[CR] I Seoul U : The Trip Of Memory EP.2


ความเดิมตอนที่แล้ว
https://ppantip.com/topic/38253620


วันที่ 4 ไปปีนเขากันค่ะ
วันนี้ตื่นแต่เช้า เพราะเราจะไปปีนเขาที่เขาซอรัคซาน คือทริปนี้ตั้งใจมากๆ ค่ะ เพราะต้องการพิชิตเขาสักลูกหนึ่งในประเทศเกาหลี มาคอยรถเมล์เที่ยวแรกเลย โดยรถเมล์เบอร์ 7 หรือ 7-1 ลงป้ายสุดท้ายเลยค่ะ ใช้บัตร T-money หรือจะจ่ายเงินสดก็ได้ค่ะ แต่ต้องเตรียมให้พอดี

ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที ก็ถึงค่ะ จากที่คิดว่าคนยังไม่เยอะเพราะมาแต่เช้า คิดผิดค่ะ คนมาก่อนเราตั้งมากมาย

สิ่งที่สัมผัสได้เมื่อลงรถเมล์ คือความหนาวเย็นจากลม และวันนี้เราไม่ได้ใส่ฮีคเทคมาด้วยเพราะคิดว่า ตอนอยู่ในเมือง 13 องศา กำลังดี แต่ลมแรงมาก แต่เราก็ไม่อยากนั่งรถกลับไปใส่ชุดหนาๆ คิดว่าสายๆ คงอบอุ่นขึ้น เดินเข้าไปซื้อตั๋วเข้าอุทยานเขาซอรัคซาน

เนื่องด้วยลมแรงเคเบิ้ลคาร์ไม่เปิด ด้วยอากาศที่หนาว อยากรับประทานอาหารที่ร้อนๆ ที่นี่มีร้านอาหารอยู่หลายร้าน แต่จำนวนคนก็เยอะทุกร้าน มือนี้จึงเป็นบิบิมบับ
รับประทานอาหารเรียบร้อย เดินทางกันต่อ เราจะเดินทางไปวัดชินฮึงซา เราจะพบพระพุทธรูปองค์ใหญ่
เดินเข้าไปยังวัด
เดินเลยวัดมานิดนึงจะมีสะพานข้ามลำธาร แต่น้ำก็แห้งเกือบหมดแล้ว
ด้วยที่เคเบิลคาร์ไม่เปิด และตั้งใจมาปีนเขาอย่างจริงจัง เราก็เดินตามกลุ่มอาจุมม่าไป จะบอกว่าอาจุมม่าที่เกาหลี แข็งแรงมาก เดินกันแบบไม่เหนื่อยเลย
ระหว่างทางก็จะมีลำธาร น้ำตก ก็เป็นธรรมชาติดีค่ะ และใบไม้เปลี่ยนสีก็สวย แต่ก็เริ่มร่วงไปบ้างแล้ว
ก็เดินไปใช้เวลาพอสมควร คือยิ่งเดินยิ่งหนาว เราก็ฝืน เพราะตั้งใจมากๆ
จนมาถึงตรงนี้ และมีป้ายบอกทางอีก 8 กิโลเมตรจะถึง แต่ทนความหนาวไม่ไหวแล้ว การปีนเขาของเราไม่สำเร็จ
เดินลงมายังข้างล่าง หาอาหารร้อนๆ รับประทาน
ตั้งใจจะถ่ายรูปกับพระพุทธรูปองค์ใหญ่ แต่ตรงลานมีกิจกรรม
ส่วนป้ายที่มีหมี คนก็ต่อแถวถ่ายรูปยาวมาก

เราจึงนั่งรถเมล์กลับมาที่โรงแรม และเผลอหลับไป ตื่นมาอีกที 6 โมงเย็น ตั้งใจจะชวนเพื่อนร่วมห้องไปกินปูกัน แต่เพื่อนร่วมห้องไม่อยู่ ลังเลกับเมนูปูอยู่นานว่าจะกินดีไหม ราคาคงแพง และเราคนเดียวคงกินไม่หมด แต่เราก็อยากกิน ไหนๆ ก็มาแล้วเนอะ ไปกินปูกันดีกว่า

เดินมาที่ถนนที่มีร้านอาหารปูเยอะๆ ไม่มีข้อมูลว่าต้องไปกินร้านไหน ราคาเท่าไหร่ จนมาเจอร้านหนึ่ง ถ่ายรูปเมนูให้ลุงหน้าร้านดู ลุงก็ถามว่าจะรับแบบไหน เราก็ให้ดูรูปที่มีปูอย่างเดียว สรุปคือเราจะสั่งเป็นปูมาอย่างเดียวไม่ได้ ต้องบวกเครื่องเคียง 1 หรือ 2 ชุด

การมาเที่ยวคนเดียว สิ่งหนึ่งที่เราจะรู้สึกแปลก คือการเข้าร้านอาหารคนเดียว จริงๆ เพราะคนส่วนใหญ่จะมากับกลุ่มเพื่อนๆ แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ นานไปก็ชินเอง

เราสั่งปู 1 ชุด และเครื่องเคียง 1 ชุด ตอนนั้นไม่ได้สอบถามราคาค่ะ แต่ก็คิดว่าราคาน่าจะสูงอยู่ พอเข้ามาในร้านเห็นราคาติดอยู่ คิดคำนวณก็แพงมากค่ะ ถือว่าเป็นมือแรกที่กินอาหารแพงมาก บวกกับการมาคนเดียว พอเครื่องเคียงมาเสิร์ฟบนโต๊ะ คือเยอะจริงๆ คิดไว้แล้วค่ะว่ากินคนเดียวคือไม่หมดแน่นอน
และปูนึ่งก็มาเสิร์ฟ ตัวใหญ่มากๆ คุณลุงก็สอนการกินว่าต้องกินแบบไหน เนื้อปูหวานมากค่ะ แต่พอกินๆ ไปก็เลี่ยน ต้องมีน้ำจิ้มซีฟู้ดแบบบ้านเรา เราก็แก้เลี่ยนโดยการใช้ซอสของเกาหลี แต่กลิ่นซอสก็ไม่โอเคค่ะ แต่ก็ไม่ได้แย่มาก เพราะเนื้อปูสดใหม่ อร่อยค่ะ ส่วนป้าที่ทำอาหารเห็นเราเป็นชาวต่างชาติ ทำอาหารมาเพิ่มเติมอีก และทำข้าวผัดปู+ไข่ปู มาให้ อิ่มมากค่ะ แต่กินไม่หมด เหลือปูอีกค่อนจาน แต่ฝืนไม่ไหวแล้ว

ด้วยความกลับป้าจะเสียใจที่กินไม่หมด ไม่ใช่ไม่อร่อยนะคะ แต่มากินคนเดียว เลยบอกป้าว่า มาชิดตา ก็จ่ายป้าไปตามราคาที่ป้ายบอกแต่ป้าก็ลดให้ครึ่งต่อครึ่ง เรียบร้อยแล้วเราก็เดินกลับห้องพัก เตรียมตัวเก็บกระเป๋าพรุ่งนี้เราจะกลับกรุงโซลแล้ว


วันที่ 5 เดินทางกับกรุงโซล
วันนี้ต้องบ๊ายบายซกโซแล้ว เตรียมตัวตื่นแต่เช้ามาก เพราะอยากไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นที่ศาลาริมน้ำ แต่พอออกมาจากห้องพักแสงอาทิตย์แจ่มจ้าไปแล้ว จึงมุ่งหน้าสู่กรุงโซลกัน โดยไปซื้อตั๋วที่ Sokcho bus terminal โดยเราต้องซื้อตั๋วไปลงสถานีรถบัสดงโซล Dong Seoul Bus Terminal ได้ตั๋วมาเป็นรอบ 08.30 น.
รถออกจากซกโซ ประมาณ 1 ชั่วโมง รถจะจอดให้เข้าห้องน้ำและซื้อของ และขากลับผ่านวิวแม่น้ำฮันสวยๆ ด้วย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงสถานีรถบัส พอลงรถเดินตามคนอื่นๆ ไปเลยค่ะ เพราะจะอยู่ใกล้สถานีรถไฟ Gangbyeon Station ทางออกที่ 4 และนั่งรถไฟใต้ดินไปที่พัก 4 วันที่เหลือเราพักย่านมยองดง

ที่พักชื่อนัมซาน เกสเฮ้าท์ http://www.namsanguesthouse.com/namsan_guesthouse1/th_language/about.php
คนไทยมักมาพักที่นี่กันเยอะ

สำหรับที่พักก็โอเคค่ะ แต่เดินไกลไปหน่อยและเดินขึ้นเนิน แต่สะดวกอยู่ค่ะ เช็คอินและฝากกระเป๋าไว้ก่อน วันนี้จะไปสวนฮานึลปาร์ค ถ่ายรูปกับดอกไม้ ใบหญ้า และแวะที่ถนนฮงแด

สวนฮานึลปาร์คการเดินทางนั่งรถไฟใต้ดินลงสถานี World Cup Stadium ทางออกที่ 1 จะเห็นป้ายบอกทางไปฮานึลปาร์ค เดินมาที่ถนนใหญ่ค่ะ ข้ามทางม้าลายไปฝั่งตรงข้าม เราจะผ่านสวน World Cup Park ก่อน แวะถ่ายรูปสวยๆ ได้เรื่อยๆ
และเดินตามป้ายที่ชี้ไปทางฮานึลปาร์ค จนเจอสะพานนี้
และจำนวนคนที่เยอะอีกแล้ว มีทางให้เลือก 2 อย่างระหว่างเดินขึ้นบันได 290 ขั้น กับขึ้นรถไปยังสวนเลย แต่แถวที่ขึ้นรถขึ้นก็ยาว พอๆ กัน เราเลือกเดินขึ้นบันไดไป
พอขึ้นจนสุดบันได วิวที่ได้ก็เป็นอย่างที่เห็น
World cup stadium
และเดินมาเรื่อยๆ ค่ะ เป็นทุ่งดอกคอสมอส
ทุ่งหญ้าอันฟูฟ่อง เป็นสวนดอกหญ้าขนาดใหญ่ บนเนินเขา
และจุดวิวพอยด์ และแม่น้ำที่เห็นเป็นแม่น้ำฮัน
สวนกว้างมากๆ แต่ทริปนี้มาตามหาดอกหญ้าสีชมพู (Pink Muhly Grass) และพุ่มดอกโคเคีย ดูตามป้ายบอกเรารีบวิ่งเลย เพราะฝนทำท่าจะตกแล้ว

ในที่สุดก็เจอแล้ว
ชื่นชมวิวได้ไม่นานเราต้องลงไปแล้ว ฝนทำท่าจะตกหนัก รีบเดินมายังทางลง พอเหยียบบันไดทางลงขั้นแรกเท่านั้นแหละ ฝนตกค่ะ จะเดินกลับไปด้านบนก็ไม่ได้ เพราะคนก็ต่อแถวจะลงกัน แล้วก็ไม่ได้เอาร่มมา เพราะดูพยากรณ์อากาศบอกว่า มีโอกาสเกิดฝน 2 % โชคดีที่คู่รักด้านหลังเรา ใจดีกางเผื่อให้

ในที่สุดก็ถึงชั้นล่าง วิ่งไปหลบฝนที่ World Cup Stadium สภาพเปียกมากเป็นลูกหมาตกน้ำ

ฝนหยุดตก เดินไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน ตอนแรกจะแวะไปที่ฮงแด เปลี่ยนใจเป็นไปรับกระเป๋าที่ร้านและไปห้องพักที่มยองดงเลย

รับกระเป๋าไปเปลี่ยนสถานี และสถานีที่เปลี่ยนไม่มีบันไดเลื่อน ต้องยกกระเป๋าลงบันไดอีก บวกกับช่วงเวลาผู้คนเลิกงาน คนเต็มขบวน กว่าจะมาถึงห้องพักทำให้เหนื่อยเลยทีเดียว

ชื่อสินค้า:   Seoul Korea
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่