เหตุผลของการเดินทาง…เพราะคนรักของเราอยู่ที่นั่น!

“หม่าม้าตั้งใจไว้ว่า ก่อนจันทร์ 2 ขวบ ต้องจัดทริปไปหาคุณยายที่ SA ให้ได้ เพราะถ้าหลุดช่วงอายุนี้ไป ต้องจ่ายค่าตั๋วให้หนูเต็มราคาเท่ากับพี่ใส”
สายการบินสำหรับทริปนี้ หม่าม้าเลือก Egypt Air เพราะราคาน่าคบประมาณ 2 หมื่นนิดๆ ที่ถูกอาจเพราะจองล่วงหน้ากว่า 8 เดือน ซึ่งข้อดีของสายการบินนี้มีเยอะอยู่นะ โดยเฉพาะบริการพิเศษที่มอบให้กับ transit passengers

•    Hotel accommodation สำหรับผู้โดยสารที่รอ transit นานเกิน 6 ชั่วโมง
•    อาหาร 3 มื้อ during we stay at the hotel
•    รถรับส่ง to & from the hotel
•    ไม่ต้องเตรียมใบรับรองการฉีดวัคซีนไข้เหลือง (Yellow fever vaccine) เพราะอียิปต์ไม่ได้อยู่ในลิสต์ดินแดนไข้เหลือง แต่ถ้าบินไปต่อเครื่องที่ Nairobi เกิน 12 ชั่วโมง จำเป็นต้องมีใบรับรองนะคะ เพราะ Kenya อยู่ในลิสต์ Countries are required to undergo health control
หมายเหตุ : หม่าม้าสอบถามข้อมูลต่างๆ โดยตรงกับ Traffic Officer ของอียิปต์แอร์ ที่อีเมลนี้  stationcallcenter@egyptair.com
(เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเพียง 1 วันในการตอบอีเมล ข้อมูลที่ได้รับชัดเจนและครอบคลุมทุกข้อสงสัย…ความเอาใจใส่ของเจ้าหน้าที่ทำให้พวกเราอุ่นใจและสบายใจมากเลยเนอะเด็กๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่ประจำออฟฟิศอียิปต์แอร์ในเมืองไทย เจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์สายการบินอียิปต์แอร์ สนามบินสุวรรณภูมิด้วยเช่นกัน ประทับใจมากค่ะ)

Giza เมืองคั่นเวลา…ที่น่าจดจำ
ข้อดีอีกอย่างของ Egypt Air คือมีบริษัททัวร์ภายใต้การดูแลของรัฐบาลอียิปต์เตรียมไว้บริการในชื่อ Karnak เหมาะสำหรับ transit passengers ที่รอต่อเครื่องนานๆ มีทัวร์ให้เลือกหลายแบบ หม่าม้าเลือกแบบ Quick Tours  : Pyramids, Sphinx and Egyptian Museum ราคา 55 USD / คน ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง…ราคานี้รวม Guidance in English , Entrance fees & trip transportation.

การเดินทางจากโรงแรมไปเมือง Giza ไกลเอาเรื่องเลย…จากที่เคยวางแผนว่าจะใช้เวลาเที่ยวให้คุ้มกับที่ยอมบินอ้อมมาต่อเครื่องที่ Cairo (จริงๆ บินไปต่อที่ Addis Ababa หรือ Nairobi  จะใกล้ Johannesburg มากกว่าเยอะ)
ความเหนื่อยล้า บวกกับอากาศร้อนๆ ตอนบ่ายๆ มีผลกระทบต่อจิตใจของพวกเรามาก สมาชิกแต่ละคนไม่อยากลงจากรถ (จะมีก็แต่คุณตากี้ผู้รักการท่องเที่ยวแบบ aventure ไม่กลัวร้อน ไม่กลัวเหนื่อย ยอมทุกอย่างเพื่อให้ได้ภาพสวยๆ)
แต่อย่างว่าเสียงข้างมากย่อมชนะเสมอ   เราใช้เวลาเที่ยวน้อยกว่าที่กำหนด รีบถ่าย รีบกลับไม่ได้ซึมซับความอลังการของมหาพีระมิดแห่งกีซาเท่าที่ควร
<<ถ้าในอนาคตพวกหนูอยากไปเยือนอียิปต์อีกครั้ง หม่าม้าขอร้องให้ไปเมืองอื่นบ้างนะ เพราะ Cairo ในความทรงจำของหม่าม้าค่อนข้างติดลบ ข้างทางเต็มไปด้วยขยะ บนถนนเต็มไปด้วยรถและคนขับที่ไร้ระเบียบ ขับกันตามอำเภอใจมากๆ เสียงแตรดังตลอดเส้นทาง พฤติกรรมและสิ่งแวดล้อมเหล่านั้นยิ่งทำให้บ้านเมืองของพวกเขาดูแข็งกระด้าง ไร้สีสัน และเสื่อมโทรมเป็น 2 เท่า>>
ลองไปเมืองอื่นดูนะ และเลือกช่วงฤดูหนาว…สิ่งเหล่านั้นอาจทำให้ “อียิปต์น่ารักขึ้น”

ว่าแต่ไกด์ของเราคงโกรธหม่าม้าแน่ๆ เพราะไม่ได้ให้ทิป ที่ไม่ได้ให้ไม่ใช่เพราะงกนะ แต่หม่าม้าไม่แน่ใจว่าควรให้ดีหรือเปล่า ก่อนหน้าที่ตกลงซื้อทัวร์ หม่าม้าถามกับเจ้าหน้าที่ว่า “ต้องให้ทิปกับไกด์เท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่ต้องให้ก็ได้เพราะรวมอยู่ในค่าทัวร์แล้ว” หม่าม้าไม่ผิดใช่ไหม?
จากโรงแรมกลับสู่ Cairo Airport เพื่อเตรียมบินต่อ
เมื่อเที่ยวเสร็จพวกเรากลับมาพักผ่อนกันที่โรงแรมอีก 5-6 ชั่วโมง อาบน้ำ กินข้าวเย็น เตรียมแพ็คกระเป๋าเพื่อ Next flight…รถบัสของโรงแรมจะพาเรากลับไปส่งที่สนามบิน
เมื่อถึงให้ขึ้นไปชั้น 2 เดินไปทางขวามือเพื่อหาเคาน์เตอร์ Customer Service ของอียิปต์แอร์ ยื่นเอกสารสีเหลืองที่เราใช้แทนพาสปอร์ตคืนให้กับเจ้าหน้าที่ แล้วเขาจะคืนพาสปอร์ตตัวจริงพร้อมกับตั๋วเครื่องบินมาให้เรา (เช็คเอกสารทุกอย่างให้เรียบร้อย เล่มต้องถูก ตั๋วต้องมีครบ ไม่มีอะไรขาดหาย)

พอได้ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ให้เดินย้อนกลับไปทางด้านซ้ายมือ ในกรณีที่ต่อเครื่องเราไม่จำเป็นต้องรอตรวจเอกสารที่ด้านต.ม. เหมือนคนอื่นแต่จะใช้ช่องซ้ายสุดแทน เดินตรงไปเรื่อยๆ จะเจอเจ้าหน้าที่ 1 ท่าน ยืนรอตรวจเอกสารโดยใช้เวลาเพียง 1 นาที ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก

วิธีติดต่อขอโรงแรมและซื้อทัวร์
จำได้ไหม…เมื่อพวกเราลงจากเครื่องหม่าม้าพาพวกหนูเดินตามป้าย Connecting Flights มาเรื่อยๆ จนเจอป้ายออฟฟิศของ Karnak รีบตรงเข้าไปส่องก่อนเลยว่ามีเจ้าหน้าที่อยู่หรือไม่ ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่อยู่ให้เดินเลยไปทางซ้ายมือเพื่อทำ Hotel accommodation ก่อน เพราะเป็นพนักงานกลุ่มเดียวกัน

แต่ถ้ามีเจ้าหน้าที่ประจำจุด หนูแค่แจ้งรายละเอียดการจอง (อ้างอิงจากอีเมล) ระหว่างนั้นเขาจะสอบถามเวลาที่เราอยากเริ่มทัวร์ ซึ่งแม่เลือก 10 โมง…เมื่อสรุปทุกอย่างลงตัว “จ่ายเงินโลด แล้วเจ้าหน้าที่จะให้ใบเสร็จรับเงิน” เก็บไว้ดีๆ นะ เพราะต้องใช้แสดงกับคนขับรถตอนมารับเราที่โรงแรม

ส่วนขั้นตอนการขอ Hotel accommodation
ไม่สามารถทำล่วงหน้าได้ เลยต้องมาลุ้นกันหน้าด่าน… เคาน์เตอร์ Hotel accommodation Service จะอยู่เลยจากเคาน์เตอร์ของ Karnak ไปทางด้านซ้ายมือ เดินตรงไปนิดเดียวก็เจอแล้ว พอถึงให้ยื่นพาสปอร์ตของทุกคนให้เจ้าหน้าที่ พร้อมกับแจ้งว่าเราเป็นผู้โดยสารรอต่อเครื่องนานเกิน 6 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่จะยึดเอาพาสปอร์ตและตั๋วเครื่องบิน เพื่อใช้ทำวีซ่าเข้าประเทศให้ฟรี โดยจะให้เอกสารทางราชการสีเหลืองไว้ใช้แทนพาสปอร์ตในช่วงเวลาสั้นๆ ที่เราใช้ชีวิตอยู่ในอียิปต์ (ไม่เกิน 24 ชั่วโมง)

เจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการทำแต่ละขั้นตอนรวมๆ แล้วประมาณ 2-3 ชั่วโมง (แล้วแต่ปริมาณผู้โดยสารที่ขอรับบริการ) ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นนะคะ ส่วนโรงแรมก็แล้วแต่เจ้าหน้าที่จะจัดสรรให้ “ขาไปเราได้พัก Hilton Cairo Heliopolis Hotel ส่วนขากลับได้ Novotel Cairo Airport”

<<ที่พักขาไปหม่าม้าให้คะแนน 90/100 โรงแรมสะอาด อาหารอร่อย บรรยากาศดี วิวถ่ายรูปเยอะ ห้องพักสวยหรู ใกล้ๆ โรงแรมเดินเล่นหรือหาซื้อของกินได้ง่ายๆ ไม่ไกลมาก>>
<<ส่วนที่พักขากลับให้ 50/100 เพราะห้องพักดูเก่าและเหม็นบุหรี่มาก  เคาน์เตอร์ Reception เล็กไม่สมส่วนกับจำนวนแขก อาหารไม่ค่อยถูกปากแต่ก็พอกินได้>>

แต่อย่างว่านะคะ ที่พักฟรีถึงไม่ดีก็เลี่ยงยาก!

ย้อนเหตุการณ์ BKK – CAIRO : เกือบไม่ได้ขึ้นเครื่อง
เรา 3 คน เกือบไม่ได้ไปหาคุณยายซะแล้ว เพราะไม่ได้ขอเอกสารใบเกิดของพวกหนูเป็น English version มาด้วย หม่าม้าคิดว่าใช้แค่ copy เวอร์ชันภาษาไทยน่าจะโอเคแล้ว…แต่เจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่าประเทศในแถบทวีปแอฟริกามีปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์ ทำให้ต้องเข้มงวดการตรวจเอกสารต่างๆ ของผู้โดยสารที่เดินทางพร้อมเด็กหรือทารกเป็นพิเศษ…เราใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง เพื่อรอการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ทางฝั่ง JNB และฝั่ง Cairo ว่าอนุมัติให้เดินทางได้ ทว่าสุดท้ายคนที่อนุมัติให้พวกเราคือ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสายการบินอียิปต์ประจำภาคพื้นในวันนั้น (เขามองเอกสารสลับกับมองหน้าพวกเราเพียงไม่กี่นาทีก็อนุมัติให้เดินทางได้)  

ขอบคุณแทนพี่ใสและน้องจันทร์ด้วยนะคะ…ความรักชนะทุกสิ่ง!
>> ใบเกิดฉบับภาษาอังกฤษ สามารถแจ้งขอได้ที่สำนักงานเขตใกล้บ้าน…เดี๋ยวแม่ไปขอเผื่อไว้สำหรับทริปหน้าดีกว่าเนอะ!

เช็คพฤติกรรมของเด็กๆ บนเครื่อง
•    การเดินทางไกลครั้งแรกของจันทร์ฉัตร น้องทำคะแนนได้ดีมากเลยค่ะ มาม๊าให้ 80/100 เพราะหนูแทบจะไม่ร้องงอแงเลย กินอิ่ม นอนหลับ อาจเพราะเครื่องใหญ่ ผู้โดยสายไม่แน่นจนเกินไป ไร้กลิ่นไม่พึงประสงค์ กัปตันบินนำเครื่องขึ้นลงนิ่มมาก หลับกันตลอดทาง
•    ส่วนพี่ใสใสบินบ่อยแล้ว เลยสอนน้องให้รัดเข็มขัด กดทีวีดูเองได้ ที่ฟินสุดๆ คือ ได้รับอนุญาตจากหม่าม้าให้ดูดนิ้วสลับกับกินขวดนม เพราะกลัวพวกหนูปวดหู สรุปคือใสใสได้ 70/100 น้อยกว่าน้อง
•    คะแนนมารยาท : 70/100  มาม๊าขอหักคะแนนเพราะเวลาตื่นลูกๆ ชอบแย่งกันนั่งตักแม่ บางครั้งเผลอเอาขาไปยันเบาะด้านหน้า แม่เกรงใจพี่เขามาก...หากหนูโตเป็นผู้ใหญ่อย่าเผลอไปว่าเด็กๆ ที่ทำพฤติกรรมแบบนี้นะเพราะครั้งหนึ่งหนูก็เคยกระทำมัน)

EP.หน้า…หม่าม้าจะมาเล่าถึงความสวยงามของ Johannesburg และ Cape Town ให้ฟังนะคะ

EP.2 มาแล้วค่ะ https://ppantip.com/topic/38219642