⚡~มาลาริน~ระทึก..ปปช.รับพบทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ล็อตสอง ปรากฏผู้กระทำความผิดเพิ่มเติม


ป.ป.ช.” พบโกงข้าวจีทูจีล็อต2 






พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการคืบหน้าคดีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ล็อตสอง ว่า ปัจจุบันมีอนุกรรมการ 2 ชุดร่วมกันไต่สวนอยู่  โดยปรากฏผู้กระทำความผิดเพิ่มเติม จึงมีการเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อขอให้มีมติไต่สวนเพิ่มเติมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเมื่อมีมติสั่งไต่สวนเพิ่มเติมแล้วกระบวนการต่างๆ จะได้ดำเนินการไป อย่างไรก็ตาม ตามระเบียบ ป.ป.ช. อนุกรรมการไต่สวนจะต้องแจ้งให้ผู้ที่ถูกกล่าวหาทราบว่ามีข้อขัดข้องหรือจะคัดค้านอนุกรรมการหรือไม่ เพราะเป็นสิทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหา และผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิ์ที่จะให้ปากคำ รวมถึงยื่นพยานหลักฐาน ถือว่าเป็นไปตามขั้นตอน โดยขณะนี้คืบหน้าไปมากแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีบางฝ่ายออกมาระบุว่า ผู้ถูกกล่าวหาคือ ....................................พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า “ถ้าเกี่ยวข้องกับใคร มีพยานหลักฐานอย่างไร เวลา ป.ป.ช.จะดำเนินการผู้ที่เกี่ยวข้องก็ต้องมาเข้ากระบวนการไต่สวน ซึ่งจะต้องเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องจริงๆ แต่ถ้าไม่เกี่ยวข้องจริงกรรมการ ป.ป.ช.คงไม่สั่งไต่สวนเพิ่มเติม”


 เมื่อถามว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้สั่งไต่สวนเพิ่มเติมในประเด็นใดบ้าง พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานและบุคคลที่ไปไต่สวนเพิ่ม ว่าไปเกี่ยวโยงกับผู้ที่เกี่ยวข้องตรงนั้นอย่างไรในกระบวนการกระทำความผิดที่ถูกกล่าวหา ป.ป.ช.จึงต้องสั่งไต่สวนเพิ่มเติมเพื่อให้เขาได้มีโอกาสชี้แจง ทั้งนี้ ในการไต่สวนเริ่มต้นอาจเจอพยานหลักฐานเพียง 1-5 แต่เมื่อไต่สวนไปแล้วระยะหนึ่งพบว่าจะต้องมีบุคคลที่ 6-8 เกี่ยวข้องด้วย ถ้าเราไม่ไต่สวน 6-8 นั้นเพิ่ม พยานหลักฐานก็จะไม่ครบถ้วน แล้วจะไม่สามารถเชื่อมโยงไปได้

“ในเบื้องต้นเราอาจรู้ว่ามีคนอยู่ในเครือข่ายที่ถูกกล่าวหาเพียงแค่นี้ แต่พอไต่สวนแล้วพยานหลักฐานมันเพิ่มมากขึ้น เราก็ต้องไต่สวนเพิ่มเติม ถือเป็นปกติในการดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นทาง ป. วิ อาญา หรือการไต่สวนของ ป.ป.ช. ทั้งนี้ คดีในส่วนนี้เป็นส่วนที่สอง  เพราะคดีจำนำข้าวมีเรื่องที่เกี่ยวกับการขายข้าวกว่า 10 สัญญา มีการดำเนินคดีไปแล้วประมาณกลุ่มหนึ่ง และกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่สองที่ยังไม่มีการดำเนินคดี เพราะเป็นส่วนของตัวสัญญาของการขายข้าว ยืนยันว่าไม่ใช่การรื้อคดีเดิม แต่ ป.ป.ช.ทำตามข้อมูล พยานหลักฐาน และตามที่มีการกล่าวหา เป็นคนละกลุ่มกับกลุ่มแรก เพราะสัญญาการขายข้าวเป็นคนละสัญญากัน และเป็นส่วนสัญญาที่เหลือเยอะ” พล.ต.อ.วัชรพล กล่าว

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีความพยายามเชื่อมโยงว่า ทำไมจึงหยิบคดีจีทูจีขึ้นมาในช่วงที่มีผลได้ผลเสียทางการเมือง พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า “คงห้ามไม่ได้ การที่เราทำอย่างนี้อาจจะถูกมองไปได้ แต่ยืนยันว่า ป.ป.ช.ทำตามหน้าที่และหลักฐาน และถ้าเรื่องช้าไปเราก็ถูกหาว่าดึงเรื่อง เราโดนอยู่ดี ดังนั้น ป.ป.ช.ต้องทำตามพยานหลักฐานและระยะเวลาที่ถูกเร่งรัดมากขึ้น เราอยากจะเร่งทุกวันทุกเรื่อง แต่มีข้อจำกัด เนื่องจากการไต่สวนของ ป.ป.ช.เป็นระบบที่ให้โอกาสคนได้ชี้แจง เป็นระบบไต่สวนที่ให้นำพยานหลักฐานมาชี้แจงได้อย่างเต็มที่ จึงทำให้ดูว่าเราทำงานช้า มีหลายคดีที่เราอยากเร่งให้ทัน อย่างที่ผมเคยบอกไปแล้วคือ คดีสร้างสถานีตำรวจ แต่พอไต่สวนใกล้จะงวด ผู้ถูกกล่าวหาก็ร้องขอความเป็นธรรม ขอมาชี้แจงเพิ่มเติม ป.ป.ช.จึงต้องให้โอกาส เพราะถ้าไม่ให้โอกาสจะกลายเป็นว่าไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ยังหวังว่าคดีดังกล่าวจะเสร็จในปลายปีนี้ ใกล้งวดมากแล้ว เชื่อว่าคดีนี้จะสามารถเข้าสู่การพิจารณาวินิจฉัยได้เป็นล็อตสุดท้ายของปลายปีนี้”

https://www.springnews.co.th/politics/381228


จุ๊ๆ  พูดมากไม่ได้ค่ะ  จะผิดศีลธรรมอันดี.....เซ็งเซ็งเซ็ง


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่