ไทยจะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วในปี 2050 วิเคราะห์จาก apple store,netflix และเทคโนโลยีต่างๆ

อย่าพึ่งกดขำกลิ้งผม ฟังผมก่อน ผมจะวิเคราะห์ให้ฟัง

1 ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ infrastructure ไทยพัฒนาขึ้นมาก รัฐสร้าง รถไฟ รถไฟฟ้า ถนน และโครงการต่างๆมากมาย ส่วนเอกชนก็มีโปรเจคใหญ่ๆทั้งเอมสเฟียร์ วันแบงกอก ไอคอนสยาม ตึกสูงติดอันดับโลกที่พระรามเก้า และอื่นๆอีกมายมาย เครือข่ายสัญญาณมือถือ โทรศัพท์ก็เร็ว แรงติดอันดับโลก  อีกไม่กี่ปี รถไฟฟ้าครบทั่วกทม และรถไฟความเร็วสูงเชื่อมเมืองใหญ่  ไทยนั้นมีเอกชนเหมือนเป็นทัพหน้าและรัฐคอยช่วยอยู่ไม่ห่าง เศรษฐกิจแข็งแกร่ง

2 ดูในเนตฟลิก หัวข้อ Exclusive international television distribution ที่นี่
https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_original_programs_distributed_by_Netflix
ภาษาไทยเป็น 1 ใน 23 จากหลายพันภาษาทั่วโลกที่เนตฟลิกเลือกไป ด้านสื่อ บันเทิง ซีรี่ เราพัฒนาขึ้นเรื่อยๆไล่ตามเกาหลีไปแล้ว เราจะส่งวัฒนธรรมไทยส่งขายทั่วโลกให้คนมาสนใจแบบที่ฮอลลีวูดเคยทำและกำลังทำอยู่ เรียกว่าด้านวัฒนธรรม สื่อ หนัง ละครเราก็แข็งแกร่ง

3 เราไม่มองในอาเซียนแล้วเราจะมองระดับโลก เพราะในอาเซียนประเทศส่วนใหญ่ความสามารถไม่สูงมากนัก ได้ที่หนึ่งไปก็ไม่ควรดีใจ เราจึงต้องมองระดับโลก การเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว

4 เราเป็น 1 ใน 25 ประเทศที่มี apple store
https://en.wikipedia.org/wiki/Apple_Store
เขาจะมาเค้าต้องคิดก่อน ประเทศไทยมีศักยภาพ มีความสามารถในการซื้อ เศรษฐกิจแข็งแกร่ง เขาจึงกล้ามา ประเทศที่เปิดส่วนมากก็เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งสิ้น รวมกำลังซื้อของคนไทยและจากนทท ตปท อีกจำนวนหลายล้านคนในแต่ละปี นี่ชี้วัดว่าตลาดในไทยคึกคัก น่าลงทุน มีศักยภาพสูง

5 คนเราก็มีทั้งคนมากมายหลากหลาย โดยเฉพาะคนไทยเชื้อสายจีนที่โดดเด่นในเรื่องความสามารถด้านธุรกิจต่างๆ จีนโพ้นทะเลประเทศไทยมีเยอะเป็นอันดับหนึ่งของโลก

6 ทำไมต้อง 2050 เพราะมันคือเวลาประมาณคนหนึ่งเจนเรชัน ไม่กี่ปีอะไรก็พัฒนาไปเร็วมาก ไม่เชื่อไปดูหนังเก่าๆเห็นบ้านเมืองจะต่างจากปัจจุบันมากทั้งที่ผ่านมาไม่กี่สิบปี

7 สำคัญสุดสื่อหนังสือ ต่างๆ ไทยมีหนังสือแปลต่างๆเยอะมาก ไปร้านหนังสือเล่มไหนดีๆดังๆที่ตปท ไม่กี่เดือนมีแปลไทยขายตามร้านหนังสือแล้ว  มีแหล่งการเรียนรู้เยอะมากที่จะเพาะพันธุ์คนเก่งๆในอนาคต เรามีห้องสมุดเมืองกรุงเทพ tkpark ห้องสมุดสวนลุม ห้องสมุดประชาชนกระจายไปทั่วประเทศ ห้องสมุดเคลื่อนที่  ทั้งหมดเข้าไปอ่านหนังสือฟรีๆ  หรือของร้านหนังสือเราก็มีทั้ง0หนังสือฬ คิโนะทั้งสามสาขา open house ที่เซนทรัลเอมบาสซี  think space b2s เซนอีสวิล และอื่นๆอีกมาก คือแหล่งหนังสือการเรียนรู้ต่างๆของไทยพัฒนาไปมาก ร้านสวย หรูน่าเข้าไปนั่งอ่าน หนังสือดี เยอะ ทั้งภาษาไทย อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น เรามีครบ accessibility of information เราพัฒนาไปมาก เนตก็แรง หนังสือดีๆก็เยอะ

8 ไทยรับมาหมด ปรับตัวได้ง่าย อะไรจากตปท ดังๆเรารับเขามาหมด มันดีตรงที่เราไม่ต่อต้านหรือจมอยู่กับของเก่าๆ มันทำให้เราพัฒนาได้ง่าย

9 ไทยจะพัฒนาจากการท่องเที่ยว เหมือนสมัยก่อนค้าขายคาราวานต่างถิ่นพักเมืองไหนเมืองนั้นก็เจริญคึกคัก ปัจจุบันเปลี่ยนจากพ่อค้าเป็นนักท่องเที่ยว วัฒนธรรม เทคโนโลยี ธุรกิจ เม็ดเงิน มันก็กระจายมาจากการท่องเที่ยวไทยที่แข็งแกร่งติดอันดับโลก ทั้งเม็ดเงินและความเจริญต่างๆที่มาพร้อมกับการท่องเที่ยวของต่างชาติ

10 คนเก่งๆ จบ mit oxbridge harvard ยูทอปของโลกมีจำนวนมากอยู่เป็น อ มหาวิทยาลัยของรัฐ สร้างงานวิจัยต่างๆทั้งบริสุทธิ์และประยุกต์
ปี 2017 เราอยู่อันดับที่ 39 จากสองร้อยกว่าและกำลังขยับขึ้นเรื่อยๆ
https://www.scimagojr.com/countryrank.php?year=2017&order=h&ord=desc

11มีพันทิปและช่องทีวี ออกข่าวต่างๆ ปรับปรุงประเทศอะไรไม่ดีเราก็โพสลง เป็นข่าว สังคมก็เกิดการเรียนรู้พัฒนาไปเรื่อยๆ เช่นแชร์ลูกโซ่ พอเป็นข่าวคนโดนหลอกต่างๆมากขึ้น คนก็เริ่มเรียนรู้และตกเป็นเหยื่อน้อยลง สังคมจะปรับปรุงพัฒนาไปเรื่อยๆจากการเรียนรู้จากข้อมูลในเว็บพันทิป ช่องทีวีและสื่อต่างๆ

สรุปดูจากเทรนต่างหลายอย่างทั้งการก่อสร้างสิ่งใหม่ๆทั้งของรัฐและเอกชน โครงการลงทุนต่างๆ หลายอย่างรวมกันตอนนี้ อัตราแบบนี้ คิดว่าไทยน่าจะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วในปี 2050 ครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 24
ในปี2050อาจจะมีหวังครับ เพราะสาธารณูปโภค ของเราน่าจะพัฒนาจนอยู่ในระดับที่ดีขึ้นมาก(ถ้าไม่เกิดสะดุดหรือเหตุวิกฤติอะไรนะ)

เรามีจุดแข็งที่ ด้านการแพทย์(โดยรวมแล้วโรงบาลเอกชนไทยนี้ถือว่าอยู่ในระดับสูงเลยเพราะ คือคุ้มค่ากับราคา ชาวต่างชาติชอบบินมารักษาตัวแถมได้ท่องเที่ยวไปในตัว มีหลายเกรดให้เลือก ตั้งแต่ถูก(ถูกสำหรับเขา)ยันแพงยิ้มๆ ตามคุณภาพและความหรูหรา) และด้านการท่องเที่ยว ที่เราพัฒนาขึ้นโดยมีตัวแรกจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกปี จนต้องขยายสนามบินแล้วขยายอีก (แต่พึ่งทางนี้ก็ระวัง ดังเช่นตอนนี้ กระแสจีนแบนไทย กระแสสงครามการค้า ค่าเงินบาทแข็ง ค่าเงินต่างประเทศอ่อน ส่งผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวได้มาก ถ้าเศรษฐกิจโดยรวมดี ท่องเที่ยวก็จะบูม) แต่ถ้าจะพัฒนาเป็นประเทศพัฒนาแล้วก็ต้องเปลี่ยนการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพมากขึ้นด้วย เพราะถ้ากลายเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ค่าใช้จ่าย และอื่นๆมันก็จะเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อให้ นักท่องเที่ยวมาลดน้อยลงเพราะค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวมีราคาสูงขึ้น อาจต้องเปลี่ยนแนวทางการพัฒนาท่องเที่ยวเสียใหม่

ด้านเทคโนโลยี่และอุตสาหกรรม ปัจจุบันไทยเราเป็นประเทศอุตสาหกรรม แทบจะเต็มตัวแล้ว แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นลูกจ้างผลิต ดังนั้นโดยรวมถ้าไม่มีเทคโนโลยี่ เจ้าของบริษัทเทคโนโลยี่เป็นของตัวเอง ก็คงจะยากที่จะกลายเป็นประเทศพัฒนา ผมว่าถ้าแก้จุดนี้ไม่ได้ก็ยากนะที่จะกลายเป็นประเทศพัฒนา

ด้านการเกษตร บ้านเรานี้ก็มีปัญหา ไม่ว่าจะด้านการแข่งขันราคาตลาดกับประเทศเพื่อนบ้าน หรือสินค้าราคาตกต่ำ(อุปสงค์ อุปทาน)ผมว่าส่วนนี้รัฐควรเข้ามาแก้ไขหรือจัดระเบียบเสียใหม่ เพราะถ้าปล่อยอย่างงี้ไปเรื่อยๆสุดท้าย ถ้ามองภาพรวมมาดูค่าเฉลี่ยมันก็ถูกฉุดลงไปอยู่ดี  ใจนึงอยากให้เน้นที่คุณภาพจับกลุ่มตลาดบน แต่ตลาดคงไม่ใหญ่มากพอจะให้จับได้ ยกเว้นถ้าประเทศพัฒนาจนรายได้ต่อหัวพุ่งขึ้นมากๆจนเป็นประเทศพัฒนา พอคนมีกำลังซื้อมากขึ้นก็คงพอที่จะทำให้เกษตรกรพอจะมีฐานการบริโภคสินค้าคุณภาพได้มากยิ่งขึ้น(อันนี้ความคิดส่วนตัวนะ ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน และคิดไม่ออกด้วยว่าจะแก้ยังไง จะกำหนดปริมาณปลูกพืชแต่ละชนิดแต่ละเขตก็ยาก)

การจัดเก็บภาษี ประเทศไทยเรานี้มี ธุรกิจจำนวนมากที่หลบเลี่ยงภาษีเยอะมาก ส่งผลให้ รายได้รัฐจากภาษีได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น ส่งผลต่อ งบประมาณในการพัฒนา สาธารณูปโภค  สวัสดิการขั้นพื้นด้าน และการลงทุนด้านการศึกษาและอื่นๆ ทำให้ลำบากมากขึ้น

ด้านการพัฒนาบุคลากร ส่วนตัวมองว่าในอนาคตข้างหน้า จะมีการใช้เทคโนโลยี่เข้ามาช่วยค่อนข้างมาก ดังนั้นเราต้องปรับบุคลากรเราให้ตรงกับความต้องการในอนาคต แรงงานทั่วไป หรือแรงงานไร้ฝีมือในอนาคตคงเป็นที่ต้องการในตลาดน้อยลงด้วย ระบบเอไอ และ เทคโนโลยี่ที่ลดจำนวนคนลงได้  การพัฒนาด้านการศึกษาถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการ ทำให้ไทยกลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วได้


ภายในปี2050 เราจะกลายเป็นประเทศพัฒนาได้จริง ถ้าแก้ไขปัญหาที่ว่านี้ได้หมดนะ(ถ้าทำได้นะ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่