18 ต.ค. 2561 - ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ - สำนักพิมพ์วิช เปิดตัวหนังสือ เปลี่ยนธุรกิจในยุคดิจิทัล Step by StepDigital Transformation In Actionเขียนโดย นายธนพงศ์พรรณ ธัญญรัตตกุลผู้ก่อตั้งสถาบัน U23 academy เจ้าของหลักสูตร “Digital Transformation in Action” และเป็นกูรู วิทยากรด้าน Digital Transformation ให้กับองค์กรต่างๆ กว่า 100 องค์กร ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการหรือนักบริหารองค์กรพึงตระหนักถึงความสำคัญของการปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย ให้สามารถเป็นองค์กรที่ตอบสนองต่อการแข่งขันที่เปลี่ยนไปได้อย่างแท้จริง อันเป็นการสร้างความได้เปรียบในการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับเทคโนโลยี
ปัจจุบันการทำธุรกิจในศตวรรษที่ 21 อยู่ในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 หรือ Industry 4.0 จะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโลกของเราก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเป็นทางการแล้ว อันเนื่องมาจากการแข่งขันการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงตามเทคโนโลยีสมัยใหม่ หากการดำเนินธุรกิจไม่ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัย ย่อมส่งผลเสียต่อองค์กรและผลประกอบการทั้งปัจจุบันและอนาคต
เมื่อดิจิทัลเป็นปัจจัยใหม่ที่สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ผู้ประกอบการรุ่นใหม่จึงตัดสินใจปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจ ในขณะเดียวกัน ธุรกิจดั้งเดิมก็จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง เพราะถ้าไม่ปรับตัว ธุรกิจอาจจะสุ่มเสี่ยงต่อการถูกคู่แข่งแซงหน้าหรือถูกแทนที่ได้อย่างไม่ทันตั้งตัว
เมื่อเราไม่ต้องการให้เทคโนโลยี มาแทนที่หรือบีบคั้นให้เราต้องเปลี่ยนแปลง จึงมีคำถามขึ้นมาว่าจะดีกว่าไหม หากผู้ประกอบการหรือนักบริหารองค์กร จะมาเรียนรู้พร้อมปรับกรอบความคิด วางกลยุทธ์ธุรกิจเพื่อก้าวไปสู่ Digital Transformation ซึ่งหมายถึง การเปลี่ยนแปลงธุรกิจเป็นองค์กรดิจิทัล(Digital Enterprise) เพื่อนำประโยชน์จากดิจิทัลเทคโนโลยี เช่น AI, Blockchain, 3D Printing ที่ไม่ใช่แค่เครื่องมือแต่เป็นยุทธศาสตร์สมัยใหม่ที่จะช่วยให้ธุรกิจสร้างความเติบโตครั้งใหม่ได้ ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิทัลนั้น ไม่ได้มีแต่ในเฉพาะองค์กรเอกชนขนาดใหญ่เท่านั้น หากแต่ยังมีการใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในระดับประเทศ หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์กรขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)
Digital Transformation คือ บทสรุปของการขับเคลื่อนองค์กรในยุคปัจจุบัน ที่ไม่ใช่แค่เรื่องการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที หรือการนำเทคโนโลยีมาใช้ในองค์กรเท่านั้น แต่เป็นการเปลี่ยนวิธีคิดของผู้บริหารอย่างมีกลยุทธ์อย่างถึงแก่น เริ่มจากรากของธุรกิจ ด้วยการ Transform รูปแบบธุรกิจจากเดิมสู่ Digital Business ในยุคดิจิทัล เป็นการคิดใหม่ในทุกมิติ โดยการมีส่วนร่วมจากทุกคนในองค์กรรวมถึงผู้นำองค์กรด้วยเช่นกัน
นายธนพงศ์พรรณ ธัญญรัตตกุลกล่าวว่า “เมื่อการดำเนินธุรกิจเริ่มมีปัญหา เพราะดิจิทัลเข้ามามีบทบาทมากขึ้น การทำ Digital Transformation จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถพลิกเกมได้ในกระแสแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ ดังนั้น ผู้บริหารหรือเจ้าของธุรกิจหลายท่านอาจมีความสงสัยว่า ที่ผ่านมา ธุรกิจก็เคยทำ Digital Marketing หรือมีการลงทุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแล้ว แต่ผลลัพธ์ที่ได้ในปัจจุบันกลับไม่ประสบความสำเร็จเหมือนเช่นเคย ซึ่งสาเหตุสำคัญล้วนมาจากวิธีคิดและความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องของผู้บริหารและพนักงานในองค์กร”
“ผู้บริหารหลายๆ องค์กรถามผมว่า “ทำไมต้องเปลี่ยนเป็นดิจิทัล” ผมกล้าพูดได้เลยว่าหากไม่เปลี่ยน “บริษัทเจ๊งแน่นอน”เพราะหลายๆ สิ่งเปลี่ยนแปลงไปทั้งบริบทการแข่งขันและพฤติกรรมผู้บริโภค ยกตัวอย่างเช่น สมัยก่อนแต่ละเดือนเราจ่ายเงินค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์มือถือเป็นค่า Voice ผ่านทางเคาร์เตอร์เซอร์วิส ปัจจุบันเราจ่ายเป็นค่าบริการ Data ผ่านทางช่องทางออนไลน์หรือโมบายแอพพลิเคชั่นโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมในการชำระเงินเหมือนแต่ก่อน ซึ่งในอนาคตเราอาจจะเปลี่ยนเป็นการจ่ายเป็นค่าใช้บริการเครือข่ายระบบIoT (Internet of Things) ในการใช้บริการเพื่อเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตทุกสรรพสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา ซึ่ง IoTก็เป็นหนึ่งในดิจิทัลเทคโนโลยีในยุค Industry 4.0ดังนั้น การทำ Digital Transformation ไม่ใช่เป็นเพียงเครื่องมือทางการตลาด แต่จะเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการทำธุรกิจ
ในเมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน การตลาดก็ต้องเปลี่ยนตาม ผู้บริหาร นักการตลาด และผู้ประกอบการต้องสร้างประสบการณ์กับผู้บริโภค ให้เกิดการซื้อ ซื้อซ้ำและบอกต่อ ดังนั้น การปรับตัวเท่านั้นถึงอยู่รอด และต้องไม่เพียงแค่การทำการบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลง (Change Management) ซึ่งเป็นแค่ส่วนหนึ่งของการทำ Digital Transformation เท่านั้น แต่ต้องทำ Digital Transformation คือการเปลี่ยนกลยุทธ์ธุรกิจทั้งหมด รวมถึง mindset หรือวิธีคิดของผู้นำในการทำธุรกิจอีกด้วย
สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ ผู้บริหารและผู้ประกอบการต้องรู้ก่อนว่าปัจจุบันมีดิจิทัลเทคโนโลยีอะไรบ้าง และเทคโนโลยีอะไรที่เหมาะสมกับธุรกิจของเรา ให้หยิบเอาตัวนั้นมาปรับใช้เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันครั้งใหม่ให้กับธุรกิจของเรา และศึกษาการแข่งขันให้ชัดเจน ต้องรู้เข้าใจด้วยว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปในทางทิศทางไหน และที่สำคัญคือการเปลี่ยนทัศนคติ วิธีคิด วิถีและวัฒนธรรมการทำงาน ของผู้บริหารและพนักงานให้ปรับตัวรู้เท่าทันสิ่งเปลี่ยนที่กำลังจะเกิดขึ้น”
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.การดี เลียวไพโรจน์ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาธุรกิจ กล่าวว่า “ภาพรวมของยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ผู้บริโภคไม่เพียงแต่จะใช้สินค้าที่มีคุณภาพดี สินค้าที่ถูกและเร็วแต่เพียงเท่านั้น แต่ในยุค 4.0 ผู้บริโภคเปลี่ยนไป ธุรกิจหรือสินค้าตัวไหนที่ซื้อขายง่าย และใกล้ตัว ธุรกิจนั้นย่อมได้เปรียบมากกว่า นั้นก็หมายความว่า การปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ธุรกิจจำเป็นต้อง Digital Transformation
ในปี 2019 เป็นต้นไปให้จับตามอง ธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีผลประกอบการมาก กำลังจะโดน Disrupt ที่ไม่ใช่คู่แข่ง แต่เป็นธุรกิจอื่นๆ ที่เข้ามาเป็นคู่แข่งทางอ้อม ทำให้คู่แข่งที่แท้จริงกลับกลายมาเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ ซึ่งสวนทางกับการทำธุรกิจแบบสมัยก่อนอย่างแน่นอน”
คุณวรุตม์ กฐินทองนักบริหาร นักธุรกิจรุ่นใหม่ กล่าวว่า “จากประสบการณ์ตรงของการทำธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ ต้องยอมรับเลยว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปจริงๆ จากเดิมที่ลูกค้าดูข้อมูลผ่านหน้าร้าน แต่ในปัจจุบันผู้บริโภคสามารถศึกษาหาข้อมูลผ่านออนไลน์ ซึ่งใครที่ปรับตัวได้ทัน ก็ได้เปรียบกว่าแน่นอน เรื่องของดิจิทัจทำให้ธุรกิจของเรามีความสามารถในการแข่งขันมากกว่าธุรกิจที่ยังไม่ปรับ จึงใช้ดิจิทัลมาเป็นส่วนหนึ่งในการบริหารทุกส่วนของการบริหารองค์กร ซึ่งถ้าใครไม่เปลี่ยนก็จะมีต้นทุนทั้งในแง่ของเวลา เงิน และคน ก็จะมากกว่าผู้อื่น และทำให้เสียเปรียบทางธุรกิจและการตลาดอย่างแน่นนอน”
นายธนพงศ์พรรณ ธัญญรัตตกุลกล่าวเพิ่มเติมว่า “หนังสือ เปลี่ยนธุรกิจในยุคดิจิทัลStep by Step Digital Transformation In Action” เล่มนี้ ผู้อ่านจะได้เห็นและเข้าใจการแข่งขันในแต่ละอุตสาหกรรมที่ไม่เหมือนเดิม และได้ทราบว่าดิจิทัลเทคโนโลยีอะไรที่จะเข้ามามีบทบาทและเปลี่ยนรูปแบบในการแข่งขัน และส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างไรอีกด้วยในขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการเองก็ต้องตระหนักว่า ธุรกิจของเราจะถูกเทคโนโลยีบังคับให้เปลี่ยนแปลงหรือจะเป็นผู้ก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างโอกาสครั้งใหม่ในยุคดิจิทัล สำหรับผู้บริหารหรือเจ้าของธุรกิจไม่ว่าจะอยู่ในธุรกิจขนาดกลาง ขนาดเล็ก หรือขนาดใหญ่ ในทุกอุตสาหกรรม ในทุกช่วงของวงจรธุรกิจ เมื่อพร้อมที่จะปรับธุรกิจเพื่อการเปลี่ยนแปลงให้ก้าวทันตามโลกแล้ว ย่อมประสบความสำเร็จครั้งใหม่อย่างแน่นอน”
หนังสือ เปลี่ยนธุรกิจในยุคดิจิทัลStep by Step Digital Transformation In Action จึงเป็นดั่งคู่มือของธุรกิจยุคใหม่ที่ผู้บริหารและผู้ประกอบการจะได้มีโอกาสเรียนรู้จากกรณีศึกษาที่เกิดขึ้นจริง และเตรียมความพร้อมสู่การเปลี่ยนแปลงของธุรกิจในยุคดิจิทัลให้ดียิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้บริหารและเจ้าของธุรกิจ ทั้งขนาดเล็กไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่ ราคา 295 บาท วางจำหน่ายที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ
ไม่เปลี่ยน ไม่รอด เปลี่ยนธุรกิจในยุคดิจิทัล ต้อง Digital Transformation
18 ต.ค. 2561 - ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ - สำนักพิมพ์วิช เปิดตัวหนังสือ เปลี่ยนธุรกิจในยุคดิจิทัล Step by StepDigital Transformation In Actionเขียนโดย นายธนพงศ์พรรณ ธัญญรัตตกุลผู้ก่อตั้งสถาบัน U23 academy เจ้าของหลักสูตร “Digital Transformation in Action” และเป็นกูรู วิทยากรด้าน Digital Transformation ให้กับองค์กรต่างๆ กว่า 100 องค์กร ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการหรือนักบริหารองค์กรพึงตระหนักถึงความสำคัญของการปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย ให้สามารถเป็นองค์กรที่ตอบสนองต่อการแข่งขันที่เปลี่ยนไปได้อย่างแท้จริง อันเป็นการสร้างความได้เปรียบในการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับเทคโนโลยี
ปัจจุบันการทำธุรกิจในศตวรรษที่ 21 อยู่ในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 หรือ Industry 4.0 จะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโลกของเราก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเป็นทางการแล้ว อันเนื่องมาจากการแข่งขันการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงตามเทคโนโลยีสมัยใหม่ หากการดำเนินธุรกิจไม่ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัย ย่อมส่งผลเสียต่อองค์กรและผลประกอบการทั้งปัจจุบันและอนาคต
เมื่อดิจิทัลเป็นปัจจัยใหม่ที่สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ผู้ประกอบการรุ่นใหม่จึงตัดสินใจปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจ ในขณะเดียวกัน ธุรกิจดั้งเดิมก็จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง เพราะถ้าไม่ปรับตัว ธุรกิจอาจจะสุ่มเสี่ยงต่อการถูกคู่แข่งแซงหน้าหรือถูกแทนที่ได้อย่างไม่ทันตั้งตัว
เมื่อเราไม่ต้องการให้เทคโนโลยี มาแทนที่หรือบีบคั้นให้เราต้องเปลี่ยนแปลง จึงมีคำถามขึ้นมาว่าจะดีกว่าไหม หากผู้ประกอบการหรือนักบริหารองค์กร จะมาเรียนรู้พร้อมปรับกรอบความคิด วางกลยุทธ์ธุรกิจเพื่อก้าวไปสู่ Digital Transformation ซึ่งหมายถึง การเปลี่ยนแปลงธุรกิจเป็นองค์กรดิจิทัล(Digital Enterprise) เพื่อนำประโยชน์จากดิจิทัลเทคโนโลยี เช่น AI, Blockchain, 3D Printing ที่ไม่ใช่แค่เครื่องมือแต่เป็นยุทธศาสตร์สมัยใหม่ที่จะช่วยให้ธุรกิจสร้างความเติบโตครั้งใหม่ได้ ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิทัลนั้น ไม่ได้มีแต่ในเฉพาะองค์กรเอกชนขนาดใหญ่เท่านั้น หากแต่ยังมีการใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในระดับประเทศ หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์กรขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)
Digital Transformation คือ บทสรุปของการขับเคลื่อนองค์กรในยุคปัจจุบัน ที่ไม่ใช่แค่เรื่องการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที หรือการนำเทคโนโลยีมาใช้ในองค์กรเท่านั้น แต่เป็นการเปลี่ยนวิธีคิดของผู้บริหารอย่างมีกลยุทธ์อย่างถึงแก่น เริ่มจากรากของธุรกิจ ด้วยการ Transform รูปแบบธุรกิจจากเดิมสู่ Digital Business ในยุคดิจิทัล เป็นการคิดใหม่ในทุกมิติ โดยการมีส่วนร่วมจากทุกคนในองค์กรรวมถึงผู้นำองค์กรด้วยเช่นกัน
นายธนพงศ์พรรณ ธัญญรัตตกุลกล่าวว่า “เมื่อการดำเนินธุรกิจเริ่มมีปัญหา เพราะดิจิทัลเข้ามามีบทบาทมากขึ้น การทำ Digital Transformation จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถพลิกเกมได้ในกระแสแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ ดังนั้น ผู้บริหารหรือเจ้าของธุรกิจหลายท่านอาจมีความสงสัยว่า ที่ผ่านมา ธุรกิจก็เคยทำ Digital Marketing หรือมีการลงทุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแล้ว แต่ผลลัพธ์ที่ได้ในปัจจุบันกลับไม่ประสบความสำเร็จเหมือนเช่นเคย ซึ่งสาเหตุสำคัญล้วนมาจากวิธีคิดและความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องของผู้บริหารและพนักงานในองค์กร”
“ผู้บริหารหลายๆ องค์กรถามผมว่า “ทำไมต้องเปลี่ยนเป็นดิจิทัล” ผมกล้าพูดได้เลยว่าหากไม่เปลี่ยน “บริษัทเจ๊งแน่นอน”เพราะหลายๆ สิ่งเปลี่ยนแปลงไปทั้งบริบทการแข่งขันและพฤติกรรมผู้บริโภค ยกตัวอย่างเช่น สมัยก่อนแต่ละเดือนเราจ่ายเงินค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์มือถือเป็นค่า Voice ผ่านทางเคาร์เตอร์เซอร์วิส ปัจจุบันเราจ่ายเป็นค่าบริการ Data ผ่านทางช่องทางออนไลน์หรือโมบายแอพพลิเคชั่นโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมในการชำระเงินเหมือนแต่ก่อน ซึ่งในอนาคตเราอาจจะเปลี่ยนเป็นการจ่ายเป็นค่าใช้บริการเครือข่ายระบบIoT (Internet of Things) ในการใช้บริการเพื่อเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตทุกสรรพสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา ซึ่ง IoTก็เป็นหนึ่งในดิจิทัลเทคโนโลยีในยุค Industry 4.0ดังนั้น การทำ Digital Transformation ไม่ใช่เป็นเพียงเครื่องมือทางการตลาด แต่จะเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการทำธุรกิจ
ในเมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน การตลาดก็ต้องเปลี่ยนตาม ผู้บริหาร นักการตลาด และผู้ประกอบการต้องสร้างประสบการณ์กับผู้บริโภค ให้เกิดการซื้อ ซื้อซ้ำและบอกต่อ ดังนั้น การปรับตัวเท่านั้นถึงอยู่รอด และต้องไม่เพียงแค่การทำการบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลง (Change Management) ซึ่งเป็นแค่ส่วนหนึ่งของการทำ Digital Transformation เท่านั้น แต่ต้องทำ Digital Transformation คือการเปลี่ยนกลยุทธ์ธุรกิจทั้งหมด รวมถึง mindset หรือวิธีคิดของผู้นำในการทำธุรกิจอีกด้วย
สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ ผู้บริหารและผู้ประกอบการต้องรู้ก่อนว่าปัจจุบันมีดิจิทัลเทคโนโลยีอะไรบ้าง และเทคโนโลยีอะไรที่เหมาะสมกับธุรกิจของเรา ให้หยิบเอาตัวนั้นมาปรับใช้เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันครั้งใหม่ให้กับธุรกิจของเรา และศึกษาการแข่งขันให้ชัดเจน ต้องรู้เข้าใจด้วยว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปในทางทิศทางไหน และที่สำคัญคือการเปลี่ยนทัศนคติ วิธีคิด วิถีและวัฒนธรรมการทำงาน ของผู้บริหารและพนักงานให้ปรับตัวรู้เท่าทันสิ่งเปลี่ยนที่กำลังจะเกิดขึ้น”
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.การดี เลียวไพโรจน์ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาธุรกิจ กล่าวว่า “ภาพรวมของยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ผู้บริโภคไม่เพียงแต่จะใช้สินค้าที่มีคุณภาพดี สินค้าที่ถูกและเร็วแต่เพียงเท่านั้น แต่ในยุค 4.0 ผู้บริโภคเปลี่ยนไป ธุรกิจหรือสินค้าตัวไหนที่ซื้อขายง่าย และใกล้ตัว ธุรกิจนั้นย่อมได้เปรียบมากกว่า นั้นก็หมายความว่า การปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ธุรกิจจำเป็นต้อง Digital Transformation
ในปี 2019 เป็นต้นไปให้จับตามอง ธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีผลประกอบการมาก กำลังจะโดน Disrupt ที่ไม่ใช่คู่แข่ง แต่เป็นธุรกิจอื่นๆ ที่เข้ามาเป็นคู่แข่งทางอ้อม ทำให้คู่แข่งที่แท้จริงกลับกลายมาเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ ซึ่งสวนทางกับการทำธุรกิจแบบสมัยก่อนอย่างแน่นอน”
คุณวรุตม์ กฐินทองนักบริหาร นักธุรกิจรุ่นใหม่ กล่าวว่า “จากประสบการณ์ตรงของการทำธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ ต้องยอมรับเลยว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปจริงๆ จากเดิมที่ลูกค้าดูข้อมูลผ่านหน้าร้าน แต่ในปัจจุบันผู้บริโภคสามารถศึกษาหาข้อมูลผ่านออนไลน์ ซึ่งใครที่ปรับตัวได้ทัน ก็ได้เปรียบกว่าแน่นอน เรื่องของดิจิทัจทำให้ธุรกิจของเรามีความสามารถในการแข่งขันมากกว่าธุรกิจที่ยังไม่ปรับ จึงใช้ดิจิทัลมาเป็นส่วนหนึ่งในการบริหารทุกส่วนของการบริหารองค์กร ซึ่งถ้าใครไม่เปลี่ยนก็จะมีต้นทุนทั้งในแง่ของเวลา เงิน และคน ก็จะมากกว่าผู้อื่น และทำให้เสียเปรียบทางธุรกิจและการตลาดอย่างแน่นนอน”
นายธนพงศ์พรรณ ธัญญรัตตกุลกล่าวเพิ่มเติมว่า “หนังสือ เปลี่ยนธุรกิจในยุคดิจิทัลStep by Step Digital Transformation In Action” เล่มนี้ ผู้อ่านจะได้เห็นและเข้าใจการแข่งขันในแต่ละอุตสาหกรรมที่ไม่เหมือนเดิม และได้ทราบว่าดิจิทัลเทคโนโลยีอะไรที่จะเข้ามามีบทบาทและเปลี่ยนรูปแบบในการแข่งขัน และส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างไรอีกด้วยในขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการเองก็ต้องตระหนักว่า ธุรกิจของเราจะถูกเทคโนโลยีบังคับให้เปลี่ยนแปลงหรือจะเป็นผู้ก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างโอกาสครั้งใหม่ในยุคดิจิทัล สำหรับผู้บริหารหรือเจ้าของธุรกิจไม่ว่าจะอยู่ในธุรกิจขนาดกลาง ขนาดเล็ก หรือขนาดใหญ่ ในทุกอุตสาหกรรม ในทุกช่วงของวงจรธุรกิจ เมื่อพร้อมที่จะปรับธุรกิจเพื่อการเปลี่ยนแปลงให้ก้าวทันตามโลกแล้ว ย่อมประสบความสำเร็จครั้งใหม่อย่างแน่นอน”
หนังสือ เปลี่ยนธุรกิจในยุคดิจิทัลStep by Step Digital Transformation In Action จึงเป็นดั่งคู่มือของธุรกิจยุคใหม่ที่ผู้บริหารและผู้ประกอบการจะได้มีโอกาสเรียนรู้จากกรณีศึกษาที่เกิดขึ้นจริง และเตรียมความพร้อมสู่การเปลี่ยนแปลงของธุรกิจในยุคดิจิทัลให้ดียิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้บริหารและเจ้าของธุรกิจ ทั้งขนาดเล็กไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่ ราคา 295 บาท วางจำหน่ายที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ