ก่อนอื่นขอ ออกตัวก่อนนะคะ ว่าเราไม่ได้อ้วนมากถึงขนาด ร้อยโล หนักสุด 60 แต่ตลอดชีวิตเราใช้วิธีการลดน้ำหนักที่ผิดมาตลอดค่ะ โดยการอดอาหาร กับกินยาถ่ายทุกวัน วันละเกือบจะ 10 เม็ด (สิ่งนี้ทำให้ปีที่แล้วเราต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการผ่าตัด แต่ขอไม่พูดถึงรายละเอียดนะคะ) น้ำหนักตัวเราสวิงมาก อ้วนๆ ผอมๆ จนร่างกายแผละเนื้อเหลว หน้าตาไม่สดใส หมองๆ โทรมๆ
ปล. กระทู้นี้อาจจะยาวเพราะอยากบอกอย่างละเอียด และมีรูป เซ็กซี่นะคะ ใครไม่ชอบกดผ่านได้ค่ะ ด่าได้แต่อย่าแรงนะคะ ถึงแก่แล้วแต่เค๊า ก็อ่อนไหวน๊า
** ใครไม่อยากอ่าน อารัมภบท อยากดูวิธีการ ควบคุมอาหาร และออกกำลังกายของเราข้ามไปดูที่ ความคิดเห็นที่ 1 ได้เลยจ้า
สวัสดีค่ะ แนะนำตัวก่อนนิดนึง ชื่อ ไปร์ทนะคะ อายุ เดือนนี้ 36 แล้วเลยคิดว่า เดือนเกิดอยากจะมาแชร์อะไรเผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นบ้างไม่มากก็น้อยค่ะ แค่คนคนนึง เห็นว่าเป็นประโยชน์เราก็ดีใจมากๆ แล้วค่ะ
ดูความเปลี่ยนแปลงก่อนนะคะ ตั้งแต่ Week 0 ที่เริ่ม start ไปร์ทหนัก 55 kg. ถึง Week ที่ 11หนัก 48 kg.
เป้าหมายของหลายๆคนอาจจะเป็นการลดน้ำหนัก แต่เป้าหมายของเราคือการเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ ให้มาเป็น Healthy lifestyle อาจมีหลายๆคนสงสัย ทำไมถึงอยากเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ เรามาดูกันว่า ไลฟ์สไตล์ก่อนมาเป็น สาย Healthy lifestyle ของไปร์ทเป็นยังไงค่ะ
1. ตอนเช้าไม่อยากตื่นไปทำงาน ตื่น 8 โมงเช้า เข้างาน 9 โมง ทุกๆเช้า ตื่นมาจะรู้สึกว่า ลางานดีไหมไม่อยากไปทำงาน
2. ตอนเย็นถึงบ้าน สองทุ่มครึ่งทุกวัน นั่งเล่นเนต จน เที่ยงคืน แล้วนอน วนเวียนไปแบบนี้ทุกวัน
3. ทานแต่อาหารที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ ไม่ค่อยกินข้าว กินแต่ขนมถุง หนังไก่ทอดนี่ของชอบ กินน้ำหวาน กาแฟ วันละ 2-3 แก้วต่อวัน ไม่ค่อยดื่มน้ำ เปล่า ผักผลไม้ไม่ต้องพูดถึง กินน้อยมาก
4. นั่งทำงานทั้งวัน ลุกเดินแค่ไปห้องน้ำ กับไปกินข้าวกลางวัน
5. ออกกำลังกายหรอ ??? บ้าหรออออ !!! จะเอาเวลาที่ไหน กลับบ้านเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว
6. นอนเที่ยงคืน ถึงตีหนึ่ง
7. พอน้ำหนักขึ้น สามารถ อดข้าวได้เป็นสัปดาห์ๆ กินแต่น้ำ เพื่อลดน้ำหนัก รวมทั้งกินยาถ่ายทุกวันวันละ 10 เม็ด
แล้วชีวิตก็วนเวียนอยุ่แบบนี้ จนอายุล่วงเลยมาถึง 36 ปี รู้สึกไม่ค่อยมีแรง หน้าโทรมๆ ไม่มีชีวิตชีวา ไม่สดใส สภาพร่าง ณ ช่วงเวลาที่ใช้ชีวิต แบบนี้
แผละ โดยการอดอาหาร ไม่ออกกำลังกาย น้ำหนักขึ้นๆ ลงๆ อ้วนๆ ผอมๆ แต่หน้าท้องบวมตลอด
เปลี่ยน – (Your life does not get better by CHANCE, It gets better by CHANGE)
จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง อย่างที่บอกเลยค่ะ แต่ก่อน ถ้าน้ำหนักเราขึ้น เราจะอดข้าว สามารถ อดได้ต่อเนื่องกัน เป็นสัปดาห์ๆ กินแต่น้ำ ตอนเด็กๆ ยังไม่ 30 มันก็ลดนะคะ อดวันนึง ลด 2 โล พอ 30+ เท่านั้นแหละค่ะท่านผู้ชมมม อดข้าว 2 สัปดาห์ มานลด 1 โล และตรงนี้แหละค่ะทำให้เราเริ่มรู้สึกว่า เราน่าจะมาผิดทาง นี่เราอดข้าว ถึง 2 สัปดาห์ มันต้องลดอย่างน้อย 3-5 โล ก็ยังดี นี่ลด 1 โล มันต้องผิดทางแน่ๆ (เพิ่งมารู้ตอนหลัง ว่านี่คือร่างกายเข้าสู่ระบบเผาผลาญพัง) รวมถึงปีที่แล้ว ไปร์ทต้องเข้าโรงพยาบาล เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ต้องนอนโรงพยาบาล เราเริ่มคิดว่าเราควรใส่ใจสุขภาพให้มากกว่านี้ เราเริ่มหาข้อมูลใน พันทิป, Google ว่ามันมีไหมวิธีที่ลดความอ้วนอย่างยั่งยืน มีความสุข สุขภาพดี เจอแต่กระทู้กินคลีน กับออกกำลังกาย ตอนนั้นก็ยังคิดนะคะว่า ไม่มันต้องมีวิธีอื่นสิ คิดว่าเราทำไม่ได้หรอกไม่มีเวลา กินคลีนมันไม่อร่อย แพง มันน่าเบื่อ ทั้งที่ไม่เคยกิน ฮ่าๆ ทำไม่ได้ๆๆ บลาๆๆๆ สารพัดข้ออ้าง
Fit Formula = Eat well 80% + Exercise 20%
จนเราไปเจอ คลิป youtube ของนางแบบ Victoria Secrets ดูการใช้ชีวิตของนาง มามองดูชีวิตเรา เราเริ่มมีคำถามกับตัวเอง เราอยากเป็นคนที่เราเป็นตอนนี้ จริงๆ หรอ เรารักตัวเองจริงๆ รึเปล่า ?? เราเกิดมาเพื่อ นั่งๆนอนๆ ทำงานซังกะตาย แล้วป่วยตายจากโลกนี้ไป คือชีวิตมันต้องเป็นอย่างนี้หรอ แล้วคนรอบข้างเราส่วนใหญ่ก็ใช้ชีวิตแบบนี้แทบจะ 80% ?? จบคำถาม เราบอกตัวเองเลยค่ะเราต้องเปลี่ยน และเราก็เริ่มทำในวันถัดมาเลยค่ะ เราไม่รู้หรอกนะว่าเราจะทำได้ไหม แต่เราไม่อยากมีชีวิตอย่างที่ผ่านมา เราอยากลองรักร่างของเราสักครั้ง สัปดาห์ แรกๆ ยากเหมือนกัน เพราะเหมือนเป็นสิ่งที่ เราไม่เคยทำมาก่อน แต่พอผ่าน 2 สัปดาห์ไปแล้วร่างกายเริ่มชิม เริ่มรู้สึกว่านี่คือสิ่งที่เราต้องทำ ไม่ต้องฝืนแล้วค่ะ สิ่งแรกที่ทำคือ
1. จากตื่น 8 โมงเช้า เป็น ตื่น 6 โมงเช้า หลังจากตื่นจะดื่มน้ำ 1 แก้ว ใหญ่ แล้วออกกำลังกาย ประมาณ 15 นาที โดยเล่น ab หน้าท้องเป็นหลัก จากนั้นจะทำอาหาร เช้า และอาหารกลางวันเพื่อ เตรียมไปกิน ที่ออฟฟิต แล้วค่อยอาบน้ำแต่งหน้า แต่งตัว แล้วไปทำงานค่ะ
2. ตอนเย็น กลับมาถึงบ้านสองทุ่มครึ่ง ออกกำลังกายก่อนเลยค่ะ 30-45 นาที (เน้นขา/แขน) หลังจากออกกำลังกายเสร็จก็มาหันผัก หันไก่ เตรียมของไว้สำหรับทำอาหาร พรุ่งนี้
3. เข้านอน ห้าทุ่มถึงเที่ยงคืน จริงๆ พยายามนอน ก่อน ห้าทุ่ม แต่ข้อนี้ทำยากจริงๆ ค่ะ ถ้าทำได้จะดีมาก เพราะการนอนพักผ่อนสำคัญยิ่งกว่าการกินและการออกกำลังกายอีกค่ะ
แล้วชีวิตก็วนเวียน ลูปนี้ มา ได้ 3 เดือนแล้วค่ะ จะบอกว่าเดี๊ยวนี้เราไม่รู้สึกไม่อยากตื่นนอนมาทำงานแล้วค่ะ เพราะตอนนี้ชีวิตเรามีอย่างอื่นให้โฟกัส ไม่ใช่แค่เรื่องงานอย่างเดียว ทุกครั้งที่ตื่น เราจะคิดถึงการออกกำลังกาย กับการทำอาหาร เลยทำให้เราอยากตื่น มาออกกำลังกาย มาทำอาหารทุกวันเลย เราชอบมาออฟฟิต เพราะไม่เปลืองน้ำที่บ้านเรา ฮ่าๆ แบบดื่มน้ำเยอะมากเราเพิ่งรู้ว่าเรารักการทำอาหาร เรามีความสุขกับการ นั่งคิดว่า วันพรุ่งนี้เราจะทำอะไรกินดี มีความสุขกับการดูหุ่นตัวเองที่เปลี่ยนไปในแต่ละสัปดาห์ เราเริ่มรู้จักคำว่ารักตัวเองจริงๆ ก็ตอนนี้
Insanity doing the same thing over and over again and expecting DIFFERENT results
เมื่อชะนีออฟฟิต สุดขี้เกียจ!! อยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง ปั้นหุ่นแซ่บ สไตล์สาวออฟฟิต อายุ 36 (18+) No Gym / NO Trainer
ปล. กระทู้นี้อาจจะยาวเพราะอยากบอกอย่างละเอียด และมีรูป เซ็กซี่นะคะ ใครไม่ชอบกดผ่านได้ค่ะ ด่าได้แต่อย่าแรงนะคะ ถึงแก่แล้วแต่เค๊า ก็อ่อนไหวน๊า
** ใครไม่อยากอ่าน อารัมภบท อยากดูวิธีการ ควบคุมอาหาร และออกกำลังกายของเราข้ามไปดูที่ ความคิดเห็นที่ 1 ได้เลยจ้า
สวัสดีค่ะ แนะนำตัวก่อนนิดนึง ชื่อ ไปร์ทนะคะ อายุ เดือนนี้ 36 แล้วเลยคิดว่า เดือนเกิดอยากจะมาแชร์อะไรเผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นบ้างไม่มากก็น้อยค่ะ แค่คนคนนึง เห็นว่าเป็นประโยชน์เราก็ดีใจมากๆ แล้วค่ะ
ดูความเปลี่ยนแปลงก่อนนะคะ ตั้งแต่ Week 0 ที่เริ่ม start ไปร์ทหนัก 55 kg. ถึง Week ที่ 11หนัก 48 kg.
เป้าหมายของหลายๆคนอาจจะเป็นการลดน้ำหนัก แต่เป้าหมายของเราคือการเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ ให้มาเป็น Healthy lifestyle อาจมีหลายๆคนสงสัย ทำไมถึงอยากเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ เรามาดูกันว่า ไลฟ์สไตล์ก่อนมาเป็น สาย Healthy lifestyle ของไปร์ทเป็นยังไงค่ะ
1. ตอนเช้าไม่อยากตื่นไปทำงาน ตื่น 8 โมงเช้า เข้างาน 9 โมง ทุกๆเช้า ตื่นมาจะรู้สึกว่า ลางานดีไหมไม่อยากไปทำงาน
2. ตอนเย็นถึงบ้าน สองทุ่มครึ่งทุกวัน นั่งเล่นเนต จน เที่ยงคืน แล้วนอน วนเวียนไปแบบนี้ทุกวัน
3. ทานแต่อาหารที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ ไม่ค่อยกินข้าว กินแต่ขนมถุง หนังไก่ทอดนี่ของชอบ กินน้ำหวาน กาแฟ วันละ 2-3 แก้วต่อวัน ไม่ค่อยดื่มน้ำ เปล่า ผักผลไม้ไม่ต้องพูดถึง กินน้อยมาก
4. นั่งทำงานทั้งวัน ลุกเดินแค่ไปห้องน้ำ กับไปกินข้าวกลางวัน
5. ออกกำลังกายหรอ ??? บ้าหรออออ !!! จะเอาเวลาที่ไหน กลับบ้านเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว
6. นอนเที่ยงคืน ถึงตีหนึ่ง
7. พอน้ำหนักขึ้น สามารถ อดข้าวได้เป็นสัปดาห์ๆ กินแต่น้ำ เพื่อลดน้ำหนัก รวมทั้งกินยาถ่ายทุกวันวันละ 10 เม็ด
แล้วชีวิตก็วนเวียนอยุ่แบบนี้ จนอายุล่วงเลยมาถึง 36 ปี รู้สึกไม่ค่อยมีแรง หน้าโทรมๆ ไม่มีชีวิตชีวา ไม่สดใส สภาพร่าง ณ ช่วงเวลาที่ใช้ชีวิต แบบนี้
จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง อย่างที่บอกเลยค่ะ แต่ก่อน ถ้าน้ำหนักเราขึ้น เราจะอดข้าว สามารถ อดได้ต่อเนื่องกัน เป็นสัปดาห์ๆ กินแต่น้ำ ตอนเด็กๆ ยังไม่ 30 มันก็ลดนะคะ อดวันนึง ลด 2 โล พอ 30+ เท่านั้นแหละค่ะท่านผู้ชมมม อดข้าว 2 สัปดาห์ มานลด 1 โล และตรงนี้แหละค่ะทำให้เราเริ่มรู้สึกว่า เราน่าจะมาผิดทาง นี่เราอดข้าว ถึง 2 สัปดาห์ มันต้องลดอย่างน้อย 3-5 โล ก็ยังดี นี่ลด 1 โล มันต้องผิดทางแน่ๆ (เพิ่งมารู้ตอนหลัง ว่านี่คือร่างกายเข้าสู่ระบบเผาผลาญพัง) รวมถึงปีที่แล้ว ไปร์ทต้องเข้าโรงพยาบาล เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ต้องนอนโรงพยาบาล เราเริ่มคิดว่าเราควรใส่ใจสุขภาพให้มากกว่านี้ เราเริ่มหาข้อมูลใน พันทิป, Google ว่ามันมีไหมวิธีที่ลดความอ้วนอย่างยั่งยืน มีความสุข สุขภาพดี เจอแต่กระทู้กินคลีน กับออกกำลังกาย ตอนนั้นก็ยังคิดนะคะว่า ไม่มันต้องมีวิธีอื่นสิ คิดว่าเราทำไม่ได้หรอกไม่มีเวลา กินคลีนมันไม่อร่อย แพง มันน่าเบื่อ ทั้งที่ไม่เคยกิน ฮ่าๆ ทำไม่ได้ๆๆ บลาๆๆๆ สารพัดข้ออ้าง
จนเราไปเจอ คลิป youtube ของนางแบบ Victoria Secrets ดูการใช้ชีวิตของนาง มามองดูชีวิตเรา เราเริ่มมีคำถามกับตัวเอง เราอยากเป็นคนที่เราเป็นตอนนี้ จริงๆ หรอ เรารักตัวเองจริงๆ รึเปล่า ?? เราเกิดมาเพื่อ นั่งๆนอนๆ ทำงานซังกะตาย แล้วป่วยตายจากโลกนี้ไป คือชีวิตมันต้องเป็นอย่างนี้หรอ แล้วคนรอบข้างเราส่วนใหญ่ก็ใช้ชีวิตแบบนี้แทบจะ 80% ?? จบคำถาม เราบอกตัวเองเลยค่ะเราต้องเปลี่ยน และเราก็เริ่มทำในวันถัดมาเลยค่ะ เราไม่รู้หรอกนะว่าเราจะทำได้ไหม แต่เราไม่อยากมีชีวิตอย่างที่ผ่านมา เราอยากลองรักร่างของเราสักครั้ง สัปดาห์ แรกๆ ยากเหมือนกัน เพราะเหมือนเป็นสิ่งที่ เราไม่เคยทำมาก่อน แต่พอผ่าน 2 สัปดาห์ไปแล้วร่างกายเริ่มชิม เริ่มรู้สึกว่านี่คือสิ่งที่เราต้องทำ ไม่ต้องฝืนแล้วค่ะ สิ่งแรกที่ทำคือ
1. จากตื่น 8 โมงเช้า เป็น ตื่น 6 โมงเช้า หลังจากตื่นจะดื่มน้ำ 1 แก้ว ใหญ่ แล้วออกกำลังกาย ประมาณ 15 นาที โดยเล่น ab หน้าท้องเป็นหลัก จากนั้นจะทำอาหาร เช้า และอาหารกลางวันเพื่อ เตรียมไปกิน ที่ออฟฟิต แล้วค่อยอาบน้ำแต่งหน้า แต่งตัว แล้วไปทำงานค่ะ
2. ตอนเย็น กลับมาถึงบ้านสองทุ่มครึ่ง ออกกำลังกายก่อนเลยค่ะ 30-45 นาที (เน้นขา/แขน) หลังจากออกกำลังกายเสร็จก็มาหันผัก หันไก่ เตรียมของไว้สำหรับทำอาหาร พรุ่งนี้
3. เข้านอน ห้าทุ่มถึงเที่ยงคืน จริงๆ พยายามนอน ก่อน ห้าทุ่ม แต่ข้อนี้ทำยากจริงๆ ค่ะ ถ้าทำได้จะดีมาก เพราะการนอนพักผ่อนสำคัญยิ่งกว่าการกินและการออกกำลังกายอีกค่ะ
แล้วชีวิตก็วนเวียน ลูปนี้ มา ได้ 3 เดือนแล้วค่ะ จะบอกว่าเดี๊ยวนี้เราไม่รู้สึกไม่อยากตื่นนอนมาทำงานแล้วค่ะ เพราะตอนนี้ชีวิตเรามีอย่างอื่นให้โฟกัส ไม่ใช่แค่เรื่องงานอย่างเดียว ทุกครั้งที่ตื่น เราจะคิดถึงการออกกำลังกาย กับการทำอาหาร เลยทำให้เราอยากตื่น มาออกกำลังกาย มาทำอาหารทุกวันเลย เราชอบมาออฟฟิต เพราะไม่เปลืองน้ำที่บ้านเรา ฮ่าๆ แบบดื่มน้ำเยอะมากเราเพิ่งรู้ว่าเรารักการทำอาหาร เรามีความสุขกับการ นั่งคิดว่า วันพรุ่งนี้เราจะทำอะไรกินดี มีความสุขกับการดูหุ่นตัวเองที่เปลี่ยนไปในแต่ละสัปดาห์ เราเริ่มรู้จักคำว่ารักตัวเองจริงๆ ก็ตอนนี้