รีวิวพาแม่ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก

สำหรับใครที่อยากพาคุณพ่อคุณแม่หรือญาติผู้ใหญ่ที่สูงอายุเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ  แต่มีความกังวลว่าจะลำบากในการเดินทาง โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ต้องใช้ไม้เท้าหรือรถเข็น wheelchair วันนี้ผมจึงขอแชร์ประสบการณ์และข้อแนะนำเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับการเดินทางครับ


ผมได้มีโอกาสพาคุณแม่ของผมเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรก โดยประเทศที่เลือกไปคือประเทศญี่ปุ่น เพราะเห็นว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างที่เอื้ออำนวยให้กับผู้สูงอายุ โดยไปในส่วนภูมิภาคฮอกไกโด เพราะไม่แอดอัดเท่าโตเกียวหรือโอซาก้า สามารถเช่ารถขับเองได้น่าจะสะดวกกว่าพาท่านขึ้นรถไฟ

คุณแม่ของผมอายุ 70 ปี มีโรคประจำตัวเป็นความดันโลหิตสูง เหนื่อยง่าย เดินที่ราบได้ไกลไม่เกิน 300 เมตร หากขึ้นบันได หรือขี้นที่สูงจะเหนื่อยหอบง่ายเป็นพิเศษ ดังนั้นผมจึงต้องนำ wheelchair ไปด้วยเวลาพาคุณแม่เดินเที่ยวหรือชมเมืองตามที่ต่าง ๆ

การเดินทางครั้งนี้ผมเดินทางด้วยสายการบิน ANA เนื่องด้วยเวลาที่เอื้ออำนวย เพราะอยากให้ไปถึงแล้วคุณแม่ได้พักที่โรงแรมก่อนออกเที่ยว

เมื่อผมทำการจองตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว จึงเข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ของสายการบิน ในหัวข้อ my booking จะมีตัวเลือกให้เรากดในกรณีที่เราต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม


จากนั้น ผมได้โทรแจ้งกับสายการบิน ANA อีกครั้งว่ามีผู้โดยสารที่ต้องใช้ wheelchair ร่วมเดินทางด้วย เจ้าหน้าที่ก็ให้คำแนะนำเป็นอย่างดี สอบถามสุขภาพ ระดับการเดินได้ของผู้เดินทาง ชนิดของ wheelchair เป็นระบบไฟฟ้า หรือ manual บอกขั้นตอนการเช็คอิน และการขึ้นเครื่องต่าง ๆ

วันเดินทาง Flight NH 808 + NH 2153 BKK-NRT-CTS


เมื่อมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ได้ทำการโหลดกระเป๋า และแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่ามีผู้โดยสารที่ต้องใช้ wheelchair เจ้าหน้าที่แนะนำว่าให้โหลด wheelchair ใต้ท้องเครื่อง แล้วใช้ wheelchair ของสนามบินดีกว่า เพื่อความสะดวก อีกซักครู่จะมีเจ้าหน้าที่มารับพาเข้าไปผ่าน passport control และ ตรวจคนเข้าเมืองผ่านช่องพิเศษซึ่งสามารถให้ผู้ติดตามไปได้เพียง 1 คนเท่านั้น และจะไปส่งผู้โดยสารถึงประตูเครื่องบิน ส่วน wheelchair ของเราเอง เจ้าหน้าที่ทำการติด track แล้วให้เราไปโหลดที่บริเวณ oversize baggage check-in

เมื่อผ่านบริเวณตรวจคนเข้าเมืองไปแล้ว เจ้าหน้าที่ถามว่าจะให้ไปส่งที่ gate เลยหรือจะแวะที่ไหนก่อนหรือไม่ จึงแจ้งไปว่าจะขอแวะทานอาหารที่เล้าจ์ก่อน เจ้าหน้าที่จึงไปส่งที่เล้าจ์และได้นัดแนะเวลาที่จะมารับก่อนที่จะถึง boarding time ประมาณ 15 นาที
เมื่อใกล้ boarding time เจ้าหน้าที่ก็มารับไปส่งที่ gate


เมื่อถึงเวลาประกาศขึ้นเครื่อง ทางสายการบิน จะให้เรียกให้ผู้สูงอายุ ผู้พิการ หรือครอบครัวที่มีเด็กเล็กขึ้นก่อน เพื่อความสะดวกแก่ผู้โดยสารทั้งหมด


เจ้าหน้าที่พาคุณแม่ไปที่ประตูเครื่องบิน


ลูกเรือสายการบินให้การตอนรับและช่วยเหลือดีครับ


บนเครื่องบิน



หลัง take off ไม่นาน ลูกเรือเสิร์ฟของว่างเป็นถุงเล็ก ๆ แขวนไว้บริเวณที่นั่ง


ประมาณ 2 ชั่วโมงก่อน landing ลูกเรือเสิร์ฟอาหารเช้าเป็นข้าวต้มกุ้ง โซบะเย็น ผลไม้ และ โยเกิร์ต อร่อยดีครับ


เมื่อกัปตันประกาศ prepare for landing ทางลูกเรือเดินมาแจ้งว่า เมื่อเครื่องจอดที่สนามบิน Narita ให้ผมกับแม่นั่งรอ ให้ผู้โดยสารท่านอื่นลงจากเครื่องให้หมดก่อน เดี๋ยวลูกเรือจะมารับพาลงจากเครื่องบิน

เมื่อแม่เดินออกมาจากประตูเครื่องบิน มีเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินเตรียม wheelchair มารอรับคุณแม่เพื่อพาไปเปลี่ยนเครื่องไปสนามบิน Chitose ต่อ


ที่ประเทศญี่ปุ่น หากมี connecting flight ต่อภายในประเทศ เราจะต้องนำกระเป๋าออกจากสายพานก่อน แล้วค่อยโหลดใหม่อีกครั้งที่ domestic terminal


หลังจากโหลดกระเป๋าเรียบร้อย เจ้าหน้าที่พาไปบริเวณจุด security check ในส่วนของ domestic flight


รอขึ้นเครื่องเพื่อไปฮอกไกโด


มีเจ้าหน้าภาคพื้นดินพาไปด้วยอีกคนครับ


ระหว่างนี้ก็รอลูกเรือให้สัญญาณว่าขึ้นเครื่องได้


เมื่อขึ้นเครื่องได้ ลูกเรือให้การช่วยเหลือคนแม่อย่างดีมาก ๆ ครับ จูงมือคุณแม่ตั้งแต่ประตูทางเข้า ค่อย ๆ พาเดินไปจนถึงที่นั่ง



และเมื่อใกล้ถึงสนามบิน Chitose ลูกเรือก็เดินมาบอกเช่นเคยว่า เมื่อเครื่องจอดแล้วให้นั่งรออยู่ก่อนเดี๋ยวจะพาลงเครื่อง

เมื่อผู้โดยสารท่านอื่นลงจากเครื่องหมดแล้ว ลูกเรือช่วยพาคุณแม่เดินจากที่นั่งไปที่ประตูเครื่อง

มีเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินมารับช่วงต่อทันที

ประทับใจไฟล์ทนี้มากครับ ขอถ่ายภาพลูกเรือเป็นที่ระลึก
(ปล. ทุกไฟล์ทเดินทางจะทำการลูกเรือบันทึกภาพบนเครื่องบินก่อนครับ ซึ่งทางลูกเรือสายการบิน ANA ก็อนุญาตครับ)

จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็พามาส่งถึงสายพานรับกระเป๋าครับ

วันเดินทางกลับ Flight NH 2154 + NH 807 CTS-NRT-BKK

บริเวณจุด check in สนามบิน Chitose

ที่สนามบิน Chitose จะมีจุดบริการ special assistance ผมจึงเดินเข้าไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าต้องการ wheelchair ครับ

จำนวน wheelchair ที่ตั้งไว้รอสำหรับผู้ที่ต้องการใช้

จากนั้นเจ้าหน้าที่จะอธิบายการใช้งานและมีคู่มือติดอยู่

จากนั้นทำการโหลดกระเป๋าและ wheelchair ของคุณแม่ในที่เดียวกันเลย ไม่ต้องแยกโซนเหมือนที่สุวรรณภูมิ

เนื่องจากยังพอมีเวลาเหลือ ผมจึงขออนุญาตเจ้าหน้าทีพาคุณแม่พาแม่มาดูวิวเครื่องบิน และพาไปดูของฝากเอง และเมื่อใกล้เวลาขึ้นเครื่องจะไปรอที่ gate

เมื่อขึ้นเครื่อง ลูกเรือจูงมือคุณแม่และพาไปที่นั่งเช่นเคย

เมื่อถึงสนามบิน Narita ลูกเรือแจ้งว่าเครื่องบินไม่ได้จอดเทียบอาคารผู้โดยสาร จะมีรถมารับไปที่อาคารผู้โดยสาร โดยจอดรออยู่ที่ประตูหลังของเครื่องบิน
ลูกเรือจึงพาคุณแม่มารอบริเวณท้ายลำ

ประตูเครื่องบินกำลังเปิด เจ้าหน้าที่ยกมือขึ้นบอกให้รอก่อน อย่าเพิ่งออกมา

รถขนาดใหญ่มารอรับสำหรับผู้โดยสารที่ต้องการใช้ wheelchair โดยรถที่มารับมีระบบไฮโดรลิก มีส่วนสามารถยกขึ้นลงได้สำหรับรองรับผู้โดยสารที่ต้องการความช่วยเหลือ

ลูกเรือยิ้มแย้มแจ่มใสทักทายคุณแม่ พอรู้ว่าเป็นคนไทย ก็บอกว่าชอบประเทศไทยมาก

ให้การช่วยเหลือเต็มที่เหมือนญาติผู้ใหญ่

ระหว่างนี้นั่งรอผู้โดยสารอีกท่านหนึ่งซึ่งใช้ wheelchair เช่นเดียวกันครับ

จากนั้นก็มาต่อเครื่องเพื่อกลับกรุงเทพครับ มีเจ้าหน้าที่รับตามจุดต่าง ๆ จนถึงสนามบินสุวรรณภูมิ

การเดินทางกับผู้สูงอายุ ผมมีคำแนะนำเล็ก ๆ น้อย ๆ มาฝากครับ
-ก่อนเดินทางควรโทรแจ้งกับสายการบินว่าเรามีผู้สูงอายุเดินทางไปด้วย ต้องการความช่วยเหลือด้านใดบ้าง เพื่อให้ทางสายการบินได้ทราบข้อมูลล่วงหน้า
-เลือกที่นั่งบนเครื่องบินติดริมทางเดิน (aisle seat) ไม่ไกลจากห้องน้ำ เพราะผู้สูงอายุอาจต้องเขาห้องน้ำบ่อย
-เลือกไฟล์ทที่ไปถึงที่หมายในช่วงเวลาบ่ายหรือเย็น เพื่อไปถึงแล้วสามารถเชคอินเข้าโรงแรมให้ท่านพักได้เลย
-เลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย หากต้องไปที่ที่อากาศเย็นหรือหนาวมาก ๆ ต้องมีเสื้อกันหนาว หรือ heattech ที่สามารถป้องกันความหนาวเย็นและรักษาความอบอุ่นให้กับร่างกาย รวมถึงถุงมือ ถุงเท้า ผ้าพันคอ ต่าง ๆ
-ควรเตรียมผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่เผื่อไว้ในกรณีที่ต้องเดินทางเป็นระยะเวลานาน หรือเวลาที่ไม่สามารถหาห้องน้ำได้
-ตารางการเดินทางในแต่ละวันควรเป็นไปอย่างหลวม ๆ เพื่อไม่ให้ท่านเหนื่อยหรืออ่อนเพลียเกินไปนัก (2-3 สถานที่ต่อวันกำลังดี)
-ยาสามัญ ยารักษาโรคประจำตัว และประกันการเดินทาง สำคัญมาก เพราะมีโอกาสป่วยมากกว่าวัยหนุ่มสาว

ท้ายสุดนี้ขอขอบคุณ ลูกเรือสายการบิน ANA และเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นสนามบินสุววรณภูมิ สนามบิน Narita และสนามบิน Chitose ที่ให้การดูแลคุณแม่ผมเป็นอย่างดี และทำงานเป็นทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ
หากมีโอกาสก็ลองพาคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยวดูนะครับ รับรองว่ามีความสุขที่สุดเลย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่