ขอพื้นที่ระบาย และเป็นอุทาหรณ์สำหรับ Big Bike ครับ
สำหรับการใช้ความเร็วในพื้นที่จำกัดความเร็ว และตรวจสอบความถูกต้องให้มากที่สุดก่อนจ่ายค่าปรับ
วันนี้ผมเดินทางผ่านถนนนิตโย จากด้าน อ.ท่าแร่ เข้า อ.เมืองสกลนคร ป้ายจำกัดความเร็วก่อนเข้าเขตเมือง 90 กม./ชม. และลดเหลือ 60 กม./ชม. ทันทีที่เข้าเขตเทศบาล
ช่วงที่เข้าเขตเทศบาล มี Big Bike แซงผมไป 1 คัน น่าจะเป็น Z900 ท่อแต่ง ป้ายสกลนคร น่าจะใช้ความเร็วประมาณ 100 กม./ชม. ก่อนถึงด่านบริเวณ 4 แยกเข้าเมืองสกล พี่ Z900 อาศัยความคล่องตัวแอบๆข้างรถบรรทุกที่กำลังผ่านด่าน โดยที่พี่ตำรวจไม่ทันสังเกตุ (ผมตามหลังอยู่ไกลๆ นึกว่าเค้าหนีเรื่องท่อแต่ง)
ความโชคดีจึงมาลงที่ผมทันที ผมขี่รถเข้าด่านด้วยความมั่นใจ ว่าไม่มีอะไรผิดแน่ๆ เอกสารรถครบ ใบขับขี่ตลอดชีพ ท่อเดิม หมวกกันน๊อก พี่ตำรวจขอดูใบขับขี่ผมก็ยื่นให้ แล้วแกเชิญผมเข้าไปที่ป้อม ผมก็งงๆว่าเรื่องอะไร จนตำรวจที่ป้อมที่รอเขียนใบสั่งแจ้งว่าผมใช้ความเร็วเกินกว่ากฏหมายกำหนด 60 กม./ชม. ด้วยความที่ไม่ทันสังเกตไมล์รถตัวเองจึงไม่ค่อยแน่ใจว่าเราใช้ความเร็วเท่าไหร่ แต่เป็นไปได้สูงว่าเกิน 60 กม./ชม.(รู้ตัวและยอมรับผิด) ผมก็จ่ายค่าปรับไป 400 โดยไม่ได้ต่อรอง เซ็นเอกสารเรียบร้อย ทันทีที่เซ็นเสร็จ ผมเพิ่งนึกสงสัยว่าเราวิ่งใช้ความเร็วเท่าไหร่ถึงโดยจับ เลยถามพี่ตำรวจที่ทำเอกสาร แกบอกว่า 97 กม./ชม.
ผมเลยบอกแกว่าพี่จับผิดคันแล้ว เพราะผมตั้งความเร็วรถไว้ไม่ให้เกิน 90 กม./ชม. ตลอดทางตั้งแต่ก่อนเข้าเขตเทศบาล ไม่มีทางถึง 97 กม./ชม. และทันทีที่เห็นป้ายจำกัดความเร็ว 60 กม./ชม. ผมก็ลดความเร็วลงใช้ความเร็วพอๆกับมอเตอร์ไซค์ในพิ้นที่ ซึ่งไม่มีมอเตอร์ไซค์ในพื้นที่โดนจับเลย
สรุป คือ
1. ผมจ่ายค่าปรับแทน Z900
2. กล้องจับความเร็ว ว. แจ้งด่าน แค่ว่า Big bike ไม่ได้ระบุรุ่นและสี ซึ่งตำรวจเห็นรถผมเป็น Big Bike แค่คันเดียว ไม่เห็นอีกคัน
3. ผมขอค่าปรับคืนไม่ได้เพราะผมเซ็นยินยอมในเอกสารไปแล้ว และถ้าจะเรียกดูหลักฐานจากกล้องก็ต้องยึดที่ความเร็ว 60 กม./ชม. ไม่ใช่ความเร็วที่อนุโลม 70 กม./ชม. ซึ่งผมก็อาจจะโดนอยู่ดี
จากที่คุยกับพี่ตำรวจ ด่านนี้จับความเร็ว Big bike ต่างถิ่นได้หลายคันแล้ว ถ้าขี่เพลินๆ 90 ไม่สังเกตุป้าย 60 จะโดนทุกคัน
เอามาตั้งกระทู้เผื่อเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆที่อาจเจอสถานการณ์แบบเดียวกับผม ถ้ามั่นใจว่าไม่ได้ใช้ความเร็วเกินกว่ากฏหมายจริงๆ ให้สอบถามทะเบียนรถ สีรถ หรือระบุตัวรถของเราให้ถูกต้องก่อนจ่ายค่าปรับ แต่ถ้าขี่เร็วเกินกฏหมายกำหนดแล้วโดยจับ ก็จ่ายค่าปรับไปเถอะครับ แล้ววันหลังอย่าทำอีก
พี่ๆตำรวจพูดคุยดี สุภาพ ยิ้มแย้มทุกท่านครับ ถามอะไรก็ตอบ ไม่ออกอาการข่มขู่ใดๆ แค่ว่าช่วยอะไรเรื่องค่าปรับที่จ่ายไปแล้วไม่ได้
พี่ๆท่านใดเคยเจอสถานการณ์แบบเดียวกัน แลกเปลี่ยนความเห็นกันได้นะครับ
อุทาหรณ์ จ่ายค่าปรับผิดตัว จับความเร็วสกลนคร
สำหรับการใช้ความเร็วในพื้นที่จำกัดความเร็ว และตรวจสอบความถูกต้องให้มากที่สุดก่อนจ่ายค่าปรับ
วันนี้ผมเดินทางผ่านถนนนิตโย จากด้าน อ.ท่าแร่ เข้า อ.เมืองสกลนคร ป้ายจำกัดความเร็วก่อนเข้าเขตเมือง 90 กม./ชม. และลดเหลือ 60 กม./ชม. ทันทีที่เข้าเขตเทศบาล
ช่วงที่เข้าเขตเทศบาล มี Big Bike แซงผมไป 1 คัน น่าจะเป็น Z900 ท่อแต่ง ป้ายสกลนคร น่าจะใช้ความเร็วประมาณ 100 กม./ชม. ก่อนถึงด่านบริเวณ 4 แยกเข้าเมืองสกล พี่ Z900 อาศัยความคล่องตัวแอบๆข้างรถบรรทุกที่กำลังผ่านด่าน โดยที่พี่ตำรวจไม่ทันสังเกตุ (ผมตามหลังอยู่ไกลๆ นึกว่าเค้าหนีเรื่องท่อแต่ง)
ความโชคดีจึงมาลงที่ผมทันที ผมขี่รถเข้าด่านด้วยความมั่นใจ ว่าไม่มีอะไรผิดแน่ๆ เอกสารรถครบ ใบขับขี่ตลอดชีพ ท่อเดิม หมวกกันน๊อก พี่ตำรวจขอดูใบขับขี่ผมก็ยื่นให้ แล้วแกเชิญผมเข้าไปที่ป้อม ผมก็งงๆว่าเรื่องอะไร จนตำรวจที่ป้อมที่รอเขียนใบสั่งแจ้งว่าผมใช้ความเร็วเกินกว่ากฏหมายกำหนด 60 กม./ชม. ด้วยความที่ไม่ทันสังเกตไมล์รถตัวเองจึงไม่ค่อยแน่ใจว่าเราใช้ความเร็วเท่าไหร่ แต่เป็นไปได้สูงว่าเกิน 60 กม./ชม.(รู้ตัวและยอมรับผิด) ผมก็จ่ายค่าปรับไป 400 โดยไม่ได้ต่อรอง เซ็นเอกสารเรียบร้อย ทันทีที่เซ็นเสร็จ ผมเพิ่งนึกสงสัยว่าเราวิ่งใช้ความเร็วเท่าไหร่ถึงโดยจับ เลยถามพี่ตำรวจที่ทำเอกสาร แกบอกว่า 97 กม./ชม.
ผมเลยบอกแกว่าพี่จับผิดคันแล้ว เพราะผมตั้งความเร็วรถไว้ไม่ให้เกิน 90 กม./ชม. ตลอดทางตั้งแต่ก่อนเข้าเขตเทศบาล ไม่มีทางถึง 97 กม./ชม. และทันทีที่เห็นป้ายจำกัดความเร็ว 60 กม./ชม. ผมก็ลดความเร็วลงใช้ความเร็วพอๆกับมอเตอร์ไซค์ในพิ้นที่ ซึ่งไม่มีมอเตอร์ไซค์ในพื้นที่โดนจับเลย
สรุป คือ
1. ผมจ่ายค่าปรับแทน Z900
2. กล้องจับความเร็ว ว. แจ้งด่าน แค่ว่า Big bike ไม่ได้ระบุรุ่นและสี ซึ่งตำรวจเห็นรถผมเป็น Big Bike แค่คันเดียว ไม่เห็นอีกคัน
3. ผมขอค่าปรับคืนไม่ได้เพราะผมเซ็นยินยอมในเอกสารไปแล้ว และถ้าจะเรียกดูหลักฐานจากกล้องก็ต้องยึดที่ความเร็ว 60 กม./ชม. ไม่ใช่ความเร็วที่อนุโลม 70 กม./ชม. ซึ่งผมก็อาจจะโดนอยู่ดี
จากที่คุยกับพี่ตำรวจ ด่านนี้จับความเร็ว Big bike ต่างถิ่นได้หลายคันแล้ว ถ้าขี่เพลินๆ 90 ไม่สังเกตุป้าย 60 จะโดนทุกคัน
เอามาตั้งกระทู้เผื่อเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆที่อาจเจอสถานการณ์แบบเดียวกับผม ถ้ามั่นใจว่าไม่ได้ใช้ความเร็วเกินกว่ากฏหมายจริงๆ ให้สอบถามทะเบียนรถ สีรถ หรือระบุตัวรถของเราให้ถูกต้องก่อนจ่ายค่าปรับ แต่ถ้าขี่เร็วเกินกฏหมายกำหนดแล้วโดยจับ ก็จ่ายค่าปรับไปเถอะครับ แล้ววันหลังอย่าทำอีก
พี่ๆตำรวจพูดคุยดี สุภาพ ยิ้มแย้มทุกท่านครับ ถามอะไรก็ตอบ ไม่ออกอาการข่มขู่ใดๆ แค่ว่าช่วยอะไรเรื่องค่าปรับที่จ่ายไปแล้วไม่ได้
พี่ๆท่านใดเคยเจอสถานการณ์แบบเดียวกัน แลกเปลี่ยนความเห็นกันได้นะครับ