"Close" หนังรักวัยเด็ก

เด็กท้องถิ่น 2 คน กับมิตรภาพอันแน่นแฟ้น
ระหว่างเด็กชายอายุสิบสามปีสองคน ลีโอ และ เรมี 
Léo(Eden Dambrine) และ Rémi (Gustav De Waele)
ภ."Close" เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับมิตรภาพและความรัก
Leo และ Remi เป็นเพื่อนซี้วัย 13 ปี 2 คน ซึ่งมีสายสัมพันธ์
ที่ดูเหมือนว่าจะไม่มีวันสลาย แต่สุดท้ายก็ได้ขาดออกจากกัน
อย่างน่าเศร้า

Lukas Dhont ผู้กำกับและผู้เขียนบท ปั่นงานภาพยนต์เรื่องนี้ รังสรรค์
อารมณ์ภาพที่สื่อถีงความเปลี่ยนแปลง ทางอารมณ์จนยากจะลืมเลือน
ของจุดบรรจบ ของมิตรภาพ และ ความรัก ความอยากเป็นอิสระ ปน ความปวดใจ 
สื่อสารอารมณ์เหล่านี้ ให้กับคนดู
มุมมองด้านภาพในช่วงแรก
เน้นความสดใสเบิกบาน จึงให้ภาพท้องถิ่นใน มุมมองกว้าง
แต่พอเข้าโหมด จิตตก ผู้กำกับก็กำกับภาพให้ แคบลง
มากดที่ตัวละครเอก (ลีโอ)
แต่ฝ่ายเดียว เพื่อให้เข้าถึงจิตใจอารมณ์ ที่ ทั้งสับสน
ปรวนแปร ไม่มีคำตอบ ในคำถามที่ว้าวุ่นใจ
เพื่อส่งให้คนดูรับการสื่อสารทางอารมณ์นั้นไปเต็ม ๆ

เมื่อฤดูร้อนใกล้เข้ามา เลโอ และ เรมี เพื่อนซี้วัย 13 ปี
จะใช้เวลาช่วงวันหยุดที่เหลือ ก่อนไปโรงเรียน
ทั้งสองมีสายสัมพันธ์ฉันพี่น้อง
ที่ไม่มีวันแตกสลาย  จนเกินความเข้าใจ 
ที่ดูเหมือนว่าแถบแยกจากกันไม่ได้ 
ไม่มีอะไรจะมาขวางกั้นระหว่างพวกเขาได้เลย
 
อย่างไรก็ตาม เมื่อมิตรภาพของเด็กชายทั้งสองคน 
ดึงดูดความสนใจของเพื่อนร่วมโรงเรียนในวันเปิด
เทอมวันแรก  กับคำพูดแย่ๆ แม้จะเป็นแค่คำถาม
"เธอสองคน คบกันเหรอ" ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด
ของ เลโอ และ เรมี  ทำให้ เลโอ เหมือนถูกทดสอบ
ก็เลยกลายเป็นความเปลี่ยนแปลง ครั้งสำคัญในชีวิต
ของ ลีโอ 

แววตาอารมณ์ ลีโอ ที่ทำให้รู้สึกว่า
"เพื่อนยังสบายดีมั๊ยนะ" "โอเครึป่าว"
ผุดขึ้นมาในใจผู้ดู เมื่อช่วงที่สายสัมพันธ์
ค่อยๆ ขาดกัน

เด็กที่รับบทสำคัญนี้  ถ้าไม่เข้าใจบท
ก็จะสื่อสารทางสีหน้าแววตา
และ อารมณ์ เหล่านี้ไม่ได้  (เพื่อนผมบอก)

แต่สุดท้าย หนังก็ยังให้การเยียวยา 
ด้วยภาพและอารมณ์ 
กับ คนดูอยู่เหมือนกัน เพื่อคลายปมความรู้สึกที่ถูกบีบมา
ตั้งแต่กลางเรื่อง 

บทพูดสำคัญ ท้ายเรื่อง ซึ่งถือช่วงเวลาไคลแม็กซ์ 
คือช่วงเวลาสำคัญที่ตัวละครหลักของเราได้เผชิญหน้ากับ
 · ปมปัญหาหลัก · อุปสรรคหลัก ตลอดเรื่องให้คนดู
ได้คลายจิตใจผ่อนคลายลงมา
ก็เรียกน้ำตาคนดูได้ เงียบสงัดกันทั้งโรง
จนไม่อยากลุกออกจากที่นั่งเมื่อหนังจบ.

หนังที่น่าไปดู ชวนให้ดู และดึงดูดให้ดู
แม้จะไม่มีบทสนทนา สำคัญๆ เท่าไหร่
กับวิถีชนบท บ้าน ๆ ธรรมดา ๆ  นั้นก็เป็นวิถี
ของเมืองในชนบทอยู่แล้ว
โดยส่วนตัวชอบหนังเรื่องนี้ ในแง่งานภาพ งานแสง 
แต่ด้วยผู้ดู ชินกับงานที่สื่อสารทางด้านภาษา มาจาก
หนังหลาย ๆ เรื่องจนติด
พอมาเจองานด้านบทสนทนา ธรรมดาบ้านๆ เลยไม่ชิน
ทั้งๆ ที่ดูหนังอาร์ตมาก็ไม่น้อย 

แต่สุดท้ายก็ยอมรับว่า เส้นทางของหนัง 
ก็สมควรที่จะเป็นแบบนี้

งานภาพ แบบภาพระยะปานกลาง Medium shot (MS) 
เพื่อ ตัดฉากหลังและรายละเอียดอื่นๆ ที่ไม่จำเป็นออกไป
ช่วงที่ตัวละครหลัก จิตตก 
ซึ่งโดยส่วนตัวผมไม่ชอบภาพในลักษณะนี้มากนัก
โดยเฉพาะที่มันลากนานเกินไป กดอารมณ์ผู้ดูไว้เกือบค่อนเรื่อง
แต่ ก็เข้าใจว่าผู้กำกับต้องการภาพแบบนี้

สุดท้าย ก็ จัดว่าดี สมควรถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ 
ในสาขา ภ.ต่างประเทศ รอดูวันประกาศอีกที ว่าสมควรได้หรือไม่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่