เรื่องมีอยู่ว่าผมไปเจอคอนโดมือสองที่ผมสนใจ เลยลองไปปรึกษากับเจ้าหน้าที่ธนาคารที่เคยดูแลการกู้ซื้อคอนโดครั้งแรกของผม จากการได้ลองปรึกษาดูเจ้าหน้าที่ธนาคารได้เสนอวงเงินที่จะอนุมัติให้และอัตราดอกเบี้ยที่น่าพอใจ ผมเลยตัดสินใจติดต่อซื้อคอนโดมือสองห้องนี้ แต่เป็นการติดต่อผ่านทางบริษัทนายหน้าที่เจ้าของห้องลงประกาศไว้
ก่อนจะเซ็นสัญญาผมได้แจ้งทางนายหน้าไว้แล้วว่าผมจะดำเนินการยื่นกู้กับธนาคารเองโดยตรงเพราะผมได้ติดต่อไว้หมดแล้ว ทางนายหน้าก็รับทราบแล้วทำการนัดหมายให้มาเว็นสัญญากับเจ้าของห้องโดยวางเงินมัดจำวันไว้สองหมื่นบาทและต้องทำการโอนกรรมสิทธิ์ภายในสิ้นเดือนนี้ แล้วก็จะมีการคืนเงินมัดจำถ้าหากกู้ไม่ผ่าน
หลังจากเซ็นสัญญาผมก็ทำการยื่นเรื่องกู้กับธนาคาร แต่ครั้งนี้ผลอนุมัติออกมาค่อนข้างช้า ใช้เวลาประมาณเกือบหนึ่งเดือนผลอนุมัติถึงออกมาเมื่อวานนี้ ซึ่งทางธนาคารแจ้งว่าไม่สามารถอนุมัติสินเชื่อให้ได้หรือกู้ไม่ผ่านนั่นเอง โดยเหตุผลที่ธนาคารแจ้งไว้คือผมเพิ่งทำการกู้ซื้อคอนโดไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ผมก็แจ้งนายหน้าไปตามที่ธนาคารแจ้งมาและขอเงินมัดจำคืน แต่ว่าทางนายหน้ากับแนะนำให้ผมยื่นธนาคารอื่นเพิ่มเติมโดยแนะนำธนาคารที่ไม่สนใจเรื่องที่ผมเพิ่งกู้ซื้อคอนโดมา แต่ผมได้ลองศึกษาเกี่ยวกับดอกเบี้ยของธนาคารดังกล่าวมาแล้ว ซึ่งดอกเบี้ยค่อนข้างสูง ไหนจะมีเรื่องพ่วงประกันนู่นนี่นั่นเข้ามาอีก
ผมบอกนายหน้าไปตามตรงว่าผมรับไม่ได้กับอัตราดอกเบี้ยธนาคารอื่น แล้วก็อีกอย่างคือในสัญญาระบุว่าผมต้องโอนกรรมสิทธิ์ภายในสิ้นเดือนนี้ ถ้ายื่นกู้ใหม่ยังไงก็ไม่ทันสิ้นเดือนนี้ ทางนายหน้าบอกว่าสามารถไปเจรจากับเจ้าของห้องให้ยืดเวลาออกไปได้ แต่อย่างที่ผมมบอกคือผมรับไม่ได้กับดอกเบี้ยธนาคารอื่น
ผมได้โทรไปคุยทางบริษัทนายหน้าโดยตรงได้ความประมาณว่าผมต้องยื่นกู้หลายๆธนาคารจนกว่าจะมีธนาคารอนุมัติ ถ้าทุกธนาคารไม่อนุมัติผมถึงจะได้เงินมัดจำคืน ซึ่งผมมองว่ามันดูเอาเปรียบผมเกินไป นายหน้าคือจะทำยังไงก็ได้ให้ห้องขายออกโดยผมไม่มีสิทธิเลือกอะไรเลย
ผมเลยอยากทราบว่ากรณีแบบนี้ผมจะทำอะไรได้บ้างครับเพื่อให้ผมได้เงินมัดจำคืนแล้วสิ้นสุดกับบริษัทนายหน้าแบบนี้สักที สามารถฟ้อง สคบ ได้หรือไม่ครับ ขอบคุณครับ
ปล. สัญญาไม่ละเอียดเลยครับ เดี๋ยวผมจะสรุปคร่าวๆให้ครับ
1. บอกว่าซื้อขายราคาเท่านี้จะโอนภายในสิ้นเดือน
2. บอกว่ามัดจำเท่าไหร่แล้วนายหน้าเก็บไว้จนกว่าจะโอน
3. บอกว่าค่าโอนใครจ่าย ค่าภาษีค่าธรรมเนียมใครจ่าย
4. บอกว่าผู้ขายจะต้องจ่ายเคลียหนี้กับธนาคารเอง
5. ถ้าไม่โอนตามกำหนดริบเงินมัดจำ
ปล2. อัพเดทนะครับ ทางนายหน้าส่งเจ้าหน้าที่ธนาคารใหม่มาคุยกับผมแล้ว ทางธนาคารแจ้งว่าฐานเงินเดือนคนกู้ร่วมไม่เข้าข่ายคุณสมบัติ(ฐานเงินเดือนไม่ถึง12000) ตอนนี้ผมแจ้งนายหน้าไปแบบนั้นแล้ว นายหน้าบอกขอคุยกับหัวหน้าก่อนว่าจะดึงดันให้ผมยื่นกู้อีกรึเปล่า
นายหน้ามีสิทธิบังคับให้เรายื่นกู้ธนาคารอื่นได้ด้วยหรอครับ?
ก่อนจะเซ็นสัญญาผมได้แจ้งทางนายหน้าไว้แล้วว่าผมจะดำเนินการยื่นกู้กับธนาคารเองโดยตรงเพราะผมได้ติดต่อไว้หมดแล้ว ทางนายหน้าก็รับทราบแล้วทำการนัดหมายให้มาเว็นสัญญากับเจ้าของห้องโดยวางเงินมัดจำวันไว้สองหมื่นบาทและต้องทำการโอนกรรมสิทธิ์ภายในสิ้นเดือนนี้ แล้วก็จะมีการคืนเงินมัดจำถ้าหากกู้ไม่ผ่าน
หลังจากเซ็นสัญญาผมก็ทำการยื่นเรื่องกู้กับธนาคาร แต่ครั้งนี้ผลอนุมัติออกมาค่อนข้างช้า ใช้เวลาประมาณเกือบหนึ่งเดือนผลอนุมัติถึงออกมาเมื่อวานนี้ ซึ่งทางธนาคารแจ้งว่าไม่สามารถอนุมัติสินเชื่อให้ได้หรือกู้ไม่ผ่านนั่นเอง โดยเหตุผลที่ธนาคารแจ้งไว้คือผมเพิ่งทำการกู้ซื้อคอนโดไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ผมก็แจ้งนายหน้าไปตามที่ธนาคารแจ้งมาและขอเงินมัดจำคืน แต่ว่าทางนายหน้ากับแนะนำให้ผมยื่นธนาคารอื่นเพิ่มเติมโดยแนะนำธนาคารที่ไม่สนใจเรื่องที่ผมเพิ่งกู้ซื้อคอนโดมา แต่ผมได้ลองศึกษาเกี่ยวกับดอกเบี้ยของธนาคารดังกล่าวมาแล้ว ซึ่งดอกเบี้ยค่อนข้างสูง ไหนจะมีเรื่องพ่วงประกันนู่นนี่นั่นเข้ามาอีก
ผมบอกนายหน้าไปตามตรงว่าผมรับไม่ได้กับอัตราดอกเบี้ยธนาคารอื่น แล้วก็อีกอย่างคือในสัญญาระบุว่าผมต้องโอนกรรมสิทธิ์ภายในสิ้นเดือนนี้ ถ้ายื่นกู้ใหม่ยังไงก็ไม่ทันสิ้นเดือนนี้ ทางนายหน้าบอกว่าสามารถไปเจรจากับเจ้าของห้องให้ยืดเวลาออกไปได้ แต่อย่างที่ผมมบอกคือผมรับไม่ได้กับดอกเบี้ยธนาคารอื่น
ผมได้โทรไปคุยทางบริษัทนายหน้าโดยตรงได้ความประมาณว่าผมต้องยื่นกู้หลายๆธนาคารจนกว่าจะมีธนาคารอนุมัติ ถ้าทุกธนาคารไม่อนุมัติผมถึงจะได้เงินมัดจำคืน ซึ่งผมมองว่ามันดูเอาเปรียบผมเกินไป นายหน้าคือจะทำยังไงก็ได้ให้ห้องขายออกโดยผมไม่มีสิทธิเลือกอะไรเลย
ผมเลยอยากทราบว่ากรณีแบบนี้ผมจะทำอะไรได้บ้างครับเพื่อให้ผมได้เงินมัดจำคืนแล้วสิ้นสุดกับบริษัทนายหน้าแบบนี้สักที สามารถฟ้อง สคบ ได้หรือไม่ครับ ขอบคุณครับ
ปล. สัญญาไม่ละเอียดเลยครับ เดี๋ยวผมจะสรุปคร่าวๆให้ครับ
1. บอกว่าซื้อขายราคาเท่านี้จะโอนภายในสิ้นเดือน
2. บอกว่ามัดจำเท่าไหร่แล้วนายหน้าเก็บไว้จนกว่าจะโอน
3. บอกว่าค่าโอนใครจ่าย ค่าภาษีค่าธรรมเนียมใครจ่าย
4. บอกว่าผู้ขายจะต้องจ่ายเคลียหนี้กับธนาคารเอง
5. ถ้าไม่โอนตามกำหนดริบเงินมัดจำ
ปล2. อัพเดทนะครับ ทางนายหน้าส่งเจ้าหน้าที่ธนาคารใหม่มาคุยกับผมแล้ว ทางธนาคารแจ้งว่าฐานเงินเดือนคนกู้ร่วมไม่เข้าข่ายคุณสมบัติ(ฐานเงินเดือนไม่ถึง12000) ตอนนี้ผมแจ้งนายหน้าไปแบบนั้นแล้ว นายหน้าบอกขอคุยกับหัวหน้าก่อนว่าจะดึงดันให้ผมยื่นกู้อีกรึเปล่า