CLOSE รักแรก วันนั้น
“Close”
หนังสัญชาติเบลเยียมโดยผู้กำกับ “ลูกัส ดงต์” (Girl, 2018) ที่ได้รับเสียงปรบมือให้เกียรติยาวนานถึง 10 นาทีในรอบปฐมทัศน์ หนังที่ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไม่มีใครสามารถกลั้นน้ำตาได้อยู่เลยจริงๆ”
“Close” คว้ารางวัล “หนังรองชนะเลิศ” ปาล์มทองคำ จากเทศกาลหนังเมืองคานส์ ปีที่แล้ว ไปครองอย่างสมศักดิ์ศรี เป็นหนัง Coming-of-Age ก้าวผ่านวัยของเด็กชาย 2 คนที่เป็นเพื่อนสนิทกัน จนกระทั่งเกิดเหตุพลิกผันที่ทำให้ทั้งคู่ต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลง นักวิจารณ์ส่วนใหญ่กล่าวยกย่องว่าในรอบปีนี้ไม่น่าจะมีหนังเรื่องไหนที่ “หวาน” และ “อ่อนโยน” ได้เท่ากับหนังเรื่องนี้อีกแล้ว และเป็นหนังที่เข้าชิงรางวัลOSCAR สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมอีกด้วย
บอกเลยว่า ตัวเองไม่ใช่สายหนังรางวัลเท่าไหร่
มีหลายเรื่องที่ชอบ และผิดหวัง ทั้งที่มีแต่คนชม
แต่เห็นเรื่องนี้ น่าสนใจ บวกกับสัปดาห์นี้ ไม่มีหนังอะไรน่าสนใจ หรืออยากดู เลยตัดสินใจดูเรื่องนี้ หลังจากที่ได้เห็นตัวอย่าง
ความรู้สึกหลังดูจบ ส่วนตัวคิดว่า ก็ดีแบบหนังรางวัลล่ะ ซึ่งคนที่ดูหนังรางวัล จะทราบดี ว่าจะเป็นแนวไหน หนังจะมาอย่างไร ก็เช่นกันเหมือนหนังรางวัลหลายๆเรื่อง เล่าเรื่องแบบธรรมดา เรียบง่าย แต่แฝงนัยยะ อาศัยการตีความ ให้เราคิด และวิเคราห์ไปกับตัวหนังและตัดจบ และไม่เคลียร์ ก็จะประมาณนี้
แต่เรื่องนี้ต่างจากเรื่องอื่นๆ คือเราเพลินไปกับเด็ก2คน การเล่าเรื่องที่ธรรมดา ไม่มีชั้นเชิงอะไรมาก ไม่เน้นดนตรีประกอบเยอะ อาศัยการถ่ายแบบใกล้ๆหน้านักแสดง เพื่อที่จะให้เห็นอารมณ์ สีหน้า อละการแสดงออก ทำให้เรารู้สึกอินไปกับตัวละคร และเข้าใจในความสัมพันธ์ของเลโอกับเรมี่มากขึ้น
หนังค่อยๆเล่า ความผูกพันธ์ของทั้ง2 ผ่านชีวิตประจำวัน และเล่าจนมาถึงจุดเปลี่ยน ที่ทำให้ทั้ง2 ต้องมีปัญหากัน และเกิดเรื่องเศร้าขึ้น
หนังดราม่า Coming of Age ที่ทำให้เรา เศร้า และน้ำตาซึมในหลายฉาก
โดยรวมคือหนังก็สนุก และดี ในแบบฉบับหนังรางวัล (ไม่เทียบหนังแมสนะ) และดูได้เรื่อยๆ เพลินๆ ถึงแม้ครึ่งหลัง จะค่อนข้างที่จะยืดยาวไปบ้าง จนแอบน่าเบื่อ แต่ก็ถือว่า โอเคใช้ได้เลยทีเดียว สำหรับแนวหนังรางวัลแบบนี้ ไม่ได้ง่วงหรือน่าเบื่อ หรือเนิบอะไร แบบเรื่องอื่นๆ
แต่ชอบการเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของทั้ง2 ว่าเขาสนิทกันมากแค่ไหน ใช้ชีวิตแต่ละวันด้วยกันยังไง และมาถึงจุดพลิกผัน ในชีวิตมัธยม ที่ทำให้2คนต้องมีเรื่องกัน ที่มีประเด็นเรื่องเพศมาเกี่ยว ซึ่งเป็นปัญหาที่ยังแก้ไม่หาย ในหลายๆประเทศ จนลามไปถึง เหตุการณ์ไม่คาดฝัน ที่แสนเจ็บปวด มันบีบหัวใจมาก
นักแสดงทุกคนเล่นดีมาก โดยเฉพาะน้องๆที่รับบทเลโอและเรมี่ คือถ่ายทอดอารมณ์ สีหน้า ท่าทาง และความรู้สึกได้ดีมาก เล่นดีจริง แถมหน้าตาดีมาก นักแสดงเรื่องนี้
ข้อด้อย และส่วนที่ไม่ชอบของหนัง เราว่าครึ่งหลังของหนัง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตั้งแต่เรมี่เสียไป หนังค่อนข้างยืดยาว เวิ่นเว้อ และน่าเบื่อ ทั้งที่แก่นแท้ของช่วงนี้ไม่มีอะไรเลย แต่ใช้เวลาไปกับฉากต่างๆเยอะมากๆ ทั้งที่ความจริง มันตัดหลายๆฉากออก และมาฉากจบยังได้เลย เพราะมันเป็นฉากซ้ำๆทั่วไป ที่หนังพยายามเอามาใส่แทรกตลอดทั่งเรื่อง ทั้งฉากเก็บดอกไม้ ปลูกดอกไม้ ที่เป็นอาชีพของบ้านเลโอ ฉากเล่นกีฬา ซึ่งมันไม่จำเป็นต้องใส่มาทั้งเรื่อง และตัดสลับไปมาวนลูปอยู่แบบนั้น ในครึ่งเรื่องหลัง คือมีแต่ฉากพวกนี้จริงๆ จนรู้สึกรำคาญ
สำหรับคะแนนความชอบ ส่วนตัวให้ 6.9/10 คะแนน หักคะแนนครึ่งหลัง ยืดเยื้อมากเกินไป
สำหรับใครที่ไปดูมาแล้ว ชอบ ไม่ชอบ หรือคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง มาแชร์ความเห็นกันได้นะ
หนังรางวัล CLOSE รักแรก วันนั้น (6.9/10) l วัยเปลี่ยนผ่าน ที่นำมาสู่ความเจ็บปวด (สปอยล์)
“Close”
หนังสัญชาติเบลเยียมโดยผู้กำกับ “ลูกัส ดงต์” (Girl, 2018) ที่ได้รับเสียงปรบมือให้เกียรติยาวนานถึง 10 นาทีในรอบปฐมทัศน์ หนังที่ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไม่มีใครสามารถกลั้นน้ำตาได้อยู่เลยจริงๆ”
“Close” คว้ารางวัล “หนังรองชนะเลิศ” ปาล์มทองคำ จากเทศกาลหนังเมืองคานส์ ปีที่แล้ว ไปครองอย่างสมศักดิ์ศรี เป็นหนัง Coming-of-Age ก้าวผ่านวัยของเด็กชาย 2 คนที่เป็นเพื่อนสนิทกัน จนกระทั่งเกิดเหตุพลิกผันที่ทำให้ทั้งคู่ต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลง นักวิจารณ์ส่วนใหญ่กล่าวยกย่องว่าในรอบปีนี้ไม่น่าจะมีหนังเรื่องไหนที่ “หวาน” และ “อ่อนโยน” ได้เท่ากับหนังเรื่องนี้อีกแล้ว และเป็นหนังที่เข้าชิงรางวัลOSCAR สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมอีกด้วย
บอกเลยว่า ตัวเองไม่ใช่สายหนังรางวัลเท่าไหร่
มีหลายเรื่องที่ชอบ และผิดหวัง ทั้งที่มีแต่คนชม
แต่เห็นเรื่องนี้ น่าสนใจ บวกกับสัปดาห์นี้ ไม่มีหนังอะไรน่าสนใจ หรืออยากดู เลยตัดสินใจดูเรื่องนี้ หลังจากที่ได้เห็นตัวอย่าง
ความรู้สึกหลังดูจบ ส่วนตัวคิดว่า ก็ดีแบบหนังรางวัลล่ะ ซึ่งคนที่ดูหนังรางวัล จะทราบดี ว่าจะเป็นแนวไหน หนังจะมาอย่างไร ก็เช่นกันเหมือนหนังรางวัลหลายๆเรื่อง เล่าเรื่องแบบธรรมดา เรียบง่าย แต่แฝงนัยยะ อาศัยการตีความ ให้เราคิด และวิเคราห์ไปกับตัวหนังและตัดจบ และไม่เคลียร์ ก็จะประมาณนี้
แต่เรื่องนี้ต่างจากเรื่องอื่นๆ คือเราเพลินไปกับเด็ก2คน การเล่าเรื่องที่ธรรมดา ไม่มีชั้นเชิงอะไรมาก ไม่เน้นดนตรีประกอบเยอะ อาศัยการถ่ายแบบใกล้ๆหน้านักแสดง เพื่อที่จะให้เห็นอารมณ์ สีหน้า อละการแสดงออก ทำให้เรารู้สึกอินไปกับตัวละคร และเข้าใจในความสัมพันธ์ของเลโอกับเรมี่มากขึ้น
หนังค่อยๆเล่า ความผูกพันธ์ของทั้ง2 ผ่านชีวิตประจำวัน และเล่าจนมาถึงจุดเปลี่ยน ที่ทำให้ทั้ง2 ต้องมีปัญหากัน และเกิดเรื่องเศร้าขึ้น
หนังดราม่า Coming of Age ที่ทำให้เรา เศร้า และน้ำตาซึมในหลายฉาก
โดยรวมคือหนังก็สนุก และดี ในแบบฉบับหนังรางวัล (ไม่เทียบหนังแมสนะ) และดูได้เรื่อยๆ เพลินๆ ถึงแม้ครึ่งหลัง จะค่อนข้างที่จะยืดยาวไปบ้าง จนแอบน่าเบื่อ แต่ก็ถือว่า โอเคใช้ได้เลยทีเดียว สำหรับแนวหนังรางวัลแบบนี้ ไม่ได้ง่วงหรือน่าเบื่อ หรือเนิบอะไร แบบเรื่องอื่นๆ
แต่ชอบการเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของทั้ง2 ว่าเขาสนิทกันมากแค่ไหน ใช้ชีวิตแต่ละวันด้วยกันยังไง และมาถึงจุดพลิกผัน ในชีวิตมัธยม ที่ทำให้2คนต้องมีเรื่องกัน ที่มีประเด็นเรื่องเพศมาเกี่ยว ซึ่งเป็นปัญหาที่ยังแก้ไม่หาย ในหลายๆประเทศ จนลามไปถึง เหตุการณ์ไม่คาดฝัน ที่แสนเจ็บปวด มันบีบหัวใจมาก
นักแสดงทุกคนเล่นดีมาก โดยเฉพาะน้องๆที่รับบทเลโอและเรมี่ คือถ่ายทอดอารมณ์ สีหน้า ท่าทาง และความรู้สึกได้ดีมาก เล่นดีจริง แถมหน้าตาดีมาก นักแสดงเรื่องนี้
ข้อด้อย และส่วนที่ไม่ชอบของหนัง เราว่าครึ่งหลังของหนัง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ หนังค่อนข้างยืดยาว เวิ่นเว้อ และน่าเบื่อ ทั้งที่แก่นแท้ของช่วงนี้ไม่มีอะไรเลย แต่ใช้เวลาไปกับฉากต่างๆเยอะมากๆ ทั้งที่ความจริง มันตัดหลายๆฉากออก และมาฉากจบยังได้เลย เพราะมันเป็นฉากซ้ำๆทั่วไป ที่หนังพยายามเอามาใส่แทรกตลอดทั่งเรื่อง ทั้งฉากเก็บดอกไม้ ปลูกดอกไม้ ที่เป็นอาชีพของบ้านเลโอ ฉากเล่นกีฬา ซึ่งมันไม่จำเป็นต้องใส่มาทั้งเรื่อง และตัดสลับไปมาวนลูปอยู่แบบนั้น ในครึ่งเรื่องหลัง คือมีแต่ฉากพวกนี้จริงๆ จนรู้สึกรำคาญ
สำหรับคะแนนความชอบ ส่วนตัวให้ 6.9/10 คะแนน หักคะแนนครึ่งหลัง ยืดเยื้อมากเกินไป
สำหรับใครที่ไปดูมาแล้ว ชอบ ไม่ชอบ หรือคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง มาแชร์ความเห็นกันได้นะ