ขอคำปรึกษาเรื่องการดูแลผู้ป่วยโรคลมชัก หน่อยค่ะ
แฟนอายุ 30+ อยู่เฉย ๆ ก็ มองตาขวางกวาดสายตาไปทั่ว เรียกเท่าไรก็ไม่ตอบสนอง ทั้งเขย่าทั้งตีก็ไม่รู้สึกตัว เป็นอยู่ประมาณ 3-5 นาที แล้วรู้สึกตัว ช่วงที่คบกันแรก ๆ เป็นทุกวันก่อนนอน คิดว่าเป็นเพราะพักผ่อนน้อยปาร์ตี้หนัก จึงชวนให้ลดการดื่มเที่ยวปาร์ตี้ อาการดีขึ้นจากทุกวันเหลือเป็นอาทิตย์ละครั้ง หลังจากพูดคุยกันจริงจังแฟนบอกว่ามีญาติ(น้องพ่อ)เป็นโรคลมชักหรือลมบ้าหมู และตัวเองเคยจมน้ำในตอนเด็ก น่าจะสัก 10-12 ขวบจึงมีอาการช๊อต ตาขวางไม่รู้สึกตัว เคยรักษาจนหายแล้ว จนมาเริ่มเป็นอีกเมื่อปี 60 จนปัจจุบันหมอให้ลดและเปลี่ยนตัวยา เนื่องจากง่วงทำงานไม่ได้ หมอให้กินเช้า-เย็น และค่อย ๆ ลดการดื่มลงเหลือ อาการช๊อตเหลือเดือนละครั้ง จนเมื่อตุลาคมที่ผ่านมามีปัญหาทะเลาะกันจึงเลิกติดต่อกัน แต่เราก็ยังสอบถามสารทุกข์สุขดิบกับทางญาติ ๆ แฟน เลยได้รู้ว่าอาการกลับมาเป็นอีกอาทิตย์ละครั้งใน 1 วันแต่ 2 ครั้งจะเป็นห่างกัน 4-5 ชั้วโมง เราเลยกลับมาดูแลอีก คราวนี้ให้เลิกดื่มเลย อาการก็ดีขึ้นพฤษจิกายนไม่มีอาการเลย จนเมื่อวานในขณะขับรถแฟนบอกรู้สึกใจสั่นเลยตัดสินใจจอดข้างทาง ยังไม่ทันได้จอดสนิทก็เกิดอาการช๊อตขึ้น เรารีบดึงเบรกมือและใส่เกียร์ P รอจนอาการหาย (ที่ให้แฟนขังเพราะปกติอาการจะเป็นหลังกินข้าว หรือไม่ก็ก่อนนอน แต่วันนั้นกำลังออกไปกินข้าว) เลยเปลี่ยนกันขับ ถามแฟนแล้วว่ากินครบและไม่ได้ดื่มเหล้าเลย และเกิดอาการอีกครั้งเมื่อเช้า หลังจากมาส่งเราทำงาน 07:00 รถเสียการบังคับพุ่นชนเสาไฟฟ้า แฟนเราหัวแตก แต่รถพัง ได้แจ้งประกัน กู้ภัย และได้กลับบ้านแล้ว
อยากทราบสาเตุ ปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการ วิธีป้องกัน ข้อห้าม
โรคนี้หายขาดไหม เป็นโรคทางพันธุกรรมหรือไม่
ตอนนี้เรารู้สึกผิดค่ะ ที่เขาต้องมาเจ็บตัวทั้ง ๆ ที่เรารู้ว่าเราป่วยแต่ก็ยังให้มารับ-ส่งทำงาน เราอยากให้เขาหาย ช่วงนี้เขาเริ่มพูดเรื่องการไม่อยากมีชีวิตอยู่ เบื่อหน่ายกับอาการ เริ่มบอกให้เราไปหาคนใหม่ที่แข็งแรงกว่าสุขภาพดีกว่า ตอนนี้เราเป็นห่วงเขามาก แต่เขาไม่ยอมให้เราลางานไปหา ตอนนี้ไม่มีสมาธิในการทำงานเลยค่ะ รบกวนผู้มีประสบการณ์ แนะนำด้วยค่ะ