คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
1. เจ็บแปล๊บๆ ไม่ใช่อาการ หัวใจขาดเลือด
2. เรียนแพทย์หนักจริง แต่คนที่เรียนส่วนใหญ่ ยิ่งสมัยก่อนหนักกว่านี้ เค้าก็ผ่านมาได้
3. อย่าแค่คิด ต้องสอบได้ด้วย .....ไม่ยาก แต่ไม่ง่าย นี่คือปัญหาใหญ่สุดของการจะเรียนแพทย์ สมัยก่อน
ถามใจก่อนว่า อยากเป็นหมอเพราะอะไร
หมอปัจจุบัน ถ้าไม่ทำงานรัฐบาล ก็ไม่ต่างจาก ลูกจ้างนายทุนนั่นเอง
ต้องทำรายได้ให้ถึงระดับนึง ของ guaruntee ไม่งั้นอาจอยู่ได้ไม่นาน
มีข้อบังคับมากมาย มันไม่ใช่อาชีพอิสระ เหมือนสมัย รุ่น40ปีก่อนแล้วนะครับ
ดามพันธ์ นิลายน ( neurologist ) ศิริราช 98
2. เรียนแพทย์หนักจริง แต่คนที่เรียนส่วนใหญ่ ยิ่งสมัยก่อนหนักกว่านี้ เค้าก็ผ่านมาได้
3. อย่าแค่คิด ต้องสอบได้ด้วย .....ไม่ยาก แต่ไม่ง่าย นี่คือปัญหาใหญ่สุดของการจะเรียนแพทย์ สมัยก่อน
ถามใจก่อนว่า อยากเป็นหมอเพราะอะไร
หมอปัจจุบัน ถ้าไม่ทำงานรัฐบาล ก็ไม่ต่างจาก ลูกจ้างนายทุนนั่นเอง
ต้องทำรายได้ให้ถึงระดับนึง ของ guaruntee ไม่งั้นอาจอยู่ได้ไม่นาน
มีข้อบังคับมากมาย มันไม่ใช่อาชีพอิสระ เหมือนสมัย รุ่น40ปีก่อนแล้วนะครับ
ดามพันธ์ นิลายน ( neurologist ) ศิริราช 98
แสดงความคิดเห็น
ตัดสินว่าจะเลือกเรียนแพทย์ดีมั้ย
ที่นี้ปัญหาของเราคือคุณปู่ของเราท่านเสียด้วยโรคที่เกี่ยวกับหัวใจ และคุณพ่อของเราเองก็เสียด้วยโรคหัวใจเฉียบพลัน เนื่องจากทำงานกะกลางคืน ส่วนตอนกลางวันมีเรียน ท่านเสียตั้งแต่อายุสามสิบปลายๆ เป็นคนชอบทานผัก เหล้าไม่กินบุหรี่ไม่สูบ แต่คุณลุงกับคุณอาผู้หญิงของเรา ที่บางวันก็เข้ากะกลางคืน หรือทำงานดึกเพราะลูกค้าเร่งออร์เดอร์ ก็ยังมีชีวิตยู่ดี ส่วนเรา ถ้าวันไหนที่ต้องทำงาน การบ้าน หรือรายงานจนถึงตี1 ตี2 ระหว่างคืนนั้นที่นั่งทำงานอยู่ก็จะมีอาการแปล๊บ เเล่นขึ้นมาแถวๆหน้าอกด้านซ้าย
เราอยากถามผู้รู้ว่า แบบนี้เข้าข่ายภาวะโรคหัวใจมั้ย. เราเคยได้ยินมาบ้าง ซึ่งไม่รู้ว่าถูกต้องหรือไม่ ว่านิสิตแพทย์พอขึ้นปี5 ปี6 ก็เรียกได้ว่าไม่ต้องนอนเลย เพราะต้องอยู่เวร การบ้านก็ต้องทำ ไหนจะรายงาน หนังสือก็ต้องอ่าน. เรากลัวว่าถ้าแค่เรานอนตี1-2แล้วยังแปล๊บขึ้นมาแบบนี้ ช่วงปี5-6จะไหวจริงๆหรอ แล้วอาการหรือโรคทำนองนี้สามารถส่งต่อทางพันธุกรรมได้หรือไม่ จะได้ตัดใจไปเลือกอย่างอื่น ไม่ต้องลุ้นว่าวันไหนตัวเองจะลุกขึ้นมาจากเตียงไม่ได้อีก