เราอยากลดความอ้วนแต่เป็นคนค่อนข้างขี้เกียจ ทำไงดี

กระทู้คำถาม
เราน้ำหนักประมาณ 63-66 กิโล แล้วแต่วัน แล้วแต่การกิน เราอยากผอม เพราะเวลาเดินกับเพื่อนๆดูต่างสุดเลย เพื่อนๆเราผอมๆสวยๆกันทุกคนเลย เวลาเดินเป็นกลุ่มก็มีเราอยู่คนเดียวที่อ้วน แต่เราก็เป็นคนค่อนข้างขี้เกียจ คิดได้ก็ทำ ลืมเราก็ไม่ได้ทำ พอไม่ได้ทำไปสักครั้ง2ครั้งก็ติดเลิกทำ พอมีคนบอกว่าอ้วน ก็มาออกกำลังกายอยู่สัก2-3วัน แล้วก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม เรื่องอาหารนี่ไม่เคยพลาด ตามใจปากตลอด อยากกินอะไรก็กิน กินเสร็จแล้วก็นั่งๆนอนๆ เรารู้ตัวว่าเป็นคนแบบนี้ แต่เราก็อยากผอม จะมีวิธีไหนบ้างมั้ยคะที่ทำให้เราลดความอ้วน และตั้งใจทำได้จริงๆ
ปล.เพื่อนๆเราที่สวยๆก็เคยอ้วนมาก่อน เขาบอกเราว่าเขาวิ่งเช้าวิ่งเย็น งดข้าวเย็น2เดือน เขาลด20กิโลเลย เราอึ้ง ได้เขาเป็นไอดอลสักพักเราก็ล้มเลิก เพราะคิดว่าคงทำไม่ได้
ปล.2 เพื่อนๆทั้งสนิทไม่สนิท และครูก็ชอบล้อเรา บางคนอ้วนกว่าเราแต่บอกว่าเราจะไม่ไหวแล้ว จะเป็นเบาหวาน แต่ด้วยความเป็นคนร่าเริงก็เลยปล่อยผ่านไม่ได้คิดอะไร แต่ตอนนี้เพื่อนที่เคยอ้วนอีกคนก็ลดลงมาแล้ว เลยอยากทำได้บ้าง
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ไม่ผิดหรอก จะกินกี่มื้อ ก็ได้ ถ้า แคลอรี่ อาหาร ไม่ต่ำ และ ไม่มาก จนเกินไป  มีคนทาน 2 มื้อมากมายที่ลดน้ำหนักได้สำเร็จ

บางคนทาน 3 มื้อ เหมือนดม ทาน 2 มื้ออิ่มๆ
ยังดีกว่ามาก  จำนวนมื้อไม่ใช่หน่วยปริมาณอาหารครับ แต่ แคลอรี่ต่างหากที่เป็นหน่วยของอาหารที่ทาน

ปล ตรงนั้น  ถ้าวิ่งกันอย่างนั้น และทานน้อย 2 เดือน ลดได้ 20  กิโล ถ้าทำได้ ก็ลดอย่างนั้นได็จริงๆ แต่ นั้นเป็นการขาดอาหารอย่างรุนแรง เสี่ยง ผมร่วง ความดันต่ำ เข้าใกล้ความตาย ร่างกายคนเราไม่เท่ากัน ไม่บอกว่าคนนึงทำได้แล้วทุกคนจะทำได้ ไม่บอกว่าคนนึงรอดตายแต่อีกคนนึงทำแล้วจะรอดตาย

โลกนี้มีการลด ได้หลากหลายวิธี  ขอให้รู้ว่าเข้าใจหลัก

1.  สมการ  
          แคลอรี่ ที่กิน น้อยกว่า แคลอรี่ที่ใช้ = น้ำหนักลด

2. อัตราการเผาผลาญประจำวัน จะค่อยปรับตัวเข้าหา แคลอรี่ อาหารที่ทาน
    สังเกต เวลาที่ทานมากๆ น้ำหนักหนักเราจะขึ้น แต่ช่วงแรกๆจะขึ้นมาก พอนานๆไป น้ำหนักเริ่มคงที่ สมดุล   จากสมการข้อที่ 1 ตอนที่สมดุล กิน เท่ากับ ใช้ นั่นคือ อัตราการเผาผลาญ เท่ากับ เท่ากับ กิน
     ขาลงก็ เช่นกัน เวลาที่เราน้อยๆ อัตราการเผาผลาญก็จะค่อยๆปรับตัวลง เข้าหา แคลอรี่อาหารที่ทาน และพอทำไปนานๆหลายเดือน อัตราการเผาผลาญจะเท่ากับแคลอรี่ที่ทาน
     จากตรงนี้กินน้อยมากๆเวลานานๆไม่ดี อัตราเผาผลาญจะปรับต่ำมาก พอลดน้ำหนักได้ จะต้องเอาอัตราเผาผลาญขึ้นมา  ซึ่งตรงจุดนี้หลายคนไม่เข้าใจเปลี่ยนการทานเพิ่มอย่างรวดเร็วเป็นเวลานานๆ ทำให้น้ำหนักขึ้นเร็ว
    มีนักวิทยาศาสตร์ ทดลองกับคนจำนวนหนึ่ง ให้ทาน 500 แคลอรี่ และ 900 แคลอรี่ พบว่า ระยะ 2-3 เดือน ลดน้ำหนักได้เท่ากัน  แต่คนที่ทาน 500 แคล จะลดได้มากในเดือนแรก หลังจากนั้นแล้วลดได้ช้าลง เป็นเพราะ อัตราการเผาผลาญปรับตัว เลือกทานให้แคลอรี่
ปานกลาง สุขภาพดี ลดน้ำหนักได้ จะดีกว่านะครับ

คุณจะทานกี่มื้อก็ได้  แต่ แคลอรี่รวมทั้งวัน  80%-110% ของ BMR สูตร  หรือ ที่เขาแนะนำ น้อยกว่า TDEE 500 คือ แคลอรี่ ติดลบ 500
BMR สูตรของผูหญิงอายุ 30 ปี ของคนที่ทำงานออฟฟิต = 12.84×นน + 570 แคล ของคุณประมาณ 1400 แคล  คุณจะทาน 1400 แคล แล้วออกกำลังกาย วันละ 500 แคลก็ได้ จะทำให้พลังงานติดลบ 500 แคล น้ำหนักคุณจะลดลงประมาณ  2-4 กิโลต่อเดือน หรือคุณออกกำลังกายหนักไม่ไหว ก็ปรับเป็นทาน 1200 แคล แล้วออกกำลังกาย 200 แคล

การงดมื้อเย็น อยู่ในวิธีลดไขมัน ที่คนทั้งโลกรู้จักกัน คือ Intermittent fasting  เป็นการงดอาหารช่วงระยะเวลาหนึ่ง เช่น 16/8  หมายถึง จะงดอาหาร fasting 16 ชั่วโมง และ feed 8 ชั่งโมง ช่วง feed ให้ทานเป็นมื้อๆ 2 มื้อ หรือ 3 มื้อ ก็ได้ แต่แคลอรี่ รวมเท่ากัน  และช่วง fasting ให้ทานน้ำ หรือ กาแฟดำ หรือ แคลอรี่อาหารไม่เกิน 50 แคล  เวลาที่จะออกกำลังกาย ก่อน ออกกำลัง 1-2 ชั่วโมง ให้ทานแป้ง หรือ กล้วย แต่ต้องไม่เกิน 50 แคล เพื่อสามารถออกกำลังกายได้โดยไม่หน้ามืด

ลองศึกษาดูครับ  
แรกๆผมทาน เช้า เที่ยง บ่าย3 fast 16 ชั่วโมง  ต่อมาผมทานเช้าเที่ยง fast 17-20 ชั่วโมง ทานประมาณ 1400 แคล เน้นทานโปรตีน เพื่อซ่อมและสร้างกล้ามเนื้อ  จำกัด ข้าว แป้ง รวมประมาณ 150-200 กรัม หรือ 3-4 ทัพพี ออกกำลังกายปานกลาง เดินเร็ว 60 นาที บางวันแพล๊ง crunch squat

บางวันมีงานเลี้ยง หรือ กินกับพักพวก  ผมก็ทานบ่ายเย็น

ปล น้ำหนักลงเร็ว เป็นการขาดอาหารรุนแรง ทำนานๆเป็นการทำร้ายร่างกาย ลดประมาณ 2-5 กิโลต่อเดือน ก็พอครับ  วัดสัดส่วนด้วยครับ เพราะสัดส่วนลดลง มันหมายถึง ไขมันลดลง ครับ

ปล 2   ทานคลีน นับแคลอรี่อาหารได้ง่าย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่