🍀~มาลาริน~คุยได้ค่ะ ผลงานรบ.ลุงตู่ อนุมัติงบ 120 ล้านบ.ผลิต"น้ำมันกัญชา"ครั้งแรก รัฐเดินหน้าลุยวิจัยเป็นยารักษาโรค


บอร์ด อภ.อนุมัติงบ 120 ล้านบาท เดินหน้าปลูก-สกัด "น้ำมันกัญชา" กึ่งอุตสาหกรรมครั้งแรก





บอร์ด อภ.อนุมัติงบประมาณ 120 ล้านบาท สำหรับสกัดและปลูก "กัญชา" ในการผลิตน้ำมันกัญชาระดับกึ่งอุตสาหกรรม คาดเครื่องสกัดนำเข้ามาใน มี.ค. - เม.ย. 62 เริ่มดำเนินการได้ครั้งแรก พ.ค. 

วันนี้ (7 พ.ย.) นพ.โสภณ เมฆธน ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้ อภ.เป็นหน่วยนำร่องในการผลิตสารสกัดจากกัญชาเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ หลังมีการปลดล็อกทางกฎหมาย เพื่อใช้เองไม่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ว่า อภ.มีความพร้อมในองค์ความรู้ โดยได้มีการจัดสัมมนาเพื่อนำความรู้เพื่อนำไปใช้ทางการแพทย์ มีการศึกษาดูงานที่ประเทศแคนาดา และมีการศึกษาวิจัย และได้รับมอบหมายให้วิจัยพัฒนาสายพันธุ์และการปลูกกัญชา ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเตรียมสถานที่ปลูกและขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ส่วนขั้นตอนการสกัดกัญชาเป็นสารสกัดต้นแบบกัญชา และการพัฒนาสูตรตำรับเป็นรูปแบบผลิตภัณฑ์ต่างๆ นั้น ขณะนี้ได้รับกัญชาของกลาง 100 กิโลกรัม เพื่อนำมาสกัดเป็นสารสกัดต้นแบบกัญชาทางการแพทย์

นพ.โสภณ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างส่งกัญชาของกลางให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจการปนเปื้อนโลหะหนัก ยาฆ่าแมลง และยาฆ่าเชื้อรา และอยู่ระหว่างการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ยา ทั้งนี้ คาดว่าจะได้ผลิตภัณฑ์น้ำมันหยดใต้ลิ้นจากสารสกัดกัญชาภายใน ม.ค. 2562 เป็นผลิตภัณฑ์สารสกัดกัญชาขนาด 5 มิลลิลิตร จำนวน 4,000 ขวด และมีแผนจะขอรับของกลางเพิ่มเติม เพื่อนำมาผลิตเพิ่มเติมอีกประมาณเดือนละ 6,000 ขวด ช่วง ก.พ. - เม.ย. 2562 และจะขยายกำลังการผลิตเป็นกึ่งอุตสาหกรรม ใน พ.ค. 2562 โดยจะผลิตได้เดือนละ 60,000 ขวด

"ขณะนี้บอร์ด อภ. ได้อนุมัติงบ 120 ล้านบาท สำหรับการปลูกและการพัฒนาสายพันธุ์เพื่อเป็นวัตถุดิบในการสกัดในระดับกึ่งอุตสาหกรรม ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนปรับปรุงสถานที่ ที่โรงงานสารสกัดที่คลอง 10 จ.ปทุมธานี หลังจากนั้นจะผลิตสารสกัดต้นแบบกัญชาทางการแพทย์เพื่อขึ้นทะเบียนจากกัญชาสายพันธุ์ที่ปลูกเองต่อไป คาดว่าจะปลูกได้เองภายในปลายปี 2562 สำหรับงบประมาณ 120 ล้านบาท จะเป็นเครื่องสกัดเบื้องต้น 8 ล้านบาท จะเข้ามาในไทยประมาณ มี.ค. - เม.ย. 2562 และการปรับปรุงระบบความปลอดภัย การจัดการพื้นที่ปลูก ซึ่งจะทำตรงดาดฟ้าของอาคาร ซึ่งเป็นตึกเคมีภัณฑ์เพื่อผลิตยาน้ำ จึงนำมาใช้สกัดสารจากกัญชาแทน เพราะยาน้ำยังสามารถผลิตที่โรงงานพระรามหกได้" นพ.โสภณ กล่าว

นพ.โสภณ กล่าวว่า คาดว่าในปี 2562 จะมีโรงงานกึ่งอุตสาหกรรมในการผลิตสารสกัดกัญชาและปลูกกัญชาเพื่อทางการแพทย์ครั้งแรก สำหรับการผลิตในระดับอุตสาหกรรมนั้น จะปลูกที่อำเภอหนองใหญ่ จังหวัดชลบุรี ซึ่ง อภ.มีที่ดิน 1,500 ไร่ พร้อมตั้งโรงงานผลิต เป็นคอมเพล็กซ์ พร้อมกับวิจัยสมุนไพรและโรงงานผลิตสมุนไพรอื่น ๆ เช่น สมุนไพร บัวบก ขมิ้นชัน เป็นต้น


https://mgronline.com/qol/detail/9610000111309



รัฐเดินหน้าลุยวิจัย ‘กัญชา’ ผลิตยารักษาโรค 





รัฐเร่งออกมาตรการใช้ประโยชน์ “กัญชา” ทางการแพทย์ภายใน ธ.ค.นี้ เตรียมตั้งกรรมการ 2 ชุด วิจัยระหว่างประเทศ-แก้ไขกม.ที่จำเป็น ย้ำไม่อนุญาตให้เสพสันทนาการ

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้จัดทำเอกสารสรุปแนวคิดและงานวิจัยผลิตกัญชาเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ทั้งของไทยและต่างประเทศ ซึ่งมีทั้งข้อดีข้อเสียเสนอให้นายกรัฐมนตรี จากนั้นจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 2 ชุด เพื่อทำหน้าที่วิจัยและประสานงานระหว่างประเทศ และแก้ไขข้อกฎหมายที่จำเป็นก่อนจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา เช่น การแก้ไขกฎกระทรวงสาธารณสุข, ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข, การออกพระราชกำหนด หรือกฤษฎีกาเพิ่มเติม และต้องเดินหน้าควบคู่ไปกับการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)

พล.อ.อ.ประจิน กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และกระทรวงยุติธรรม เร่งรัดการนำพืชกัญชามาใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ ทั้งนี้ คาดว่ามาตรการระยะสั้นนี้จะออกมาใช้ภายในเดือน ธ.ค. ที่จะถึง ก่อนจะดำเนินการตามแผนระยะกลาง แต่มาตรการสำคัญคือเรื่องการควบคุม ตั้งแต่การเลือกสายพันธ์ การปลูก การสกัด การผสมสูตร จะต้องผ่านมาตรฐานขององค์การอาหารและยา (อย.) และการลดความเสี่ยงผลกระทบที่จะเกิดกับผู้ป่วย

“ขณะนี้มีการสกัดพืชกัญชาแล้ว แต่ยังไม่สมบูรณ์ 100% ต้องดูเรื่องผลสัมฤทธิ์การวิจัยทางคลินิก ตัวยาต้องผ่านการวิจัยกับคนและสัตว์ก่อน และต้องได้รับความร่วมมือกับผู้ประกอบการผลิตด้วย หากเปิดช่องโดยไม่มีผู้ประกอบการ จะเป็นการเปิดโอกาสให้ต่างชาตินำเข้า ดังนั้นต้องให้ผู้ประกอบการของเรามีโอกาสแข่งขันได้” พล.อ.อ.ประจิน กล่าว

ด้าน นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นโดย สธ. พิจารณาตั้งแต่สายพันธุ์กัญชา ที่มีส่วนประกอบปริมาณสาร THC ที่นำมาสกัดเป็นยามีปริมาณแตกต่างกัน ดังนั้นจึงต้องมีการควบคุมพื้นที่ปลูกอย่างเข้มงวดยิ่งกว่าการขออนุญาตปลูกกัญชงเพื่อเป็นพืชเศรษฐกิจ โดยแปลงปลูกกัญชาจะต้องถูกควบคุมให้เป็นโรงเรือนแบบปิด ป้องกันไม่ให้ผลผลิตถูกนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น และต้องควบคุมไม่ให้มีสารเคมี และยาฆ่าแมลงปนเปื้อน

“การสกัดน้ำมันกัญชาต้องมุ่งไปสู่การผลิตยารักษาโรคเท่านั้น ดังนั้นผลผลิตของกัญชาจะออกมาในรูปแบบอื่นไม่ได้เลยนอกจากผลิตเป็นยา และต้องมีการควบคุมยาให้ถึงมือผู้ป่วยโดยไม่หลุดรอดไปยังบุคคลทั่วไป ลักษณะอาจเทียบเคียงได้กับยาที่เป็นวัตถุออกฤทธิ์บางประเภทที่แพทย์สั่งจ่ายให้เฉพาะผู้ป่วย และการซื้อขายโดยไม่มีใบสั่งยาถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย” นายนิยม ระบุ

นายนิยม กล่าวว่า ขณะนี้ ป.ป.ส.ได้รวบรวมผลการศึกษาจากต่างประเทศ พบว่ามีทั้งข้อดีที่เป็นประโยชน์ต่อการรักษาโรคบางชนิด ขณะเดียวกันก็มีผลเสียในเมืองโคโรราโด สหรัฐอเมริกา ซึ่งพบว่า ผู้ใช้กัญชามีความต้องการเสพมากขึ้น มีอุบัติเหตุจากการใช้กัญชา และพบว่ามีกัญชาจากตลาดมืดแทรกเข้ามาปะปนกับกัญชาถูกกฎหมาย ส่งผลให้ตัวยาที่สกัดจากกัญชามีสารเคมีปนเปื้อนเป็นอันตรายกับผู้ป่วย ดังนั้นมุมมองของกัญชาจึงมีทั้งแง่บวกและแง่ลบ

“ไม่มีใครปฎิเสธการนำกัญชามารักษาโรค แต่ข้อห่วงใยที่ผู้ปกครองวิตกว่าหากไม่มีการควบคุมที่ดีจะทำให้เยาวชนหันไปใช้กัญชา จึงอยากให้มั่นใจว่ากฎหมายจะไม่อนุญาตให้เสพเพื่อสันทนาการ บันเทิง หรือคลายเครียดแน่นอน การใช้ประโยชน์จากพืชเสพติดไม่ว่าจะเป็นกัญชาหรือกระท่อมทำได้เฉพาะเพื่อประโยชน์ทางการวิจัยและทางการแพทย์เท่านั้น” นายนิยม กล่าว

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวอีกว่า สำหรับการปลอดล็อคโดยประกาศใช้กัญชา และกระท่อมเป็นพืชเพื่อรักษาโรค ขณะนี้ สธ.อยู่ระหว่างการพิจารณา ทั้งพื้นที่ปลูก การแก้กฎหมาย และการควบคุมเพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงยา เป็นความรับผิดชอบของ สธ. ส่วน อย.จะเข้ามาควบคุมทุกขั้นตอนการผลิตเพื่อให้ตัวยาที่ผลิตได้มีคุณสมบัติและมาตรฐานใช้ในการรักษาโรคได้จริง



https://greennews.agency/?p=18113




ลักษณะของกัญชาต้นกัญชา จัดเป็นพรรณไม้ล้มลุกฤดูเดียว มีความสูงได้ประมาณ 1-3 เมตร ลำต้นมีขนาดเล็ก ตั้งตรง ลักษณะของลำต้นเป็นเหลี่ยม มีขนสีเขียวอมเทาและไม่ค่อยแตกสาขา ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด ขึ้นได้ในดินทุกชนิด ถ้าปลูกในดินร่วนซุยและมีอาหารอุดมสมบูรณ์จะงอกงามดีมาก พืชชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชีย มีเขตการกระจายพันธุ์ในอัฟกานิสถาน ทวีปแอฟริกาเขตร้อน ทวีปยุโรป ทวีปอเมริกาเหนือและใต้ และฮาวาย พบปลูกมากในยุโรป ประเทศบราซิล อเมริกันแถบตะวันออก และปลูกมากตามแนวเขาทางภาคเหนือของประเทศไทย




ใบกัญชา ใบเป็นใบเดี่ยว รูปฝ่ามือ ออกเรียงตรงข้าม ลักษณะของใบแตกออกเป็นแฉก ๆ ประมาณ 5-8 แฉก แต่ละแฉกเป็นรูปยาวรี ปลายและโคนสอบ ส่วนขอบใบทุกแฉกเป็นหยักแบบฟันเลื่อย มีขนาดกว้างประมาณ 0.3-1.5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 6-10 เซนติเมตร ลักษณะของใบโดยรวมจะคล้าย ๆ กับใบละหุ่ง ใบฝิ่นต้น และใบมันสำปะหลัง ผิวใบด้านบนเป็นสีเขียวเข้ม ส่วนด้านล่างท้องใบมีสีเทาอ่อนเล็กน้อย มีขนต่อมกระจายทั่วผิวใบด้านบน ส่วนด้านล่างมีขนอ่อนนาบไปกับแผ่นใบ ก้านใบยาวประมาณ 4-15 เซนติเมตร ในก้านหนึ่งจะมีใบเดี่ยว 3-11 ใบ มีกลิ่นเหม็นเขียว[1],[2],[3],[4]






ดอกกัญชา ออกดอกเป็นช่อที่ง่ามใบหรือปลายกิ่ง ดอกเป็นสีเหลืองหรือสีเขียว ดอกเป็นแบบแยกเพศ มีทั้งดอกช่อเพศผู้และดอกช่อเพศเมีย ดอกเพศผู้และดอกเพศเมียจะแยกกันอยู่คนละต้น โดยช่อดอกและใบของต้นเพศผู้จะจัดเรียงตัวกันแบบห่าง ๆ (ภาพแรก) ซึ่งต่างจากต้นเพศเมียที่จะเรียงชิดกัน ดอกเล็ก และดอกเพศเมียจะมีกลีบเลี้ยงหุ้มอยู่(ภาพสอง)




ผลกัญชา ผลแห้งขนาดเล็ก เมล็ดล่อน ไม่แตก ลักษณะของผลเป็นรูปไข่กว้าง ผิวผลเรียบเป็นมัน สีน้ำตาลแกมเทาหรือสีเทาเข้ม มีใบประดับหุ้ม ในผลจะมีเมล็ดขนาดเล็ก เมล็ดมีลักษณะกลม



หมายเหตุ : กัญชง และ กัญชา เป็นพืชคนละชนิด แต่มีต้นกำเนิดมาจากพืชชนิดเดียวกัน โดยต้นกัญชา (Marijuana) จะมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Cannabis sativa L. Subsp. indica (Lam.) E. Small & Cronquist ส่วนต้นกัญชง (Hemp) จะมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cannnabis sativa L. Subsp. sativa ซึ่งลักษณะภายนอกของพืชทั้งสองชนิดนี้จะมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยจนยากแก่การจำแนก

https://medthai.com/กัญชา/



เรื่องดีๆที่ต้องนำมาบอกค่ะ....
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่