ในหัวข้อเดียวกันนี้ ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการ “ขจัดความหิวโหย” สภาพัฒน์เขียนรายงานว่า ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการลดสัดส่วนประชากรหิวโหยลงครึ่งหนึ่งตั้งแต่ปี 2543 และในปี 2556 ประเทศไทยมีความยากจนด้านอาหารเพียง 3.9 แสนคน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.6 ของประชากรทั่วประเทศ ชี้ให้เป็นว่า ปัญหาความหิวโหยของไทยอยู่ในระดับต่ำมาก
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยกลับกำลังเผชิญกับสถานการณ์ด้านภาวะโภชนาการ โดยเฉพาะในวัยเด็ก ซึ่งมีปัญหาโภชนาการเกิน น้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน (เริ่มอ้วนและอ้วนในกลุ่มครอบครัวที่มีฐานะดี)
สรุปว่าจากปัญหา “หิวโหย” ประเทศไทยทำท่าจะมีปัญหาตรงข้ามคือ “อิ่มเกิน” หรือไม่ก็กินเยอะไป จนคนอ้วนเพิ่มขึ้นเยอะ...เรียกว่าพอเริ่มรวยขึ้นก็ชักจะรับประทานของอร่อยๆ กันมากขึ้นว่างั้นเถอะ.
ทั้งที่ประเทศเราจนทำไม เราถึงไปไม่เกิด กรณี PagPag หรือมี NGO แจกอาหารครับ อะไรดูดซับอาหารราคาแพงเอาไว้ครับ แถมกลายเป็นอ้วนแทนอดอยาก
ที่มา www.thairath.co.th/content/536287
ทำไมประเทศไทยถึงเกิด ภาวะอ้วนเกิน แทนที่จะเป็นอดอยาก สวนทางประเทศอื่น
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยกลับกำลังเผชิญกับสถานการณ์ด้านภาวะโภชนาการ โดยเฉพาะในวัยเด็ก ซึ่งมีปัญหาโภชนาการเกิน น้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน (เริ่มอ้วนและอ้วนในกลุ่มครอบครัวที่มีฐานะดี)
สรุปว่าจากปัญหา “หิวโหย” ประเทศไทยทำท่าจะมีปัญหาตรงข้ามคือ “อิ่มเกิน” หรือไม่ก็กินเยอะไป จนคนอ้วนเพิ่มขึ้นเยอะ...เรียกว่าพอเริ่มรวยขึ้นก็ชักจะรับประทานของอร่อยๆ กันมากขึ้นว่างั้นเถอะ.
ทั้งที่ประเทศเราจนทำไม เราถึงไปไม่เกิด กรณี PagPag หรือมี NGO แจกอาหารครับ อะไรดูดซับอาหารราคาแพงเอาไว้ครับ แถมกลายเป็นอ้วนแทนอดอยาก
ที่มา www.thairath.co.th/content/536287