ทำไมถึงปล่อยให้ผลิตรถยนต์มีความเร็วได้สูงกว่า 110 km. ออกมาขาย แล้วก็ออกกฎหมายจำกัดความเร็วเกิน 110 Km. เพื่ออะไร?

ตามหัวข้อ ตรงๆ ไม่ได้ประชด แต่สงสัยเรื่องมันขัดแย้งกัน เหมือนคิดคนละมาตรฐาน
ประเทศเรามีกฎหมายจำกัดความเร็ว  

"เขตชุมชนวิ่ง 80-110 Km./ชม. ทางหลวงไม่เกิน 90-120 Km./ ชม."
การมีกฎหมายจำกัดความเร็วเพื่ออะไรก็ว่าไป อันนี้เข้าใจได้เห็นด้วย แต่ที่ไม่เข้าใจคือ......

1.ในเมื่อมีกฎหมายกำหนด แปลว่าคุณไม่ควรวิ่งเกิน 110-120 Km. ไม่เกี่ยวกับเขตชุมชน เพราะคำนึงถึงความปลอดภัยถูกไหม

2.ทำไมกฎหมายไม่กำหนดให้ผู้ผลิตรถจำกัดความเร็วรถยนต์ที่ผลิตมาจำหน่าย?  ทุกวันนับางคัน เหยียบได้ 200 - 300 Km. เราก็รู้ว่าวิ่งได้ไม่เกิน 120 Km. เราจะได้ไม่มีรถวิ่งเร็วเกินกฎหมายกำหนดออกมาขาย ประชาชนก็ปลอดภัย ไม่ต้องมีอันตราย ไม่มีการผิดกฎจราจร ไม่ต้องเอาเวลา เอาทรัพยากรคน งบประมาณมาทุ่มกับการตั้งด่านจับความเร็ว เราจะได้เอางบประมาณไปพัฒนาเรื่องอื่น

3.เราทำแบบนี้ไม่ได้เพราะอะไร ? หรือทำได้แต่เราไม่ทำ?  หรือเราอยากทำ แต่การตั้งด่านจับความเร็วได้ประโยชน์กว่า ได้เงินค่าปรับเข้าประเทศ? หรือการจำกัดความเร็วเครื่องยนต์จะทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ เสียเปรียบ ไม่อยากลงทุนในประเทศ ?

ตั้งแต่เด็กจนโต เห็นตำรวจตั้งด่านจับความเร็ว จ่ายใบสั่ง  เดี๋ยวนี้ตั้งกล้องจับความเร็วส่งมาบ้าน ทั้งหลายทั้งปวงคือค่าปรับ วนเป็นวงจรอุบาท์  ไม่สิ้นสุด  บาง Case เกิดรถวิ่งความเร็วสูง กว่า 200 Km. ฝ่าด่านทะลุชนคนตาย เรื่องนี้มันไม่เคยสมเหตุสมผลแต่แรก  ทำไมรัฐไม่แก้ปัญหาที่เหตุ ถ้าไม่มีรถที่วิ่งได้เกินกำหนดออกมาขาย ก็จะไม่มีใครทำผิดกฎหมายความเร็ว  หรือว่าเราควรขาย แล้วออกกฎหมายหวังให้มีจิตสำนึกเองว่าห้ามกระทำผิด  แต่ถ้าผิดแล้วโดนจับได้ ประเทศจะได้เก็บค่าปรับเป็นรายได้เข้ารัฐ แต่ละปีค่าปรับมหาศาลเอาไปพัฒนาถนนหนทางประเทศชาติได้ประโยชน์กว่า

ขอถามอย่างตรงไปตรงมา คงไม่ว่ากัน หากมีเหตุผลอื่นที่อธิบายให้เข้าใจได้ ก็จะดี เผื่อจะมีเหตุผลอื่นที่เราไม่รู้
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 24
    

ถ้าเจอปรับ 1000 เหรียญหรือประมาณ  26,xxx บาทไทย   เพราะวิ่ง  153 km/h ในเขตที่จำกัดความเร็วแค่ 110 km/h  เกินมา 43 km/h โดนตัดแต้มอีก 7 แต้ม  จากทั้งหมดมี 12 แต้ม  แต้มหมดนี่ใบขับขี่ถูกตัดอีก  

ถ้าพี่ไทยโดนปรับโทษแรงๆแบบนี้บ้างไม่รู้จะกลัวกันบ้างมั้ย เดี๋ยวก็หาว่ารักแกคนทำมาหากินอีก   นี่แหละน้ากะลาแลนด์มีแต่ข้ออ้างและข้อแก้ตัว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่