[CR] I Seoul U : The Trip Of Memory

สวัสดีค่ะ....หลังจากห่างหายจากการแบกเป้เที่ยวมาสักระยะ และนี่เป็นทริปแรกของปี ที่สำคัญเป็นทริปต่างประเทศที่เราเดินทางไปเองคนเดียวครั้งแรก

เราเดินทางวันที่ 24 ตุลาคม 2561- 1 พฤศจิกายน 2561 เดินทางมาถึงประเทศเกาหลีช่วงเวลา 10:00 น. ถ้าใครมาครั้งแรกพอลงจากเครื่องก็เดินตามป้าย Arrivals ไปเรื่อยๆ จนเจอบันไดเลื่อนรถไฟฟ้าใต้ดิน ขึ้นรถไฟฟ้าเพื่อไปที่อาคาร และผ่านด่าน ตม. จนมาถึงด่านตม. เขียนใบผ่านเข้าเมืองที่ได้จากแอร์ฯ บนเครื่องบินให้เรียบร้อย และต่อแถวช่อง Foreigner Passenger ตอนที่เรามาถึงคนเยอะ เพราะกรุ๊ปทัวร์ลงพร้อมกันหลายกรุ๊ป

ยืนต่อคิวสักพักใกล้ถึงคิวเราแล้ว แถวที่เราต่อคนก่อนหน้าผ่านง่ายมาก จนถึงคิวเรา ยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จะให้เราสแกนลายนิ้วมือ (นิ้วชี้ทั้งสองข้าง) และที่เครื่องสแกนมีภาษาไทยบอกค่ะ และมองกล้องภ่ายภาพใบหน้า โดยไม่สวมหมวกและใส่แว่นค่ะ

เจ้าหน้าที่คงเห็นจำนวนวันในใบผ่านเข้าเมืองว่าหลายวัน ก็ถามเราว่าเราทำอะไร เราบอกว่ามาเที่ยว กับครอบครัวหรือไม่ เราก็บอกว่าเรามาคนเดียว คุณมีเพื่อนที่นี่หรือไม่ เราก็บอกไม่มี เจ้าหน้าที่ก็ยังคงสงสัยอยู่ จึงขอดูแพลนการท่องเที่ยวของเราก็หยิบทุกอย่างให้เจ้าหน้าที่ดู ทั้งหลักฐานการจองห้องพัก ตั๋วเครื่องบินไปกลับ จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ยิ้มและพยักหน้าให้เราผ่านไปได้

เย้ๆๆ เราถึงเกาหลีจริงๆ แล้ว จากนั้นเราก็ไปรับกระเป๋า และตั้งหลักการเดินทางกันต่อ
วันแรกเราพักย่านฮงแด จึงใช้วิธีโดยรถบัส 6002ลงที่ HongikUniv จะใกล้กับทางออก 8
http://www.airportlimousine.co.kr/eng/lbr/gangbuk/lbr02_1_6002.php

พอถึงป้ายจอดรถบัส มุ่งหน้าหาที่พักกันก่อน ถามทางจนเจอที่พัก คืนแรกเราพักที่ Cocoon Stay อยู่ใกล้ๆ กับมหาวิทยาลัยฮงอิกเลย เมื่อเจอที่พักเราก็เช็คอิน และมาเดินที่ถนนฮงแด เราชอบเดินช็อบปิ้งที่ถนนนี้  เพราะมีกิจกรรมการแสดงทางด้านศิลปะ ไม่ว่าจะเป็น การเต้น การร้องเพลง และถนนเส้นนี้ส่วนมากจะมีวัยรุ่นจำนวนมากที่มาเดินเที่ยว

และกลับมาร้าน Kakao Friend ร้านนี้จะมีทั้งหมด 3 ชั้น 1 และ 2 เป็นของขายน่ารักๆ และชั้น 3 เป็นคาเฟ่กาแฟ
การเดินทาง รถไฟฟ้าสาย 2 ลงสถานี Hongik University จะเดินทางออก 8 หรือ 9 ก็ได้ เพราะตึกอยู่ระหว่างทางออก 8 และ 9 เปิดบริการทุกวัน 10:30-22:00 น.






และมายืนฟังเพลง ตรงลานแสดงกิจกรรม ระหว่างที่เรายืนฟังเพลงอยู่นั้น มีน้องเกาหลีผู้หญิงคู่หนึ่งมาทักเรา จำได้ว่าน้องทักเป็นภาษาเกาหลีว่าเป็นคนไทยหรือไม่ ตอนนั้นก็งงๆ ว่าน้องเขารู้ได้ยังไง เราก็บอกว่าใช่ น้องบอกว่ามีเพื่อนเป็นคนไทย อยู่ที่กรุงเทพฯ เพราะเพื่อนมาเรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน จากนั้นบทสนทนาของพวกเราก็ยาวเลย ภาษาที่เราใช้คุยกันก็เป็นภาษาอังกฤษ ภาษาเกาหลี และใช้แอฟ Papago คุยกัน เวลาคนเกาหลีพูดภาษาอังกฤษเราว่าสำเนียงฟังยากมาก ภาษาเกาหลีเราพอรู้บ้าง แต่บางครั้งก็นึกคำศัพท์ไม่ทัน จะมานึกได้ตอนคุยจบไปแล้ว เราได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับประเทศเกาหลีจากน้องๆ 2 คน น้องถามเราว่าทำไมถึงมาประเทศเกาหลี เราบอกว่าชอบประวัติศาสตร์เกาหลี และทำไมถึงมาคนเดียว อยากทำอะไรในเกาหลีบ้าง และหลายๆ คำถาม เราคุยกันหลายชั่วโมง จนเกิดมิตรภาพที่ดี น้องได้บอกกับเราว่า เพราะเรามีโชคชะตาต่อกันเราถึงได้พบกัน น้องๆ ได้แนะนำอาหารว่ามาแล้ว ที่ต้องกินมีอะไรบ้าง เราก็ได้แลกไลน์กัน ถ่ายรูป และร่ำลากัน แต่พวกเราก็นัดกันอีกที หลังจากที่เราไปต่างจังหวัด แล้วกลับมาโซล อยากพบกันก่อนเรากลับประเทศไทย

หลังจากไปส่งน้องๆ ที่สถานีรถไฟ ก็เดินกลับห้องถึงห้องก็ 4 ทุ่ม จากที่ตั้งใจจะเก็บกระเป๋าไปฝากที่ร้านฝากกระเป๋า เพราะพรุ่งนี้จะเดินทางไปเกาะนามิแต่เช้า แต่ร้านก็ปิดไปแล้ว

ส่วนห้องพักที่เรา ถ้าเดินทางโดยรถไฟฟ้าโดยมาลงสถานี Hongik University ทางออกที่ 7 จะสะดวกที่สุด ห้องพักเป็นแบบโฮสเทล และห้องพักเดี่ยว เราพักแบบห้องพักเดี่ยว แต่ห้องแคบมาก ก็พออยู่ได้ แต่ที่สะดวกคืออยู่ในย่านฮงแดเลย ส่วนห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมค่ะ


วันที่สอง : เดินทางสู่เกาะนามิ
วันนี้ตั้งใจจะไปเกาะนามิแต่เช้า เพราะคิดว่าที่นี่คนต้องเยอะมาก เพราะใบไม้เปลี่ยนสีกำลังพีคและสวยมาก แต่ว่าร้านฝากกระเป๋าเปิด 9 โมงเช้า หลังจากใกล้  9 โมงเช้าเราก็เช็คเอาท์ออกจากที่พัก และไปยังร้านฝากกระเป๋าร้านชื่อ RAON อยู่ในสถานีรถไฟ HongikUnivอยู่ใกล้ๆ ทางออก 7 ฝั่งซ้ายมือแต่ยังไม่ออกมาถนนด้านนอกนะคะ เหมาะสำหรับคนที่เดินทางไปต่างจังหวัด สามารถฝากได้เป็นเดือนๆ เลยค่ะ

รายละเอียดที่ร้านค่ะ
http://raontravel.com/en/?ckattempt=2

วันนี้เป็นวันแรกที่ขึ้นรถไฟฟ้า ก็งงๆ รู้เพียงว่าถ้าเราจะไปไหนให้ดูชื่อสถานีถัดไปว่าเป็นชื่อที่เราจะเดินทางไปไหม ? บางครั้งเราก็เจอขบวนที่ไม่มีป้ายจอภาษาอังกฤษว่าถึงไหนแล้ว เพราะบางทีเราจะฟังไม่ออกว่าถึงสถานีไหนแล้ว จำง่ายๆ อีกแบบคือจำเลข ว่าที่เราจะลงเป็นเลขอะไร เลขจะมี 3 หลัก เวลารถไฟจอดเราจะมองเห็นว่าเราป้ายด้านนอก ว่าอยู่ที่สถานีอะไร

จากสถานีฮงอิกเราก็มาถึงสถานี Cheongnyangni ตั้งใจจะนั่งรถไฟ KTX ไปเพราะรวดเร็ว แต่พอถึงสถานีนี้ก็ลักษณะคล้ายๆ กับสถานีขนส่งบ้านเรา คือไม่รู้ต้องเริ่มไปตรงไหน เราก็หาตู้ที่ซื้อบัตรที่อ่านจากรีวิวมา โดยเป็นตั๋วยืนก็ได้ ซึ่งเรามาถึงที่นี่ก็เที่ยงแล้วป่านนี้ยังไม่ถึงเกาะนามิ เพราะหลงทางกับการขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน 555+

จึงเดินไปถามเจ้าหน้าที่ว่าจะไป Gapyeongโดย KTX ยังไง เขาก็บอกต้องจองออนไลน์เหมือนรถจะเต็ม ก็ชี้ให้เราไปขึ้นรถไฟ Itx แทน ระหว่างนั้นเราก็ลงบันไดเลื่อนลงมา พร้อมกับหาข้อมูลว่าต้องไปลงสถานีไหน พอดีมีป้าที่ลงบันไดเลื่อนหันมาถามเราเป็นภาษาเกาหลีว่าเราจะไปไหน เราก็บอก คาเพยอง ซึ่งป้าก็พยายามหาว่าเราต้องขึ้นตรงไหนยังไง ป้าเขาก็พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย พยายามจะสื่อสารกับเราให้เข้าใจ เราก็ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง

จนเราบอกว่าเราจะไปนามิซอม ป้าก็พยายามถามคนอื่นว่าไปเกาะนามิ ต้องไปลงสถานีไหน ป้าดูเต็มใจช่วยเราเต็มที่ จนไปเจอนักเรียนกลุ่มหนึ่ง บอกให้ไปลงที่ Sangbong เมื่อรู้ว่าเราต้องไปลงสถานีไหน ก็คัมซาฮัมนีดา อาจุมม่าไป รู้สึกขอบคุณอย่างบอกไม่ถูก ตอนแรกป้าเขาเดินไปแล้ว แล้วอยู่ๆ ป้าก็เดินกลับมาเพื่อยืนส่งเราเพราะกลัวเราขึ้นผิดขบวน และเอากระดาษมาเขียนชื่อ เกาะนามิ บอกว่าพอถึงแล้วยื่นกระดาษให้แท็กซี่นะ คือป้าน่ารักมากเลย

จากซางบองถึงคาเพยอง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ก็ไม่นานมากมองวิวเพลินๆ เดินออกมาหน้าสถานีจะมีจุดจอดรถแท็กซี่ บอกลุงว่าไป นามิซอม เราเสียค่าแท็กซี่ไป 6000W

ในที่สุดก็ถึงเกาะนามิ ทันทีที่ลงจากรถแท็กซี่ คนเยอะมากจริงๆ ก็ไม่ได้มาวันเสาร์หรือวันอาทิตย์นะ หรือวันนี้วันหยุดของเกาหลีหรือเปล่า ทำไมคนเยอะจัง ซื้อตั๋วและขึ้นเรือข้ามไปยังเกาะ

พอข้ามถึงเกาะนามิ สถานที่กว้างมาก และใบไม้เปลี่ยนสีสวยมาก
กลุ่มเด็กๆ ที่มาทัศนศึกษา
กว่าจะได้ภาพนี้ ต้องรอให้คนกลับเกือบหมดก่อน
เราอยู่ที่นี่จนถึง 6 โมงเย็น
นั่งเรือกลับออกมาจากเกาะนามิ จุดรอแท็กซี่กับรถบัส คนก็เยอะมาก แถวยาว เริ่มเป็นกังวลหล่ะ เพราะคืนนี้เราต้องไปพักที่ชุนชอน

ได้ขึ้นรถแท็กซี่กลับมาที่สถานีคาเพยอง ตอน 19:30 แต่พอขากลับเสียแค่ 3000W ทำไมราคาห่างกับตอนไปครึ่งต่อครึ่งเลย

นั่งรถไฟ Itx ลงสถานีชุนชอน และออกมาคอยแท็กซี่ ยืนคอยรถคนเดียวนานก็ไม่เห็นแท็กซี่ผ่านมาสักคัน คิดว่าถ้าไม่มีแท็กซี่ต้องได้กลับไปนอนที่โซลแน่ๆ จนรถแท็กซี่มา ก็ถามว่าเราจะไปไหน เราก็บอกเวิล์ดโฮเทลค่ะ เอาใบจองที่มีแผนที่มาให้ลุง ลุงก็เปิด GPS และขับตามไป

ขับวนหาที่พักอยู่ 3 รอบ ก็ยังไม่เจอ ทั้งถามคนข้างทาง แต่ลุงก็ไม่ทิ้งให้เราลงระหว่างทาง พยายามให้เราถึงที่หมาย จนลุงไปถามทางเขาก็บอกอยู่ในถนนคนเดิน ซึ่งลุงก็บอกว่าเขาไม่สามารถขับรถเข้าไปได้ ให้เราลงและเดินตรงไปแล้วเลี้ยวซ้าย เราก็เดินตามที่ลุงบอก แต่ก็หาไม่เจอ ถามคนในนั้นก็ไม่มีใครรู้จัก

เดินวนอยู่ 2 รอบ ถนนคนเดินก็เริ่มเก็บร้าน หิว เหนื่อย อยากพัก ตัดสินใจไม่หาที่พักหล่ะ คิดว่าถ้าเจอโรงแรมตรงไหนเปิดห้องใหม่เลย เพราะเวลาก็เกือบ 5 ทุ่มแล้ว

จนไปเจอโรงแรมหนึ่งจำชื่อไม่ได้เหมือนกันค่ะ แต่ดูจากโรงแรม ราคาน่าจะสูง จึงไปสอบถามว่ามีห้องพักว่างไหม และราคาเท่าไหร่ ราคาอยู่ที่ 60000W คิดเป็นเงินไทยก็ 1700 ตอนนั้นคือยังไงก็ได้ แค่มีที่ให้เรานอน สภาพห้องก็โอเคค่ะ มีอุปกรณ์ทุกอย่าง
จากที่ตั้งใจว่าจะมาเดินถนนมยองดงที่ชุนชอน และกินไก่ผัดซอส (ทัคคาลบิ้) กลับจบด้วยนมและขนมปังในร้าน G25


วันที่สาม : เดินทางสู่เมืองทะเลและภูเขา
การเดินทางวันนี้ตั้งใจจะปั่นจักรยานในเมืองชุนชอน และตามหารูปปั้นสาวน้อยที่แม่น้ำโซยัง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ ที่มีเรื่องราวจากเนื้อเพลง ที่เฝ้าคอยคนรักกลับมา

แต่จากการที่หลงทางเมื่อวาน และหาที่พักไม่เจอ ถ้าเดินทางช่วงบ่ายไปถึงเมืองซกโซ ก็คงถึงมืดๆ ต้องนึกถึงความปลอดภัยไว้ก่อน ตัดสินใจเดินทางไปเมืองซกโซเลยนแล้วกัน จริงๆ ก็เสียดายที่ไม่ได้เที่ยวเมืองนี้เลย เป็นเพืยงทางผ่านเท่านั้น ขอโทษนะเมืองชุนชอน T_T

เช็คเอาท์ออกจากที่พัก พอเดินออกมาจึงรู้ว่าฝนตกหนักไปแล้ว ตอนนี้ก็ฝนปรอยๆ ขึ้นรถแท็กซี่และไปลงที่ สถานีรถบัส Chunchon bus terminal
เคาเตอร์ซื้อตั่วอยู่ด้านหน้าเลยค่ะ บอกเจ้าหน้าที่ว่าไปซกโซ

ตารางเวลาเดินรถ
พอได้ตั่วมามองเวลาขึ้นรถ อีก 3 นาทีรถออก วิ่งเลยจร้า 555 เลยไม่ได้ซื้ออะไรไปกินบนรถเลย
จากชุนชอนไปซกโซ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง นั่งหลับไปสักพักตื่นมาจากวิวภูเขา
กลายเป็นวิวทะเล คงใกล้ถึงแล้วสินะ อากาศที่นี่แจ่มใส ฝนไม่ตก
ถึงซกโซแล้ว ที่นี่เป็นเมืองเล็กๆ สงบๆ พอลงจากรถบัส ก็เตรียมพร้อมหาที่พักกันต่อ ถ้าวันไหนไม่หลงก็ไม่ใช่เราหล่ะ เดินตาม GPS ไป คือเดินเหมือนวนๆ อยู่แถวๆ นั้นห และไม่มีใครผ่านมาให้เราถามทางเลย
ชื่อสินค้า:   Korea Autumn
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่