9/11/2018
หลังจากเราบินมาถึงที่ สนามบิน Kansai ทำเรื่องผ่าน ตม และ ศุลกากร หลังจากนั้นเราขึ้นไปที่ชั้น 2 ครับเพื่อไป JR Office เพื่อทำการแลกเอาตั๋ว JR Wide Area Pass ก่อนครับ ซึ่งใช้เวลาตรงนี้ประมาณ 1 ชม เลยครับเนื่องจากคนต่อแถวเยอะมากครับ
หลังจากนั้นเรานั่งรถเข้าเมืองโดยใช้ JR Pass โดยนั่งรถด่วน Haruka แบบ Non-reserve seat จุดหมายแรกคือห้าง Q's Mall ที่สถานี Tennoji เพื่อแวะซื้อเสื้อกันหนาวและกระเป๋าเป้ที่จะใช้สำหรับการเดินทาง หลังจากซื้อของเสร็จเราแวะไปฝากกระเป๋าที่โรงแรม FP Hotel South Namba ซึ่งเป็นที่พักของคืนที่ 10-11/11/18 โดยทางโรงแรมคิดค่าฝากใบละ 500 เยน หลังจากฝากกระเป๋าเสร็จเราเดินทางจากสถานี Shinimamiya ไปที่สถานี Shin-Osaka เพื่อจะได้นั่งรถด่วนยาวไปลง Kinosakionsen เลย เนื่องจากเป็นเส้นทางระยะยาวเราเลยแวะซื้อข้าวกล่องเพื่อเอาไปกินบนรถไฟที่ร้าน Eki-Marche ในสถานี Shin-Osaka
เราได้ข้าวกล่องมาทั้งหมด 3 แบบครับ ซึ่งราคาทั้งหมด 3577 เยนครับ
1. ข้าวอบปลาหมึก
อันนี้อร่อยสุดแล้วครับจากสามอันที่เลือกมา ตัวข้าวคล้ายๆข้าวกระเทียมกินกับหนวดปลาหมึกเด้งๆ
2. ข้าวหน้าปลาไหล
รสชาติพอใช้ได้ครับ
3. ซูชิเต้าหู้โรยหน้าปู
อันนี้รสชาติแย่สุด คือพลาดมากไม่น่าซื้อมาเลย
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงครับก็จะมาถึงสถานี Kinosakionsen พอเดินออกมาจากสถานีเราก็จะเจอประติมากรรมปูต้อนรับเลยครับ
ละเราก็เดินต่อเพื่อไปเชคอินเข้าที่พักครับ โดยระหว่างทางมีอาหารทะเลสดๆ ขายอยู่ข้างทางตลอดทางเลยครับ ทั้งกุ้งหอยปูปลา
ผลไม้ก็มีครับ
สำหรับบรรยากาศในเมืองหลังจากฝนหยุดตกดูสงบมากๆครับ
สำหรับที่พักในคืนนี้ของเราชื่อ Ougiya Ryokan ครับ ด้านหน้าเรียวกังจะเป็นประตูบานเลื่อนไม้ครับเดินเข้าไปจะเจอ เกี๊ยะวางอยู่เต็มไปหมดครับ ให้กดกริ่งเรียกพนักงานด้านซ้ายมือครับ โดยเรียวกังแห่งนี้มีคุณป้า 2 คนเป็นผู้ดูแลครับ แกพูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อยครับ อาจจะสื่อสารกันยากสักหน่อย เราเลยเอาตัวบุคกิ้งที่เป็นภาษาญี่ปุ่นให้แกดูครับ แกก็โอเคแล้วพาขึ้นไปดูห้องครับโดยราคาที่พักอยู่ที่คืนละประมาณ 3400 บาทครับ ห้องที่เราเข้าพักอยู่ฝั่งริมถนนเลยครับ
สำหรับหน้าตาในห้องพักเป็นแบบนี้ครับ ในห้องพักจะมีชุดยูกาตะและถุงเท้าไว้สำหรับใส่กะเกี๊ยะให้ครับแต่ผมว่าถุงเท้าไม่ใส่เดินง่ายกว่าครับ ในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครับ ทั้งตู้เย็น ทีวี กาน้ำร้อน สำหรับชุดยูกาตะใครที่ใส่ไม่เป็นในห้องมีวิธีใส่แปะไว้ให้ดูด้วยครับ
ตรงกลางมีโต๊ะวางชาร้อนอยู่ครับ
เดินออกจากห้องนอนไปจะเป็นระเบียงครับมีโต๊ะและเก้าอี้เล็กๆ 1 ตัว ที่สุดปลายระเบียงเป็นห้องน้ำ ที่พักที่นี่มีเฉพาะห้องน้ำครับ เราต้องออกไปอาบน้ำที่บ่อน้ำร้อนด้านนอกครับ
หลังจากเราแต่งตัวเป็นชุดยูกาตะเสร็จแล้วก็ลงไปด้านล่างครับ คุณป้าแกก็ถามว่าให้ปูที่นอนเลยไหม เราก็ตอบตกลงครับหลังจากนั้นแกก็ให้บัตรที่ไว้สำหรับแช่ออนเซนทั้ง 7บ่อและแผนที่ของบ่อแต่ละบ่อ พร้อมทั้งบอกว่าวันนี้บ่อไหนบ้างที่ปิดครับ หลังจากนั้นแกก็จัดการแต่งตัวให้เราอีกครั้งก่อนออกไปครับ ก่อนจะไปแช่ออนเซนขอแวะทานข้าวก่อนครับ โดยร้านที่กินผมจำชื่อไม่ได้ครับ เพราะตอนนั้นร้านบางร้านมันปิดแล้วครับเลยสุ่มๆเอาครับ โดยร้านที่กินด้านล่างขายของสดและด้านบนเป็นร้านอาหารครับ ซึ่งการใส่เกี๊ยะขึ้นลงบันไดสำหรับผมเป็นอะไรที่ยากลำบากและอันตรายมากครับ
หน้าตาเมนูของทางร้านครับ
ผมสั่งไปทั้งหมด 4 อย่าง สำหรับมื้อนี้ผมทานไป 6540 เยนครับ
1. ซาซิมิรวม มีทั้งปลาหมึก หมึกยัก ไข่หอยเม่น ฮามาจิ หอยเชลล์ กุ้งหวาน
ซึ่งจานนี้ สดอร่อย ถูกใจมากๆ ครับ
2. ซาซิมิปู
อันนี้ก็สด อร่อย เนื้อหวาน เสียดายน้อยไปหน่อย
3. ข้าวต้มปู
จานนี้ไม่ค่อยโดนเท่าไหร่รสชาติมันจืดๆ เนื้อปูเยอะแต่มีกระดองมาด้วยเลยกินยาก
4. ข้าวหน้ากุ้ง
อันนี้ฟินมากกุ้งหวานมาก กินแล้วอยากเบิ้ล ถ้าไม่ติดว่าอิ่มแล้ว
หลังจากกินข้าวอิ่มแล้วก็ไปตระเวนแช่ออนเซนครับ โดยเริ่มจากบ่อที่ใกล้สถานีที่สุดก่อนครับ (เลขบ่อผมอ้างอิงจากเลขในแผนผังบ่อออนเซนนะครับ)
อ้างอิงข้อมูลจาก www.kinosaki-spa.gr.jp
บ่อ 1 Satano-yu ด้านหน้าของบ่อนี้จะมีที่แช่เท้าครับ ซึ่งผมไปแช่เท้าก่อนครับเพื่อนั่งทำใจสำหรับการแก้ผ้าครั้งแรกครับ บ่อนี้มีทั้งส่วน indoor และ outdoor ซึ่งส่วนที่เป็น outdoor จะอยู่ชั้น 2 ต้องเดินขึ้นบันไดไป บ่อ outdoor ที่นี่จะคล้ายๆสระว่ายน้ำเล็กๆครับ
บ่อ 3 Yanagi-yu สำหรับบ่อนี้มีแค่ส่วน indoor ครับและบ่อของที่นี่เล็กมาก บ่อนี้คนไม่ค่อยเยอะนะครับเหมาะสำหรับการเริ่มต้น แต่น้ำที่นี่เอาเรื่องเลยครับ ผมรู้สึกว่ามันร้อนกว่าบ่ออื่น ในบ่อมีจุดทำน้ำวนด้วยครับ
บ่อ 4 Ichino-yu มีทั้งส่วน indoor และ outdoor ส่วน outdoor จะเป็นถ้ำครับ ละน้ำที่นี่ไม่ร้อนมากครับ กำลังสบายเลย
บ่อ 5 Goshono-yu บ่อนี้เป็นบ่อใหญ่ครับ มีทั้งส่วน indoor และ outdoor ส่วน outdoor ของที่นี่สวยมากครับ วิวที่เราเห็นจะเป็นน้ำตกไหลลงมาครับ
**เนื่องจากผมไปซ้ำบ่อ 5 อีกวันนึงเลยเห็นว่าวิวมันเปลี่ยนครับซึ่งเขาจะสลับกันครับ ถ้าจะเอาให้เห็นทั้งสอบแบบก็ควรจะต้องมาแช่สองวันต่อกัน**
สำหรับวันแรกผมแช่ไปทั้งหมด 4 บ่อครับ ระหว่างทางที่เราเดินไปแต่ละบ่อ ก็จะมีร้านขายของเปิดอยู่ครับ มีทั้งไอศครีมและของแห้งครับ ใครที่ชอบกินมันปูผมแนะนำให้ซื้อที่นี่เลยครับ เพราะผมไม่ได้ซื้อที่นี่พอกลับไปโอซาก้าแล้วหาซื้อไม่ได้ ราคาตกกระปุกละ 650 เยนครับ
10/11/2018
เช้าวันที่ 10 ในใจตอนแรกกะจะต่อให้ครบทุกบ่อ แต่ดูจากระยะทางของบ่อ 6 และ 7 แล้ว มันไกลครับไม่ไหว เลยขอไปซ้ำแค่บ่อ 5 แล้วค่อยเดินทางไปโกเบ สำหรับบรรยากาศตอนเช้าของที่คิโนซากินี่สงบมากๆครับ
หลังจากผมแช่บ่อ 5 เสร็จก็กลับไปเชคเอาท์ คุณป้าให้ถุงเท้าสำหรับใส่กะเกี๊ยะเป็นของฝากกลับไปด้วยครับ (คู่ใหม่นะ)
ตอนนั้นผมสายแล้วเดี๋ยวจะไม่ทันรถไฟ เลยกะว่าจะซื้อไปกินบนรถกันครับ ผมเดินมาตามทางจนมาเจอร้านนี้ครับ มีทั้งซาซิมิ และของปรุงสุกหลายอย่างให้เลือกซื้อครับ
ผมจัดมาหลายอย่างเลยครับ ทั้งหมึกย่าง ปลาทอด แก้มปลา ซาซิมิ และที่สำคัญสุดคือ อูนิ หรือไข่หอยเม่นนั่นเองครับ ซึ่งขอบอกเลยว่ามันถูกมากๆครับแค่กล่องละ 4300 เยนเท่านั้นเองครับ ขอเล่านิดนึงครับ เนื่องจากผมติดใจอูนิจากเมื่อวานครับ เดินวนหาหลายรอบในร้านก็ไม่เห็นเขาออกมาวางขาย มีแต่เป็นเหมือนไหเล็กๆแล้วมีรูปหอยเม่นซึ่งไม่รู้ว่ามันคืออะไรครับ เลยลองถามพนักงานดูครับ เขาก็ไปหยิบจากตู้แช่มาให้ ในใจตอนนั้นคิดว่าเจ็บแน่ๆครับ น่าจะโดนเป็นหมื่น พอราคามา 4000 กว่า ก็จัดสิครับรออะไร อาหารที่ผมซื้อทั้งหมดมีตามนี้ครับ ราคาทั้งหมด 6447 เยนครับ
ปลาหมึกนี่เด็ดมากครับ ถูกแล้วก็อร่อยมากๆด้วย คือแบบ 70 บาทกินในไทยยังยากเลยนะผมว่า ถ้ามีน้ำจิ้มซีฟู๊ดคงดีไม่น้อย
ปลาทอดนี่ไม่อร่อยครับ ก้างเยอะกินแล้วติดคอ
แก้มปลานี่เด็ดเช่นกันครับ แต่แอบเค็มนิดนึงนะ
ซาซิมินี่ก็ดีครับ สด อร่อย
ข้าวอันนี้เฉยๆครับ แต่อร่อยกว่าไอ้ซูชิเต้าหู้บนรถไฟเมื่อวานนั่นหลายเท่าครับ
สำหรับพระเอกของมื้อนี้ คือ อูนิ ครับ โดยทางร้านจะใส่กล่องและใส่ถุงเก็บความเย็น พร้อมน้ำแข็งแห้งมาให้ด้วยครับ
ซูมให้ดูชัดๆอีกสักครั้งครับ คือต้องบอกเลยว่าขนาดกลับมาแล้วความฟินมันยังไม่หายครับ 555
สำหรับทริปนี้ผมประทับใจคิโนซากิมากๆครับ คือเมืองดี ออนเซนดี อาหารเยี่ยม อยากจะกลับไปซ้ำมากๆครับ แล้วคือผมกินอาหารทะเลที่ไหนในทริปนี้ก็ไม่สู้ที่นี่ครับ ทั้งความสดและราคาที่ถูกมากๆครับ ประทับใจ อยากให้ทุกคนได้ลองไปดูกันครับ ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ
<<กลับไปกระทู้หลัก>>
รีวิวเที่ยวโซนคันไซ 7 วัน (คิโนซากิออนเซน, โกเบ, เกียวโต, วากายาม่า, คุมาโนะ, และ โอซาก้า) เดินทางโดยสายการบิน Jal
https://ppantip.com/topic/38339283
[CR] เที่ยว Kinosakionsen เมืองแห่งการแช่ออนเซนและอาหารทะเลสดๆ
หลังจากเราบินมาถึงที่ สนามบิน Kansai ทำเรื่องผ่าน ตม และ ศุลกากร หลังจากนั้นเราขึ้นไปที่ชั้น 2 ครับเพื่อไป JR Office เพื่อทำการแลกเอาตั๋ว JR Wide Area Pass ก่อนครับ ซึ่งใช้เวลาตรงนี้ประมาณ 1 ชม เลยครับเนื่องจากคนต่อแถวเยอะมากครับ
หลังจากนั้นเรานั่งรถเข้าเมืองโดยใช้ JR Pass โดยนั่งรถด่วน Haruka แบบ Non-reserve seat จุดหมายแรกคือห้าง Q's Mall ที่สถานี Tennoji เพื่อแวะซื้อเสื้อกันหนาวและกระเป๋าเป้ที่จะใช้สำหรับการเดินทาง หลังจากซื้อของเสร็จเราแวะไปฝากกระเป๋าที่โรงแรม FP Hotel South Namba ซึ่งเป็นที่พักของคืนที่ 10-11/11/18 โดยทางโรงแรมคิดค่าฝากใบละ 500 เยน หลังจากฝากกระเป๋าเสร็จเราเดินทางจากสถานี Shinimamiya ไปที่สถานี Shin-Osaka เพื่อจะได้นั่งรถด่วนยาวไปลง Kinosakionsen เลย เนื่องจากเป็นเส้นทางระยะยาวเราเลยแวะซื้อข้าวกล่องเพื่อเอาไปกินบนรถไฟที่ร้าน Eki-Marche ในสถานี Shin-Osaka
เราได้ข้าวกล่องมาทั้งหมด 3 แบบครับ ซึ่งราคาทั้งหมด 3577 เยนครับ
1. ข้าวอบปลาหมึก
อันนี้อร่อยสุดแล้วครับจากสามอันที่เลือกมา ตัวข้าวคล้ายๆข้าวกระเทียมกินกับหนวดปลาหมึกเด้งๆ
2. ข้าวหน้าปลาไหล
รสชาติพอใช้ได้ครับ
3. ซูชิเต้าหู้โรยหน้าปู
อันนี้รสชาติแย่สุด คือพลาดมากไม่น่าซื้อมาเลย
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงครับก็จะมาถึงสถานี Kinosakionsen พอเดินออกมาจากสถานีเราก็จะเจอประติมากรรมปูต้อนรับเลยครับ
ละเราก็เดินต่อเพื่อไปเชคอินเข้าที่พักครับ โดยระหว่างทางมีอาหารทะเลสดๆ ขายอยู่ข้างทางตลอดทางเลยครับ ทั้งกุ้งหอยปูปลา
ผลไม้ก็มีครับ
สำหรับบรรยากาศในเมืองหลังจากฝนหยุดตกดูสงบมากๆครับ
สำหรับที่พักในคืนนี้ของเราชื่อ Ougiya Ryokan ครับ ด้านหน้าเรียวกังจะเป็นประตูบานเลื่อนไม้ครับเดินเข้าไปจะเจอ เกี๊ยะวางอยู่เต็มไปหมดครับ ให้กดกริ่งเรียกพนักงานด้านซ้ายมือครับ โดยเรียวกังแห่งนี้มีคุณป้า 2 คนเป็นผู้ดูแลครับ แกพูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อยครับ อาจจะสื่อสารกันยากสักหน่อย เราเลยเอาตัวบุคกิ้งที่เป็นภาษาญี่ปุ่นให้แกดูครับ แกก็โอเคแล้วพาขึ้นไปดูห้องครับโดยราคาที่พักอยู่ที่คืนละประมาณ 3400 บาทครับ ห้องที่เราเข้าพักอยู่ฝั่งริมถนนเลยครับ
สำหรับหน้าตาในห้องพักเป็นแบบนี้ครับ ในห้องพักจะมีชุดยูกาตะและถุงเท้าไว้สำหรับใส่กะเกี๊ยะให้ครับแต่ผมว่าถุงเท้าไม่ใส่เดินง่ายกว่าครับ ในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครับ ทั้งตู้เย็น ทีวี กาน้ำร้อน สำหรับชุดยูกาตะใครที่ใส่ไม่เป็นในห้องมีวิธีใส่แปะไว้ให้ดูด้วยครับ
ตรงกลางมีโต๊ะวางชาร้อนอยู่ครับ
เดินออกจากห้องนอนไปจะเป็นระเบียงครับมีโต๊ะและเก้าอี้เล็กๆ 1 ตัว ที่สุดปลายระเบียงเป็นห้องน้ำ ที่พักที่นี่มีเฉพาะห้องน้ำครับ เราต้องออกไปอาบน้ำที่บ่อน้ำร้อนด้านนอกครับ
หลังจากเราแต่งตัวเป็นชุดยูกาตะเสร็จแล้วก็ลงไปด้านล่างครับ คุณป้าแกก็ถามว่าให้ปูที่นอนเลยไหม เราก็ตอบตกลงครับหลังจากนั้นแกก็ให้บัตรที่ไว้สำหรับแช่ออนเซนทั้ง 7บ่อและแผนที่ของบ่อแต่ละบ่อ พร้อมทั้งบอกว่าวันนี้บ่อไหนบ้างที่ปิดครับ หลังจากนั้นแกก็จัดการแต่งตัวให้เราอีกครั้งก่อนออกไปครับ ก่อนจะไปแช่ออนเซนขอแวะทานข้าวก่อนครับ โดยร้านที่กินผมจำชื่อไม่ได้ครับ เพราะตอนนั้นร้านบางร้านมันปิดแล้วครับเลยสุ่มๆเอาครับ โดยร้านที่กินด้านล่างขายของสดและด้านบนเป็นร้านอาหารครับ ซึ่งการใส่เกี๊ยะขึ้นลงบันไดสำหรับผมเป็นอะไรที่ยากลำบากและอันตรายมากครับ
หน้าตาเมนูของทางร้านครับ
ผมสั่งไปทั้งหมด 4 อย่าง สำหรับมื้อนี้ผมทานไป 6540 เยนครับ
1. ซาซิมิรวม มีทั้งปลาหมึก หมึกยัก ไข่หอยเม่น ฮามาจิ หอยเชลล์ กุ้งหวาน
ซึ่งจานนี้ สดอร่อย ถูกใจมากๆ ครับ
2. ซาซิมิปู
อันนี้ก็สด อร่อย เนื้อหวาน เสียดายน้อยไปหน่อย
3. ข้าวต้มปู
จานนี้ไม่ค่อยโดนเท่าไหร่รสชาติมันจืดๆ เนื้อปูเยอะแต่มีกระดองมาด้วยเลยกินยาก
4. ข้าวหน้ากุ้ง
อันนี้ฟินมากกุ้งหวานมาก กินแล้วอยากเบิ้ล ถ้าไม่ติดว่าอิ่มแล้ว
หลังจากกินข้าวอิ่มแล้วก็ไปตระเวนแช่ออนเซนครับ โดยเริ่มจากบ่อที่ใกล้สถานีที่สุดก่อนครับ (เลขบ่อผมอ้างอิงจากเลขในแผนผังบ่อออนเซนนะครับ)
อ้างอิงข้อมูลจาก www.kinosaki-spa.gr.jp
บ่อ 1 Satano-yu ด้านหน้าของบ่อนี้จะมีที่แช่เท้าครับ ซึ่งผมไปแช่เท้าก่อนครับเพื่อนั่งทำใจสำหรับการแก้ผ้าครั้งแรกครับ บ่อนี้มีทั้งส่วน indoor และ outdoor ซึ่งส่วนที่เป็น outdoor จะอยู่ชั้น 2 ต้องเดินขึ้นบันไดไป บ่อ outdoor ที่นี่จะคล้ายๆสระว่ายน้ำเล็กๆครับ
บ่อ 3 Yanagi-yu สำหรับบ่อนี้มีแค่ส่วน indoor ครับและบ่อของที่นี่เล็กมาก บ่อนี้คนไม่ค่อยเยอะนะครับเหมาะสำหรับการเริ่มต้น แต่น้ำที่นี่เอาเรื่องเลยครับ ผมรู้สึกว่ามันร้อนกว่าบ่ออื่น ในบ่อมีจุดทำน้ำวนด้วยครับ
บ่อ 4 Ichino-yu มีทั้งส่วน indoor และ outdoor ส่วน outdoor จะเป็นถ้ำครับ ละน้ำที่นี่ไม่ร้อนมากครับ กำลังสบายเลย
บ่อ 5 Goshono-yu บ่อนี้เป็นบ่อใหญ่ครับ มีทั้งส่วน indoor และ outdoor ส่วน outdoor ของที่นี่สวยมากครับ วิวที่เราเห็นจะเป็นน้ำตกไหลลงมาครับ
**เนื่องจากผมไปซ้ำบ่อ 5 อีกวันนึงเลยเห็นว่าวิวมันเปลี่ยนครับซึ่งเขาจะสลับกันครับ ถ้าจะเอาให้เห็นทั้งสอบแบบก็ควรจะต้องมาแช่สองวันต่อกัน**
สำหรับวันแรกผมแช่ไปทั้งหมด 4 บ่อครับ ระหว่างทางที่เราเดินไปแต่ละบ่อ ก็จะมีร้านขายของเปิดอยู่ครับ มีทั้งไอศครีมและของแห้งครับ ใครที่ชอบกินมันปูผมแนะนำให้ซื้อที่นี่เลยครับ เพราะผมไม่ได้ซื้อที่นี่พอกลับไปโอซาก้าแล้วหาซื้อไม่ได้ ราคาตกกระปุกละ 650 เยนครับ
10/11/2018
เช้าวันที่ 10 ในใจตอนแรกกะจะต่อให้ครบทุกบ่อ แต่ดูจากระยะทางของบ่อ 6 และ 7 แล้ว มันไกลครับไม่ไหว เลยขอไปซ้ำแค่บ่อ 5 แล้วค่อยเดินทางไปโกเบ สำหรับบรรยากาศตอนเช้าของที่คิโนซากินี่สงบมากๆครับ
หลังจากผมแช่บ่อ 5 เสร็จก็กลับไปเชคเอาท์ คุณป้าให้ถุงเท้าสำหรับใส่กะเกี๊ยะเป็นของฝากกลับไปด้วยครับ (คู่ใหม่นะ)
ตอนนั้นผมสายแล้วเดี๋ยวจะไม่ทันรถไฟ เลยกะว่าจะซื้อไปกินบนรถกันครับ ผมเดินมาตามทางจนมาเจอร้านนี้ครับ มีทั้งซาซิมิ และของปรุงสุกหลายอย่างให้เลือกซื้อครับ
ผมจัดมาหลายอย่างเลยครับ ทั้งหมึกย่าง ปลาทอด แก้มปลา ซาซิมิ และที่สำคัญสุดคือ อูนิ หรือไข่หอยเม่นนั่นเองครับ ซึ่งขอบอกเลยว่ามันถูกมากๆครับแค่กล่องละ 4300 เยนเท่านั้นเองครับ ขอเล่านิดนึงครับ เนื่องจากผมติดใจอูนิจากเมื่อวานครับ เดินวนหาหลายรอบในร้านก็ไม่เห็นเขาออกมาวางขาย มีแต่เป็นเหมือนไหเล็กๆแล้วมีรูปหอยเม่นซึ่งไม่รู้ว่ามันคืออะไรครับ เลยลองถามพนักงานดูครับ เขาก็ไปหยิบจากตู้แช่มาให้ ในใจตอนนั้นคิดว่าเจ็บแน่ๆครับ น่าจะโดนเป็นหมื่น พอราคามา 4000 กว่า ก็จัดสิครับรออะไร อาหารที่ผมซื้อทั้งหมดมีตามนี้ครับ ราคาทั้งหมด 6447 เยนครับ
ปลาหมึกนี่เด็ดมากครับ ถูกแล้วก็อร่อยมากๆด้วย คือแบบ 70 บาทกินในไทยยังยากเลยนะผมว่า ถ้ามีน้ำจิ้มซีฟู๊ดคงดีไม่น้อย
ปลาทอดนี่ไม่อร่อยครับ ก้างเยอะกินแล้วติดคอ
แก้มปลานี่เด็ดเช่นกันครับ แต่แอบเค็มนิดนึงนะ
ซาซิมินี่ก็ดีครับ สด อร่อย
ข้าวอันนี้เฉยๆครับ แต่อร่อยกว่าไอ้ซูชิเต้าหู้บนรถไฟเมื่อวานนั่นหลายเท่าครับ
สำหรับพระเอกของมื้อนี้ คือ อูนิ ครับ โดยทางร้านจะใส่กล่องและใส่ถุงเก็บความเย็น พร้อมน้ำแข็งแห้งมาให้ด้วยครับ
ซูมให้ดูชัดๆอีกสักครั้งครับ คือต้องบอกเลยว่าขนาดกลับมาแล้วความฟินมันยังไม่หายครับ 555
สำหรับทริปนี้ผมประทับใจคิโนซากิมากๆครับ คือเมืองดี ออนเซนดี อาหารเยี่ยม อยากจะกลับไปซ้ำมากๆครับ แล้วคือผมกินอาหารทะเลที่ไหนในทริปนี้ก็ไม่สู้ที่นี่ครับ ทั้งความสดและราคาที่ถูกมากๆครับ ประทับใจ อยากให้ทุกคนได้ลองไปดูกันครับ ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ
<<กลับไปกระทู้หลัก>>
รีวิวเที่ยวโซนคันไซ 7 วัน (คิโนซากิออนเซน, โกเบ, เกียวโต, วากายาม่า, คุมาโนะ, และ โอซาก้า) เดินทางโดยสายการบิน Jal
https://ppantip.com/topic/38339283
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้