ผมจำหนังเรื่องนี้ได้แม่นเลยครับ จำไม่มีวันลืมเลย เพราะมันเหมือนผมมานั่งดูสารคดีเล่าเรื่องราวของชีวิตผมเลย แต่จะเหมือนขนาดไหนเดี๋ยวผมเล่าให้ฟังครับแต่ตอนนี้มาพูดถึงตัวหนังกันก่อน
เรื่องย่อ
จอห์น (แชนนิ่ง เททั่ม) ตกหลุมรัก ซาวันนาห์ (อแมนด้า ไซเฟร็ด) ตั้งแต่แรกเห็น ทั้งคู่สัญญาว่าจะแต่งงานกันเมื่อจอห์น ปลดประจำการจากหน้าที่ทหาร และ สิ่งเดียวที่ผูกพันคนทั้งคู่ไว้ ตลอด 3 ปีของคำสัญญา คือ จดหมาย ที่พวกเขาสัญญาว่า จะเขียนหากันในทุก ๆ วัน ทุก ๆ สัปดาห์ ... เพื่อให้ได้รู้ว่าหัวใจของคนทั้งคู่ยังคงอยู่ๆ ใกล้ ๆ กันเสมอ …
ผมได้มีโอกาศดูตอนผมคบกับแฟนใหม่ของผมครับ ตอนนั้นไม่มีอะไรทำก็เลยลองหาหนังหนุกๆ ดู ผมกับแฟนชอบดูหนังอยู่สองแนวครับ ไม่หนังผี ก็หนังรัก ซึ่งเราก็เลือกอันหลัง(ตั้งใจ?) ผมชอบดูหนังที่สร้างมาจากนิยายของ Nicolas Sparks นะครับ ไม่ว่าจะเป็น The Notebook, A Walk to Remember หรือแม้กระทั่งหนังนักวิจารณ์ไม่ชอบอย่าง The Last Song ผมดูผมยังร้องไห้เลยครับ
ส่วนเรื่องนี้ ก็ต้องบอกเลยครับว่าชอบมาก เป็นหนังโรแมนติกที่กลมกล่อม โรแมนซ์ก็เข้าท่า ดราม่าก็เล่นเอาน้ำตาซึมกันไปข้างเลย ผมดูกับแฟนยังร้องกันทั้งคู่เลยครับ555 หนังไม่ได้พีคเท่า The Notebook แต่ก็ทำได้ดีตามหนังรักเล็กๆ ไม่ได้หวือหวา แต่ก็ไม่ได้มีช่วงไหนที่รู้สึกว่าเนือยจนควรตัดออกไป ผมชอบตรงเรื่องราวมันดูมีสเต็ปครับ สเต็ปแรกคือการเจอกันครั้งแรกของจอห์นกับซาวาน่าห์ที่ค่อนข้างไม่มีอะไรแปลกใหม่ สเต็ปที่สองก็คือจุดเริ่มความสัมพันธ์ของสองคนนี้ ซึ่งบอกเลยครับว่าฉากจูปกันกลางสายฝนนี่ฟินนมาก (แม้จะไม่ขลังเท่า Notebook ก็เหอะ) สเต็ปที่สามก็คือการแยกจากกัน ก็คือตอนที่จอห์นต้องออกไปรับใช้ชาติ ช่วงนี้ดูคล้ายวรรณกรรมของบ้านเรามากครับ นั่นก็คือคู่กรรมที่เล่าเรื่องความสัมพันธ์ของคนสองคนท่ามกลางสงครามและดงระเบิด แต่ Dear John จะแปลกตรงที่จอห์นกับซาวาน่าห์อยู่คนละที่กัน และก็จุดเปลี่ยนผันความสัมพันธ์ของสองคนนี้ที่ทำเอาน้ำตาตกในกันเลยทีเดียว และก็บทสรุปที่ถึงแม้จะไม่ได้จบแบบที่ผมคาดไว้ แต่ผมกับแฟนก็มีอาการยิ้มไปตามๆ กันครับ
Tatum กับ Seyfreid คุมหนังอยู่ครับ ดูแล้วเชื่อว่าสองคนนี้รักกันจริงๆ Tatum นี่ก็ดูหล่อในบททหารผ่านศึกที่เก็บงำอารมณ์ไว้ตลอดเวลา ส่วน Seyfreid ก็โอเคกับบทสาวใสๆ ครับ เธอเล่นดี และช่วงท้ายที่นั่งคุยกับจอห์นในบ้านก็เล่นผมอึ้งไปหลายดอกเหมือนกัน ส่วนทางด้านงานภาพ หนังที่สร้างจากนิยายของ Sparks นี่หายห่วงเรื่องสถานที่ครับ แต่ละเรื่องวิวนี่สวยไม่ใช่เล่น เรื่องนี้ผมว่าเข้าขั้นยอดเยี่ยมนะในด้านงานภาพ ถ่ายช็อตชายหาดได้สวยกำลังดี
ส่วนที่บอกว่าเหมือนดูสารคดีที่เล่าเรื่องชีวิตผม มันเป็นแบบนี้ครับ
ผมได้ทำความรู้จักกับเพื่อนคนนึงที่เมกาครับ ซึ่งก็เป็นที่น่ารักอยู่พอควร ผมกับ"เขา" เราสนิทกันมากครับ มีคนจิ้นเราสองคนบ่อย จนในที่สุด"เขา"ขอผมเป็นแฟน แล้วผมก็กลับมาไทยแต่ก็ยังไปเที่ยวที่เมกาบ้างเป็นครั้งคราว แต่พอผมห่างหายจากเขาไปนานเขาก็มีคนใหม่ครับ ทีแรกผมก็ทำเหมือนจอห์นเนี่ยแหละ เผาจดหายที่ส่งให้ซาวาน่าห์หมดเกลี้ยง แต่ของผมคือลบรูปคู่ของผมกับ"เขา"เกลี้ยงหมดครับ แต่พอถึงเวลาที่ผมได้กลับไปเจอเขา เราก็ปรับความเข้าใจกันได้ แต่เราก็ไม่ได้กลับมาเป็นแฟนกันอยู่ดี เหมือนกับจอห์นปรับความเข้าใจกับซาวาน่าห์แหละครับ ถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้เป็นคู่ครองกัน แต่ก็ยังเป็นคนรู้จักกันอยู่ดี
สรุป
ผมว่าควรจะหามาดูนะ มันไม่ได้เพอร์เฟคไปซะทุกด้านหรอก แต่มันก็เป็นหนังรักอีกเรื่องที่อย่างน้อยผมว่าคุณดูแล้วก็ต้องมีความสุขกับมันแน่นอน
คะแนนเฉลี่ยรวม : 7/10
เรตหนัง : หนังดีที่ควรดู
[CR] ##REVIEW## Dear John (2010) รักจากใจจร | ประสบการณ์รักในหนังที่ไม่มีวันลืม [ไร้ส้มป่อย]
จอห์น (แชนนิ่ง เททั่ม) ตกหลุมรัก ซาวันนาห์ (อแมนด้า ไซเฟร็ด) ตั้งแต่แรกเห็น ทั้งคู่สัญญาว่าจะแต่งงานกันเมื่อจอห์น ปลดประจำการจากหน้าที่ทหาร และ สิ่งเดียวที่ผูกพันคนทั้งคู่ไว้ ตลอด 3 ปีของคำสัญญา คือ จดหมาย ที่พวกเขาสัญญาว่า จะเขียนหากันในทุก ๆ วัน ทุก ๆ สัปดาห์ ... เพื่อให้ได้รู้ว่าหัวใจของคนทั้งคู่ยังคงอยู่ๆ ใกล้ ๆ กันเสมอ …
ผมได้มีโอกาศดูตอนผมคบกับแฟนใหม่ของผมครับ ตอนนั้นไม่มีอะไรทำก็เลยลองหาหนังหนุกๆ ดู ผมกับแฟนชอบดูหนังอยู่สองแนวครับ ไม่หนังผี ก็หนังรัก ซึ่งเราก็เลือกอันหลัง(ตั้งใจ?) ผมชอบดูหนังที่สร้างมาจากนิยายของ Nicolas Sparks นะครับ ไม่ว่าจะเป็น The Notebook, A Walk to Remember หรือแม้กระทั่งหนังนักวิจารณ์ไม่ชอบอย่าง The Last Song ผมดูผมยังร้องไห้เลยครับ
ส่วนเรื่องนี้ ก็ต้องบอกเลยครับว่าชอบมาก เป็นหนังโรแมนติกที่กลมกล่อม โรแมนซ์ก็เข้าท่า ดราม่าก็เล่นเอาน้ำตาซึมกันไปข้างเลย ผมดูกับแฟนยังร้องกันทั้งคู่เลยครับ555 หนังไม่ได้พีคเท่า The Notebook แต่ก็ทำได้ดีตามหนังรักเล็กๆ ไม่ได้หวือหวา แต่ก็ไม่ได้มีช่วงไหนที่รู้สึกว่าเนือยจนควรตัดออกไป ผมชอบตรงเรื่องราวมันดูมีสเต็ปครับ สเต็ปแรกคือการเจอกันครั้งแรกของจอห์นกับซาวาน่าห์ที่ค่อนข้างไม่มีอะไรแปลกใหม่ สเต็ปที่สองก็คือจุดเริ่มความสัมพันธ์ของสองคนนี้ ซึ่งบอกเลยครับว่าฉากจูปกันกลางสายฝนนี่ฟินนมาก (แม้จะไม่ขลังเท่า Notebook ก็เหอะ) สเต็ปที่สามก็คือการแยกจากกัน ก็คือตอนที่จอห์นต้องออกไปรับใช้ชาติ ช่วงนี้ดูคล้ายวรรณกรรมของบ้านเรามากครับ นั่นก็คือคู่กรรมที่เล่าเรื่องความสัมพันธ์ของคนสองคนท่ามกลางสงครามและดงระเบิด แต่ Dear John จะแปลกตรงที่จอห์นกับซาวาน่าห์อยู่คนละที่กัน และก็จุดเปลี่ยนผันความสัมพันธ์ของสองคนนี้ที่ทำเอาน้ำตาตกในกันเลยทีเดียว และก็บทสรุปที่ถึงแม้จะไม่ได้จบแบบที่ผมคาดไว้ แต่ผมกับแฟนก็มีอาการยิ้มไปตามๆ กันครับ
Tatum กับ Seyfreid คุมหนังอยู่ครับ ดูแล้วเชื่อว่าสองคนนี้รักกันจริงๆ Tatum นี่ก็ดูหล่อในบททหารผ่านศึกที่เก็บงำอารมณ์ไว้ตลอดเวลา ส่วน Seyfreid ก็โอเคกับบทสาวใสๆ ครับ เธอเล่นดี และช่วงท้ายที่นั่งคุยกับจอห์นในบ้านก็เล่นผมอึ้งไปหลายดอกเหมือนกัน ส่วนทางด้านงานภาพ หนังที่สร้างจากนิยายของ Sparks นี่หายห่วงเรื่องสถานที่ครับ แต่ละเรื่องวิวนี่สวยไม่ใช่เล่น เรื่องนี้ผมว่าเข้าขั้นยอดเยี่ยมนะในด้านงานภาพ ถ่ายช็อตชายหาดได้สวยกำลังดี
ส่วนที่บอกว่าเหมือนดูสารคดีที่เล่าเรื่องชีวิตผม มันเป็นแบบนี้ครับ
ผมได้ทำความรู้จักกับเพื่อนคนนึงที่เมกาครับ ซึ่งก็เป็นที่น่ารักอยู่พอควร ผมกับ"เขา" เราสนิทกันมากครับ มีคนจิ้นเราสองคนบ่อย จนในที่สุด"เขา"ขอผมเป็นแฟน แล้วผมก็กลับมาไทยแต่ก็ยังไปเที่ยวที่เมกาบ้างเป็นครั้งคราว แต่พอผมห่างหายจากเขาไปนานเขาก็มีคนใหม่ครับ ทีแรกผมก็ทำเหมือนจอห์นเนี่ยแหละ เผาจดหายที่ส่งให้ซาวาน่าห์หมดเกลี้ยง แต่ของผมคือลบรูปคู่ของผมกับ"เขา"เกลี้ยงหมดครับ แต่พอถึงเวลาที่ผมได้กลับไปเจอเขา เราก็ปรับความเข้าใจกันได้ แต่เราก็ไม่ได้กลับมาเป็นแฟนกันอยู่ดี เหมือนกับจอห์นปรับความเข้าใจกับซาวาน่าห์แหละครับ ถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้เป็นคู่ครองกัน แต่ก็ยังเป็นคนรู้จักกันอยู่ดี
ผมว่าควรจะหามาดูนะ มันไม่ได้เพอร์เฟคไปซะทุกด้านหรอก แต่มันก็เป็นหนังรักอีกเรื่องที่อย่างน้อยผมว่าคุณดูแล้วก็ต้องมีความสุขกับมันแน่นอน
เรตหนัง : หนังดีที่ควรดู
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม