล้ว
เรารักลูกมาก -> เค้าบอกเราเห็นแก่ตัวที่เป็นแบบนั้น
เราคิดว่าที่ผ่านมาพยายามปรับแล้ว -> เค้าบอกว่าเค้าให้อภัยเรามาตลอด
ตอนนี้เลยไม่รู้ว่าจะไปต่อยังไง ก็บอกเค้าว่าจะปรับตัว
เค้าบอกว่า จะดู 2 อาทิตย์ เค้าก็จะพยายามทำให้ปกติ (แต่อารมแบบเหวี่ยง ๆ ใส่ตลอด พูดจาแทงใจดำใส่เราตลอด คือเค้าบอกว่าเค้าจะพูด ไม่ทน)
พื้นฐานความคิดผมนะครับ
1. ผมไม่คิดว่าอยู่คนเดียวไม่ได้ แต่ผมชอบเห็นคนอยู่กับผมมีความสุข
2. แต่ผมมีเรื่องเครียดมาก จนพอมีปัญหาก็ชอบพูดจากดดันให้อีกฝ่ายคิด (ซึ่งเรื่องเดียวที่ยอมเค้าไม่ได้ คือสุขภาพลูก เรื่องเดียวจริง ๆ)
ตอนนี้ฝ่ายนั้น น่าจะ สบายใจ มีความสุขอยู่ ในความคิดผมนะครับ
ซึ่งผมก็รู้สึกดีที่เค้าสุขนะครับ .. แต่ผมรู้สึกแย่มากเลย ที่ลูกควรจะได้พ่อแม่ที่ไม่ทะเลาะกัน
เพราะผมพร้อมจะปรับตัว .. แต่ถ้าเป็นเรื่องลูกมันก็คงจบแบบนี้เหมือนเดิม
ไปไม่ถูกแล้วครับ ><
นิสัยส่วนตัว -> เช้าทำงานเย็นกลับบ้าน ไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่ ขี้กังวล ไม่ค่อยสังคม (ไม่รู้ต้องปรับอะไรมั้ย)
นิสัยที่แก้ไม่หายของตัวเองจนทำให้ เสียครอบครัว
อยากแค่ระบายเฉย ๆ .. ซึ่งเป็นการระบาย "ข้างเดียว" นะครับ หมายความว่า เรื่องราวอาจจะไม่ใช้ความจริงของอีกฝ่าย
เรื่องมันเริ่มมาจาก
ผมรักภรรยาผมมากครับ รักจนคิดว่าขาดเค้าไม่ได้ .. ผมสูญเสียแม่ไป เนื่องจากโรคร้าย และภรรยาก็เข้ามาเติมเต็มช่วงนั้น
ทำให้ผมรู้สึกว่าเค้าเป็นตัวแทนแม่ .. เราก็มีความสุขกันจนแต่งงาน
วันนึงภรรยาผมเจอโรคร้าย ผมแทบช๊อค "ซึ่งตรงนี้" เป็นจุดเริ่มต้นของนิสัยแย่สุด ๆ ของผม "ขี้กังวล"
คือตอนที่แฟนเจอ ผมกังวลต่างต่าง นานา ผมหาวิธีรักษาแฟนใน internet, ผมไปขอเป็น friend กับหมอและคุยปรึกษาเป็น second op.
ผมขอเป็นเพื่อนกับ คนทุกคนที่เป็นโรคเดียวกับแฟน พยายามคุยว่าเค้าอยู่ยังไง รักษายังไง แล้วมาปรับกับแฟน
และก็ให้กำลังใจแฟนแบบ over มาก ๆ (จนแฟนพูดว่า ถ้าเค้าจะนิสัยไม่ดีขึ้นก็เพราะเทอตามใจนี่แหล่ะ)
แต่ลึก ๆ ผมก็ยังกังวล จนมีช่วงนึงผมไปหาหมอ จิตเวช หมอบอกผมเป็น โรคขี้กังวล เพราะผูกชิวิตตัวเองกับแฟนมาก
จิง ๆ เค้าก็พูดอ้อม ๆ ว่าให้ลองมีลูกดู (บังเอิญแฟนผมเป็น แต่ยังมีลูกได้)
ผมก็มีลูก ซึ่งในใจผมคิดว่า ลูกสามารถทดแทนแฟนผมได้ ความขี้กังวลของผมก็มากขึ้น ๆ
ลูกผมก็เจ็บป่วยตามธรรมดาเด็กทั่วไป แต่อาจจะมากกว่านิดหน่อย ยกตัวอย่างเช่น
1. ลูกผมถ่ายเป็นเลือดตอนเด็ก
2. ลูกผมมีปากสตอเบอรี่ที่หัว
3. ลูกผมกรวยไตขยาย (แต่ sound อีกรอบไม่เป็นอะไร)
4. ล่าสุดปวดท้องติดต่อกัน 1 เดือน
นิสัยแย่ ๆ ของผมแปลงไปลงกับแฟน คือผมอยากจะพูดให้แฟนช่วยคิด ช่วยกังวล แต่แฟนผมนิสัยคนละขั้ว เค้ามอง positive สุด ๆ
ซึ่งตัวผมเองก็มอง negative สุด ๆ เช่นนะ
ลูกถ่ายเป็นเลือด -> แฟนมองไม่เป็นไรแพ้อาหาร -> ผมมองว่าต้องเป็นโรคร้ายในลำไส้ -> ความจริงคือแพ้อาหาร
ลูกปวดท้อง 1 เดือน -> แฟนมองเด๋วก็หายไม่ต้องหาหมอ -> ผมมองว่าต้องไป กลัวเป็นโรคร้าย -> ความจริงยังไม่รู้ แต่ต้องกินยาขับลมตลอด
ลูกเป็นไฝ -> แฟนมองปกติ -> ผมมองกลัวเป็นโรคร้าย -> ความจริง ก็เป็นไฝ
ซึ่งผมอะยอมรับเลยว่าเยอะกว่าปกติ แต่การที่ไปหาหมอผมก็ได้อะไรหลาย ๆ อย่างมาปรับใช้ ซึ่งถ่าไม่ไปก็ไม่ได้ข้อมูลเหล่านั้น
เมื่อวาน ผมพูดจาไม่ดีเพราะผมทนไม่ไหวที่ผมปรึกษแฟนเรื่องอาการลูก (เพราะลูกถ่ายสีดำ)
แต่แฟนตอบเชิงรำคาญผม แล้วผมก็ทนไม่ไหว เอาอุจจาระลูกไปตรวจ
แฟนผมขอเลิกผมต่อหน้าลูก (ซึ่งสัญญากันหลายรอบแล้วว่าจะไม่ทำ) เพราะทนไม่ไหวที่ผมพูดแล้วทำให้เค้าคิดเหมือนผมว่า ว่าเค้าไม่รักลูก
วันนี้ตอนเช้าแฟนผมก็ย้ำใส่ผมว่า
ทุกคนที่เค้าปรึกษามารวมทั้งแฟน มองว่าผม "เห็นแก่ตัว" พูดย้ำหลายสิบรอบ
บอกว่าผมกลัวสูญเสีย จนไม่รักษาความสุขตรงหน้า ผมขอโอกาสเค้าแก้ตัว แต่เค้าไม่ยอม บอกว่า แก่ก็อยู่คนเดียวไป
ตอนนี้ความรู้สึกผมก็ทุกข์ใจมาก
แต่ความคิดก็วน ๆ ตรงที่ว่า
เราคิดว่าเราไม่เห็นแก่ตัว (คนอื่นเราไม่สนนะ) --> แต่คนที่เรารักคิดแบบนั้น
เราไม่อยากเลิกกับเค้า -> เค้าบอกว่าเราเลิกกันแล้ว
เรารักลูกมาก -> เค้าบอกเราเห็นแก่ตัวที่เป็นแบบนั้น
เราคิดว่าที่ผ่านมาพยายามปรับแล้ว -> เค้าบอกว่าเค้าให้อภัยเรามาตลอด
ตอนนี้เลยไม่รู้ว่าจะไปต่อยังไง ก็บอกเค้าว่าจะปรับตัว
เค้าบอกว่า จะดู 2 อาทิตย์ เค้าก็จะพยายามทำให้ปกติ (แต่อารมแบบเหวี่ยง ๆ ใส่ตลอด พูดจาแทงใจดำใส่เราตลอด คือเค้าบอกว่าเค้าจะพูด ไม่ทน)
พื้นฐานความคิดผมนะครับ
1. ผมไม่คิดว่าอยู่คนเดียวไม่ได้ แต่ผมชอบเห็นคนอยู่กับผมมีความสุข
2. แต่ผมมีเรื่องเครียดมาก จนพอมีปัญหาก็ชอบพูดจากดดันให้อีกฝ่ายคิด (ซึ่งเรื่องเดียวที่ยอมเค้าไม่ได้ คือสุขภาพลูก เรื่องเดียวจริง ๆ)
ตอนนี้ฝ่ายนั้น น่าจะ สบายใจ มีความสุขอยู่ ในความคิดผมนะครับ
ซึ่งผมก็รู้สึกดีที่เค้าสุขนะครับ .. แต่ผมรู้สึกแย่มากเลย ที่ลูกควรจะได้พ่อแม่ที่ไม่ทะเลาะกัน
เพราะผมพร้อมจะปรับตัว .. แต่ถ้าเป็นเรื่องลูกมันก็คงจบแบบนี้เหมือนเดิม
ไปไม่ถูกแล้วครับ ><
นิสัยส่วนตัว -> เช้าทำงานเย็นกลับบ้าน ไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่ ขี้กังวล ไม่ค่อยสังคม (ไม่รู้ต้องปรับอะไรมั้ย)