เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อปลายเดือน สิงหาคม 2561 ที่ผ่านมา ผมทำรายการเพื่อชำระค่าบัตรเครดิตธนาคารไทยพาณิชย์ผ่านระบบ K PLUS ของธนาคารกสิกรไทย แต่มีเรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับการชำระเงินรายการนี้ ผมจึงต้องการยกเลิกรายการนี้
เมื่อติดต่อ Call Center ของธนาคารกสิกรไทย ก็ได้รับคำแนะนำว่า สามารถดำเนินการยื่นเรื่องพร้อมทั้งเอกสารได้ที่ธนาคารกสิกรไทยสาขาที่สะดวก ผมจึงเลือกไปทำรายการ ที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาปากซอยทองหล่อ 19 เจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องของผม ก็ขอหลักฐานการทำรายการ เป็นสลิ๊ปที่ทำรายการผ่านแอ็พ K PLUS หน้าสมุดบัญชีเงินฝากที่ผูกกับแอพ K PLUS และ บัตรประชาชน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ก็มีคำร้องที่เอามาให้ผมเซ็นชื่อ หลังจากเจ้าหน้าที่รับเอกสารไปเรียบร้อยก็แจ้งว่า ธนาคารจะต้องใช้เวลาดำเนินการประมาณ 2 สัปดาห์ ผมก็คิดว่าเรื่องน่าจะจบ เหลือแค่รอเวลาให้ธนาคารตรวจสอบเท่านั้น
แต่การรอของผมก็เป็นการรอที่เริ่มสูญเปล่า เพราะหลังจากวันที่ผมติดต่อส่งเอกสารและหลักฐานทั้งหมดไป ประมาณหนึ่งสัปดาห์ ก็มีคอลเซนเตอร์จากธนาคารกสิกรไทย โทรมาหาผม แจ้งผมว่าเอกสารที่ผมเซ็นนั้นผิด (อ้าวก็เจ้าหน้าที่เป็นคนยื่นมาให้ผมเซ็นเอง ผมจะรู้ได้ยังไงว่ามันไม่ใช่) สรุป ผมต้องกลับไปที่ธนาคากสิกรไทยสาขาทองหล่อ 19 เพื่อเปลี่ยนเอกสารที่ใช้ยืนเพื่อขอเงินคืนใหม่ ผมก็คิดว่าเรื่องน่าจะจบ...
แต่แล้วหลังจากยืนเอกสารใหม่เข้าไปประมาณสองสัปดาห์ คอลเซนเตอร์ จากธนาคารก็โทรมาหาผม เพื่อถามถึงเอกสารใหม่ที่ผมไปยื่นใหม่ว่า ทำไมยังไม่ได้ส่งมา ผมก็โมโหซิครับ ก็ผมทำตามที่คอลเซนเตอร์ติดต่อมา แล้วจะมาบอกว่าผมไม่ได้ส่งเอกสารได้ยังไง (ในใจก็นึกโกรธขึ้นมาทันทีว่า ต้องเป็นเพราะธนาคารกสิกรไทยสาขาที่ไปติดต่อไม่ส่งเอกสารให้ผมแน่ๆ) ว่าแล้วเย็นวันนั้นก็รีบไปที่ธนาคารสาขานั้น เจ้าหน้าที่ก็เหมือนรู้ว่า ผมมาตามเรื่อง เจ้าหน้าที่ก็ได้พิมพ์รายการอีเมล์ที่ส่งเอกสารของผมไปที่คอลเซนเตอร์ออกมาให้ผมดู ก็เลยกลายเป็นว่า ธนาคารสาขาที่ผมไปติดต่อไม่ผิด แต่ผิดที่ระบบส่งข้อมูลเกิดผิดพลาดอะไรก็ไม่รู้ (และไม่สามารถ หาคนรับผิดได้) หลังจากนั้นผม ก็โทรไปตามเรื่องที่คอลเซนเตอร์ เจ้าหน้าที่ที่รับสายบอกว่า เพิ่งได้รับเอกสาร ตอนนี้ธนาคารกำลังประสานงานเร่งด่วนให้เป็นกรณีพิเศษขอให้ผมรอก่อน
ตั่งแต่วันแรกถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาประมาณ 1 เดือน ผ่านไป โดยไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดเลยว่าจะยังไงต่อ คำตอบที่ได้คือธนาคารกำลังเร่งตรวจสอบให้
ประมาณ วันที่ 45 ผมก็ติดต่อไปที่คอลเซนเตอร์ของธนาคารกสิกรไทยอีก คำตอบที่ได้ก็คือ ธนาคารกำลังเร่งดำเนินการให้อยู่ ผมก็เลยหมดความอดทนแล้ว เพราะเชื่อว่าถ้าติดต่อผ่านคอลเซนเตอร์ก็คงไม่ได้อะไรคืบหน้าขึ้นมา ผมก็เลยถามว่าในระบบการขอเงินคืน เนื่องจากยกเลิกรายการชำระเงิน เรื่องจะส่งไปที่ไหน เจ้าหน้าที่ก็ไม่ตอบ (อาจจะไม่มีข้อมูล) ผมก็เลยถามว่าถ้าธนาคารคุณไม่รู้ แล้วธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นธนาคารที่รับเงินจากผมไปหละ ผมจะไปตามเรื่องได้ที่ไหน คำตอบที่ได้คือ ไม่ทราบคะ ลองโทรสอบคอลเซนเตอร์ของธนาคารไทยพาณิชย์ดูนะ
เมื่อสิ้นหวังกับคอลเซนเตอร์ของธนาคารกสิกรไทย การเริ่มหาข้อมูลเพิ่มจากธนาคารไทยพาณิชย์ก็เริ่มขึ้น แต่คำตอบที่ได้รับก็แย่พอๆกัน กับคำถามเดิมที่ว่า จะติดต่อหน่วยงานทีรับผิดชอบเกี่ยวกับการคืนเงินได้ที่ไหน? เจ้าหน้าที่คอลเซนเตอร์ของธนาคารไทยพาณิชย์ ก็ตอบว่าไม่ทราบค่ะ แล้วก็บอกว่า คุณต้องกลับไปถามธนาคารกสิกรไทยว่า ยื่นเรื่องไปที่ไหนเอง คอลเซนเตอร์ไม่มีข้อมูล ฟังแล้วก็โมโห รู้สึกว่า เหมือนธนาคารสองธนาคารโยนงานกับไป มา โดยที่ผม เป็นคนกลางกำลังเดือดร้อนอยู่แต่ไม่มีใครเร่งแก้ปัญหาให้ เอาจริงๆนะ ข้อมูลทุกอย่างมันมีอยู่ในระบบหมด ทั้งวัน เวลา จำนวนเงิน เลขบัญชี ถ้าคุณแค่กดดูในระบบ คุณก็รู้อยู่แล้ว ความจริงการติดต่อระหว่างธนาคาร ถ้าคุณจะบอกว่าต้องส่งเมล์ถาม ผมว่าอย่างช้า หนึ่งถึงสองวัน ก็ต้องได้คำตอบอยู่แล้ว
เมื่อประมาณวันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม 2561 ก็มีเจ้าหน้าที่จากธนาคารกสิกรไทย โทรมาหาผม บอกว่าเจ้าหน้าที่ของธนาคารไทยพาณิชย์จะคุยด้วย ผมก็บอกว่าไม่ต้องคุย เรื่องมันไม่มีอะไรเลย เอกสารผมก็ส่งไปหมดแล้ว คุณจะคุยอะไรอีก ที่สำคัญตอนนี้เวลาก็ผ่านไปกว่า 2 เดือนแล้ว เงินก็ยังไม่ได้คืน จะให้ผมเล่าเรื่องนี้ใหม่อีกสักกี่ครั้ง???
สุดท้ายผมเชื่อว่า ปัญหาของผม น่าจะยังไม่มีคนทำอะไร เพราะถ้าทำอะไรให้จริงๆ ไม่น่าจะต้องใช้เวลานานขนาดนี้ เมื่อวันศุกร์ ที่ 26 ตุลาคม 2561 ผมก็โทรเข้าไปตามที่คอลเซนเตอร์ของธนาคารกสิกรไทย คำตอบที่ได้ก็ยังเหมือนเดิมคือ ตอนนี้เรากำลังเร่งประสานเรื่องนี้ให้อยู่ และส่งเรื่องไปที่ธนาคารไทยพาณิชย์แล้ว ถ้าธนาคารไทยพาณิชย์ดำเนินการตรวจสอบเรียบร้อยก็จะโอนเงินคืนมาให้
สุดท้ายก็คงต้องรออีกต่อไป โดยไม่มีอะไรเป็นหลักประกันว่า เมื่อไหร่เงินจะได้คืน ก็ขอให้เรื่องของผมเป็นบทเรียนให้กับทุกคนนะครับ ดังคำกล่าวที่ว่า เวลาเราเอาเงินไปฝาก หรือ ไปจ่ายให้ธนาคาร ธนาคารรับอย่างรวดเร็ว แต่พอถึงเวลาที่เราจะเอาเงินจากธนาคารคืนมานั้นยากและช้ามาก....
ธนาคารกสิกรไทยทำไมใช้เวลาตามเรื่องของเงินคืนของผมนานจัง 2 เดือนผ่านไป ยังไม่ได้ข้อสรุป!!!
เมื่อติดต่อ Call Center ของธนาคารกสิกรไทย ก็ได้รับคำแนะนำว่า สามารถดำเนินการยื่นเรื่องพร้อมทั้งเอกสารได้ที่ธนาคารกสิกรไทยสาขาที่สะดวก ผมจึงเลือกไปทำรายการ ที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาปากซอยทองหล่อ 19 เจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องของผม ก็ขอหลักฐานการทำรายการ เป็นสลิ๊ปที่ทำรายการผ่านแอ็พ K PLUS หน้าสมุดบัญชีเงินฝากที่ผูกกับแอพ K PLUS และ บัตรประชาชน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ก็มีคำร้องที่เอามาให้ผมเซ็นชื่อ หลังจากเจ้าหน้าที่รับเอกสารไปเรียบร้อยก็แจ้งว่า ธนาคารจะต้องใช้เวลาดำเนินการประมาณ 2 สัปดาห์ ผมก็คิดว่าเรื่องน่าจะจบ เหลือแค่รอเวลาให้ธนาคารตรวจสอบเท่านั้น
แต่การรอของผมก็เป็นการรอที่เริ่มสูญเปล่า เพราะหลังจากวันที่ผมติดต่อส่งเอกสารและหลักฐานทั้งหมดไป ประมาณหนึ่งสัปดาห์ ก็มีคอลเซนเตอร์จากธนาคารกสิกรไทย โทรมาหาผม แจ้งผมว่าเอกสารที่ผมเซ็นนั้นผิด (อ้าวก็เจ้าหน้าที่เป็นคนยื่นมาให้ผมเซ็นเอง ผมจะรู้ได้ยังไงว่ามันไม่ใช่) สรุป ผมต้องกลับไปที่ธนาคากสิกรไทยสาขาทองหล่อ 19 เพื่อเปลี่ยนเอกสารที่ใช้ยืนเพื่อขอเงินคืนใหม่ ผมก็คิดว่าเรื่องน่าจะจบ...
แต่แล้วหลังจากยืนเอกสารใหม่เข้าไปประมาณสองสัปดาห์ คอลเซนเตอร์ จากธนาคารก็โทรมาหาผม เพื่อถามถึงเอกสารใหม่ที่ผมไปยื่นใหม่ว่า ทำไมยังไม่ได้ส่งมา ผมก็โมโหซิครับ ก็ผมทำตามที่คอลเซนเตอร์ติดต่อมา แล้วจะมาบอกว่าผมไม่ได้ส่งเอกสารได้ยังไง (ในใจก็นึกโกรธขึ้นมาทันทีว่า ต้องเป็นเพราะธนาคารกสิกรไทยสาขาที่ไปติดต่อไม่ส่งเอกสารให้ผมแน่ๆ) ว่าแล้วเย็นวันนั้นก็รีบไปที่ธนาคารสาขานั้น เจ้าหน้าที่ก็เหมือนรู้ว่า ผมมาตามเรื่อง เจ้าหน้าที่ก็ได้พิมพ์รายการอีเมล์ที่ส่งเอกสารของผมไปที่คอลเซนเตอร์ออกมาให้ผมดู ก็เลยกลายเป็นว่า ธนาคารสาขาที่ผมไปติดต่อไม่ผิด แต่ผิดที่ระบบส่งข้อมูลเกิดผิดพลาดอะไรก็ไม่รู้ (และไม่สามารถ หาคนรับผิดได้) หลังจากนั้นผม ก็โทรไปตามเรื่องที่คอลเซนเตอร์ เจ้าหน้าที่ที่รับสายบอกว่า เพิ่งได้รับเอกสาร ตอนนี้ธนาคารกำลังประสานงานเร่งด่วนให้เป็นกรณีพิเศษขอให้ผมรอก่อน
ตั่งแต่วันแรกถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาประมาณ 1 เดือน ผ่านไป โดยไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดเลยว่าจะยังไงต่อ คำตอบที่ได้คือธนาคารกำลังเร่งตรวจสอบให้
ประมาณ วันที่ 45 ผมก็ติดต่อไปที่คอลเซนเตอร์ของธนาคารกสิกรไทยอีก คำตอบที่ได้ก็คือ ธนาคารกำลังเร่งดำเนินการให้อยู่ ผมก็เลยหมดความอดทนแล้ว เพราะเชื่อว่าถ้าติดต่อผ่านคอลเซนเตอร์ก็คงไม่ได้อะไรคืบหน้าขึ้นมา ผมก็เลยถามว่าในระบบการขอเงินคืน เนื่องจากยกเลิกรายการชำระเงิน เรื่องจะส่งไปที่ไหน เจ้าหน้าที่ก็ไม่ตอบ (อาจจะไม่มีข้อมูล) ผมก็เลยถามว่าถ้าธนาคารคุณไม่รู้ แล้วธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นธนาคารที่รับเงินจากผมไปหละ ผมจะไปตามเรื่องได้ที่ไหน คำตอบที่ได้คือ ไม่ทราบคะ ลองโทรสอบคอลเซนเตอร์ของธนาคารไทยพาณิชย์ดูนะ
เมื่อสิ้นหวังกับคอลเซนเตอร์ของธนาคารกสิกรไทย การเริ่มหาข้อมูลเพิ่มจากธนาคารไทยพาณิชย์ก็เริ่มขึ้น แต่คำตอบที่ได้รับก็แย่พอๆกัน กับคำถามเดิมที่ว่า จะติดต่อหน่วยงานทีรับผิดชอบเกี่ยวกับการคืนเงินได้ที่ไหน? เจ้าหน้าที่คอลเซนเตอร์ของธนาคารไทยพาณิชย์ ก็ตอบว่าไม่ทราบค่ะ แล้วก็บอกว่า คุณต้องกลับไปถามธนาคารกสิกรไทยว่า ยื่นเรื่องไปที่ไหนเอง คอลเซนเตอร์ไม่มีข้อมูล ฟังแล้วก็โมโห รู้สึกว่า เหมือนธนาคารสองธนาคารโยนงานกับไป มา โดยที่ผม เป็นคนกลางกำลังเดือดร้อนอยู่แต่ไม่มีใครเร่งแก้ปัญหาให้ เอาจริงๆนะ ข้อมูลทุกอย่างมันมีอยู่ในระบบหมด ทั้งวัน เวลา จำนวนเงิน เลขบัญชี ถ้าคุณแค่กดดูในระบบ คุณก็รู้อยู่แล้ว ความจริงการติดต่อระหว่างธนาคาร ถ้าคุณจะบอกว่าต้องส่งเมล์ถาม ผมว่าอย่างช้า หนึ่งถึงสองวัน ก็ต้องได้คำตอบอยู่แล้ว
เมื่อประมาณวันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม 2561 ก็มีเจ้าหน้าที่จากธนาคารกสิกรไทย โทรมาหาผม บอกว่าเจ้าหน้าที่ของธนาคารไทยพาณิชย์จะคุยด้วย ผมก็บอกว่าไม่ต้องคุย เรื่องมันไม่มีอะไรเลย เอกสารผมก็ส่งไปหมดแล้ว คุณจะคุยอะไรอีก ที่สำคัญตอนนี้เวลาก็ผ่านไปกว่า 2 เดือนแล้ว เงินก็ยังไม่ได้คืน จะให้ผมเล่าเรื่องนี้ใหม่อีกสักกี่ครั้ง???
สุดท้ายผมเชื่อว่า ปัญหาของผม น่าจะยังไม่มีคนทำอะไร เพราะถ้าทำอะไรให้จริงๆ ไม่น่าจะต้องใช้เวลานานขนาดนี้ เมื่อวันศุกร์ ที่ 26 ตุลาคม 2561 ผมก็โทรเข้าไปตามที่คอลเซนเตอร์ของธนาคารกสิกรไทย คำตอบที่ได้ก็ยังเหมือนเดิมคือ ตอนนี้เรากำลังเร่งประสานเรื่องนี้ให้อยู่ และส่งเรื่องไปที่ธนาคารไทยพาณิชย์แล้ว ถ้าธนาคารไทยพาณิชย์ดำเนินการตรวจสอบเรียบร้อยก็จะโอนเงินคืนมาให้
สุดท้ายก็คงต้องรออีกต่อไป โดยไม่มีอะไรเป็นหลักประกันว่า เมื่อไหร่เงินจะได้คืน ก็ขอให้เรื่องของผมเป็นบทเรียนให้กับทุกคนนะครับ ดังคำกล่าวที่ว่า เวลาเราเอาเงินไปฝาก หรือ ไปจ่ายให้ธนาคาร ธนาคารรับอย่างรวดเร็ว แต่พอถึงเวลาที่เราจะเอาเงินจากธนาคารคืนมานั้นยากและช้ามาก....