หนีเที่ยวทะเลกัน..
ทริปนี้เกิดขึ้นได้ ต้องขอขอบคุณเพื่อนชาวไต้หวันของเราที่อยากเที่ยวทะเล
เพราะว่าเราเป็นมนุษย์ที่ชอบเที่ยวภูเขา 555+
เพื่อนเราตกใจ บอกว่า เฮ้ย! ประเทศเอ็งทะเลสวยมาก ทำไมถึงไม่ชอบไป
เราแบบ ทะเลมันเค็มอะ เลยไม่ชอบ (O.o)
เราบินไปถึงระนองเวลา 4.00 น. ไปรับรถเช่า Avis กว่าจะรับรถเช่าเสร็จก็เย็นแล้ว เราเลยไปหาของกิน
เลยให้เพื่อนไต้หวันเลือก ว่าเราจะไปร้านไหนดี
เพื่อนบอกหิวมาก กินวัวได้ทั้งตัว ขอเลือกบุฟเฟ่ต์ละกัน 555+
พวกเราเลย ขับรถวนไป วนมา หาร้านบุฟเฟ่ต์ ตกลงว่าเป็นร้าน 'Yam Yen Shabu & Grill' เพราะคนเยอะมาก เลยคิดว่าร้านนี้ต้องเด็ดแน่
ด้วยความที่เราหิวมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก ก.ไก่ล้านตัว เลยไม่ได้ถ่ายรูปร้านให้ดู ได้แต่ถ่ายรูปอาหาร(แล้วถ่ายแบบไม่สวย)มาได้นิดหน่อย ต้องขอโทษด้วย (จะแก้ตัวด้วยทริปที่เหลือ)
ราคามื้อนี้ 199 บาท อิ่มพุงกาง กลิ้งกลับโรงแรมกันไปเลยค่ะ
อ่า! พูดถึงรสชาติ ก็กลางๆค่ะ
ทานอื่มแล้วเราก็เดินทางเข้าโรงแรม 2 คืนแรกเราพักที่บ้านในหมง
โรงแรมท่ามกลางธรรมชาติมากๆ
นี่คือห้องนอนของเรา อิอิ ข้างในก็เป็นเตียง 2 ชั้น เป็นห้องพัดลม
มีเตียงเสริมให้ถ้ามา 3 คน
คืนนี้เรามีแขกมาเยี่ยมที่บ้านพักด้วยยยย น่ารักมั้ยย น้องหมาของเจ้าของเอง
พาไปดูรอบๆที่พักตอนเช้าค่ะ ต้นไม้เยอะมากๆ ไม่เปิดแอร์ก็ไม่ร้อนค่ะ
ทางที่พักมีที่แช่น้ำอุ่นให้เช่าด้วยนะคะ แต่ต้องจองก่อนล่วงหน้า ราคาประมาณ 500 บาทค่ะ
เดินถ่ายรูปรอบๆเรียบร้อย อาหารเช้าของเราก็มาถึงพอดีค่ะ
ต้องบอกเลยว่าอาหารเช้าที่นี่คือสุดแล้ว อร่อยมาก
มีสลัด ผลไม้ ข้าวต้ม ซาลาเปาชื่อดังของระนอง.. ซาลาเปาทับหลีคนละ 2 ลูกใหญ่
ทานหมดนี่คืออิ่มต่อจากมื้อกลางคืนอะค่ะ 555+
เรานั่งเล่นลำธารที่โรงแรมสักพัก พอสายๆก็ออกมาเที่ยวในตัวเมือง
ที่แรกที่เราไปเยือน คือ จวนเจ้าเมืองระนอง เป็นจวนของเจ้าเมืองระนองคนแรก คือ พระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี หรือท่านคอซูเจียง
สถานที่นี้เป็นแหล่งโบราณสถานที่สำคัญของระนอง ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนโบราญสถาน
นอกจากนี้ภายในจวนเจ้าเมืองระนองยังเป็นบ้านพักอาศัยของลูกหลานในสกุล ณ ระนอง หลายครอบครัว
บ้านพักส่วนหนึ่งได้รับการบูรณะปรังปรุงเป็นอาคารชั้นเดียวเพื่อใช้เป็นศาลบรรพบุรุษและใช้ประกอบพิธีสักการะบูชาป้ายบรรพบุรุษตามประเพณี
เดินชม และซึมซับประวัติศาสตร์เป็นที่เรียบร้อย เราก็ขับออกนอกเมืองไป 'ร้านคุ้นลิ้นกาแฟสด'
ไปนั่งดิ่มกาแฟ แช่เท้ากันเพลินๆ ร้านนี้บรรยากาศดี ท่ามกลางหมู่มวลแมกไม้เขียวขจี ภูเขาโอบล้อม
คุ้นลิ้นกาแฟสด หากเดินทางจากตัวเมืองระนองร้านจะตั้งอยู่ก่อนถึงน้ำตกปุญญบาล แต่ถ้าเดินทางมาจากชุมพรเข้าสู่จังหวัดระนองจะเจอน้ำตกก่อน
สังเกตง่ายๆ คือ จะเห็นรถสองแถวสีชมพูจอดอยู่หน้าร้านค่ะ เป็นรถท้องถิ่นของระนอง
(ค่อยๆขับนะคะ ระวังเลย เพราะว่าเราขับเลยมาแล้ว (-..-))
คือถ้าใครเป็นคอกาแฟที่แท้ทรูก็ไปร้านอื่นค่ะ เราสั่งลาเต้แทบร้องไห้ ไม่อร่อยเลย
แต่เพื่อนเราสั่งพวกน้ำหวาน นมสดปั่น พวกนางบอกว่าโอเค
สำหรับเรา เราประทับใจบรรยากาศนะ ชิวดีอะ
แช่เท้าไป เม้าท์ไป ดูเวลาอีกที เอ้า!บ่ายโมงกว่าไปแล้ว ถึงเวลาทานอาหารกลางวัน 555+
จะบอกว่าร้านอาหารมื้อกลางวันนี้ จะทานร้านดังร้านไหนปิดหมด โชคดีสุดๆค่ะ
เลยมาทานร้านติ่มซำชื่อดังของระนอง ชื่อร้าน 'ระนองโอชา'
เพื่อนค่อนข้างเบ้ปาก บอกเบื่อติ่มซำชิหาเลย กูกินบ่อยมาก 555+ เราเลยบอกแหลกๆไปวนหาร้านอื่นเสียเวลาค่ะ
เรา 3 คนมาถึงช้า ร้านใกล้จะปิดแล้ว เลยมีให้เลือกอยู่เท่านี้แหละค่ะ หร่องไห้ให้กับมื้อกลางวันเบาๆ
แต่ไม่เป็นไร เมื่อทานของคาวไม่อิ่ม เพื่อนไต้หวันเราขอไปจัดของหวานต่อที่ร้าน 'โรตีบางละมุน'
เมนูที่เราสั่งก็มีมะม่วงปั่นใส่นม น้ำมะม่วงปั่น โรตีกล้วย และโรตีกรอบ
ผญ.ไปกัน 3 คน สั่งเหมือนทีมฟุตบอลเพิ่งเตะบอลเสร็จ อิ่มขึ้นมาถึงคอหอยเลย ห้าๆๆ
ตอนแรกไม่คิดว่าจะเยอะ แต่พออิ่มแล้วเออ เยอะว่ะ
โอเค เมื่อกองทัพเติมของกินลงท้องเป็นที่เรียบร้อยเราก็เดินทางเที่ยวกันต่อที่น้ำตกหงาว
คือกว่าจะไปถึงก็ 4 โมงเย็นไปละ เป็นมนุษย์กลุ่มสุดท้ายที่เหลือที่น้ำตก (ไม่นับรวมเจ้าหน้าที่)
ทางเดินไปดูน้ำตกผีจะหลอกสุดๆ เพราะว่าเย็นแล้ว
เดินสักเกือบๆ 10 นาที ก็ถึงน้ำตก พอมาถึงก็โอเคกลับ มาเดินเล่นชมธรรมชาติ
แต่ถ้าใครสนใจจะเล่นน้ำก็ได้นะ แต่มาเร็วหน่อยก็ดี ไม่งั้นหลอน
เมื่อเราชมน้ำตกเสร็จ เราต้องไปต่อที่ภูเขา ณ วัดบ้านหงาว
ขึ้นไปดูพระอาทิตย์บนจุดชมวิว กว่าจะเดินขึ้นไปถึงเล่นเอาอาหารที่ทานมาย่อยหมดเลย
ดูจากพื้นดิน เหมือนไม่สูงเท่าไรใช่มั้ยคะ ลองไปเดินดูค่ะ
ปีนขึ้นมาแล้วจะเจอระฆัง ตีเพื่อความเป็นสิริมงคลค่ะ
ระฆังดี ต้องตีถึงจะดังค่ะ ;)
มีพระพุทธรูปหนึ่งองค์อยู่บนยอดเขาด้วย
เจอวิวนี้เข้าไป หายเหนื่อยค่ะ สวยมาก
มองไปไกลๆ จะเห็นทะเลอยู่ไกลโน้นนนนนนนน
พอชมพระอาทิตย์ตกกันอย่างอิ่มหนำสำราญ ยุงก็มาไล่ที่ทันที
เราเลยต้องกลับละ ยังไม่อยากบริจาคเลือดเวลานี้
อาหารค่ำมื้อนี้เราไปทานกันที่ร้าน 'Mango Kitchen'
เพราะว่าเพื่อนสาวชาวระนอง นัดเราที่นี่
เค้าบอกว่าร้านนี้เป็นร้านรับแขก ไม่รู้อันนี้โม้หรือเปล่า
เราสั่งอาหารมา 5 อย่าง พร้อมนำเสนอมากๆค่ะ เพราะว่ารสชาติดี
เมนูแรก ทอดมันจุ้ง เอ้ย กุ้ง
รสชาติดี เนื้อกุ้งแน่น น้ำมันไม่เยิ้ม กรอบนอก นุ่มแน่นข้างใน
เมนูที่สอง เนื้อปลาทอดน้ำปลา
ดีอีกแล้วววววว ไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มยังอร่อยเลย รสชาติไม่เค็มไป พอดีๆ
เมนูที่สาม กุ้งซอสมะขาม ไฮไลท์ของมื้อนี้ และเป็นเมนูที่เราสั่งเอง ฮิฮิ
พอทานคำแรก น้ำตาแทบไหล อร่อยมากกกกก คือกุ้งมันสดแล้วก็เนื้อแน่นมากอะ
ซอสมะขามที่ราดมาก็ไม่เปรี้ยวหรือหวานไป มันดีจริมๆ
เมนูที่สี่ ใบเหลียงผัดไข่
ใบเหลียง เพื่อนบอกว่ามีแต่ระนองนะจ๊ะ
เมนูนี้เราไม่อินเท่าไร เพราะไม่ชอบทานผักอะ
เมนูสุดท้าย แกงส้มกุ้ง
เมนูนี้สนองความต้องการเพื่อนต่างชาติของเรา เพราะว่าเมนูที่ผ่านมาไม่มีจานไหนเผ็ดเลย
เพื่อนเราเลยสั่งอันนี้ให้ พร้อมกำชับว่าขอเผ็ดๆนะคะพี่
ทานเข้าไปเพื่อนเราบอกอื้อหือ อร่อยถูกใจ ทานไปอีก 3-4 คำ แทบร้องเจี๊ยก เพราะว่าเผ็ด
แต่นางก็ไม่หยุดจ้ะ เพราะว่านางชอบอาหารไทยเผ็ดๆ
มื้อนี้สนนราคาอยู่ที่ 1045 บาท รวมน้ำเปล่าและข้าว 1 โถ สำหรับ 4 นาง
เมื่อเม้าท์แตกกันที่ร้านเรียบร้อย เราก็กลับโรงแรมค่ะ
วันนี้เราเปลี่ยนจากห้องนอนมาเป็นนอนเต็นท์
[CR] หนีเที่ยว ระนอง + สุราษฎร์ธานี \(~..~)/
ทริปนี้เกิดขึ้นได้ ต้องขอขอบคุณเพื่อนชาวไต้หวันของเราที่อยากเที่ยวทะเล
เพราะว่าเราเป็นมนุษย์ที่ชอบเที่ยวภูเขา 555+
เพื่อนเราตกใจ บอกว่า เฮ้ย! ประเทศเอ็งทะเลสวยมาก ทำไมถึงไม่ชอบไป
เราแบบ ทะเลมันเค็มอะ เลยไม่ชอบ (O.o)
เราบินไปถึงระนองเวลา 4.00 น. ไปรับรถเช่า Avis กว่าจะรับรถเช่าเสร็จก็เย็นแล้ว เราเลยไปหาของกิน
เลยให้เพื่อนไต้หวันเลือก ว่าเราจะไปร้านไหนดี
เพื่อนบอกหิวมาก กินวัวได้ทั้งตัว ขอเลือกบุฟเฟ่ต์ละกัน 555+
พวกเราเลย ขับรถวนไป วนมา หาร้านบุฟเฟ่ต์ ตกลงว่าเป็นร้าน 'Yam Yen Shabu & Grill' เพราะคนเยอะมาก เลยคิดว่าร้านนี้ต้องเด็ดแน่
ด้วยความที่เราหิวมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก ก.ไก่ล้านตัว เลยไม่ได้ถ่ายรูปร้านให้ดู ได้แต่ถ่ายรูปอาหาร(แล้วถ่ายแบบไม่สวย)มาได้นิดหน่อย ต้องขอโทษด้วย (จะแก้ตัวด้วยทริปที่เหลือ)
ราคามื้อนี้ 199 บาท อิ่มพุงกาง กลิ้งกลับโรงแรมกันไปเลยค่ะ
อ่า! พูดถึงรสชาติ ก็กลางๆค่ะ
ทานอื่มแล้วเราก็เดินทางเข้าโรงแรม 2 คืนแรกเราพักที่บ้านในหมง
โรงแรมท่ามกลางธรรมชาติมากๆ
นี่คือห้องนอนของเรา อิอิ ข้างในก็เป็นเตียง 2 ชั้น เป็นห้องพัดลม
มีเตียงเสริมให้ถ้ามา 3 คน
คืนนี้เรามีแขกมาเยี่ยมที่บ้านพักด้วยยยย น่ารักมั้ยย น้องหมาของเจ้าของเอง
พาไปดูรอบๆที่พักตอนเช้าค่ะ ต้นไม้เยอะมากๆ ไม่เปิดแอร์ก็ไม่ร้อนค่ะ
ทางที่พักมีที่แช่น้ำอุ่นให้เช่าด้วยนะคะ แต่ต้องจองก่อนล่วงหน้า ราคาประมาณ 500 บาทค่ะ
เดินถ่ายรูปรอบๆเรียบร้อย อาหารเช้าของเราก็มาถึงพอดีค่ะ
ต้องบอกเลยว่าอาหารเช้าที่นี่คือสุดแล้ว อร่อยมาก
มีสลัด ผลไม้ ข้าวต้ม ซาลาเปาชื่อดังของระนอง.. ซาลาเปาทับหลีคนละ 2 ลูกใหญ่
ทานหมดนี่คืออิ่มต่อจากมื้อกลางคืนอะค่ะ 555+
เรานั่งเล่นลำธารที่โรงแรมสักพัก พอสายๆก็ออกมาเที่ยวในตัวเมือง
ที่แรกที่เราไปเยือน คือ จวนเจ้าเมืองระนอง เป็นจวนของเจ้าเมืองระนองคนแรก คือ พระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี หรือท่านคอซูเจียง
สถานที่นี้เป็นแหล่งโบราณสถานที่สำคัญของระนอง ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนโบราญสถาน
นอกจากนี้ภายในจวนเจ้าเมืองระนองยังเป็นบ้านพักอาศัยของลูกหลานในสกุล ณ ระนอง หลายครอบครัว
บ้านพักส่วนหนึ่งได้รับการบูรณะปรังปรุงเป็นอาคารชั้นเดียวเพื่อใช้เป็นศาลบรรพบุรุษและใช้ประกอบพิธีสักการะบูชาป้ายบรรพบุรุษตามประเพณี
เดินชม และซึมซับประวัติศาสตร์เป็นที่เรียบร้อย เราก็ขับออกนอกเมืองไป 'ร้านคุ้นลิ้นกาแฟสด'
ไปนั่งดิ่มกาแฟ แช่เท้ากันเพลินๆ ร้านนี้บรรยากาศดี ท่ามกลางหมู่มวลแมกไม้เขียวขจี ภูเขาโอบล้อม
คุ้นลิ้นกาแฟสด หากเดินทางจากตัวเมืองระนองร้านจะตั้งอยู่ก่อนถึงน้ำตกปุญญบาล แต่ถ้าเดินทางมาจากชุมพรเข้าสู่จังหวัดระนองจะเจอน้ำตกก่อน
สังเกตง่ายๆ คือ จะเห็นรถสองแถวสีชมพูจอดอยู่หน้าร้านค่ะ เป็นรถท้องถิ่นของระนอง
(ค่อยๆขับนะคะ ระวังเลย เพราะว่าเราขับเลยมาแล้ว (-..-))
คือถ้าใครเป็นคอกาแฟที่แท้ทรูก็ไปร้านอื่นค่ะ เราสั่งลาเต้แทบร้องไห้ ไม่อร่อยเลย
แต่เพื่อนเราสั่งพวกน้ำหวาน นมสดปั่น พวกนางบอกว่าโอเค
สำหรับเรา เราประทับใจบรรยากาศนะ ชิวดีอะ
แช่เท้าไป เม้าท์ไป ดูเวลาอีกที เอ้า!บ่ายโมงกว่าไปแล้ว ถึงเวลาทานอาหารกลางวัน 555+
จะบอกว่าร้านอาหารมื้อกลางวันนี้ จะทานร้านดังร้านไหนปิดหมด โชคดีสุดๆค่ะ
เลยมาทานร้านติ่มซำชื่อดังของระนอง ชื่อร้าน 'ระนองโอชา'
เพื่อนค่อนข้างเบ้ปาก บอกเบื่อติ่มซำชิหาเลย กูกินบ่อยมาก 555+ เราเลยบอกแหลกๆไปวนหาร้านอื่นเสียเวลาค่ะ
เรา 3 คนมาถึงช้า ร้านใกล้จะปิดแล้ว เลยมีให้เลือกอยู่เท่านี้แหละค่ะ หร่องไห้ให้กับมื้อกลางวันเบาๆ
แต่ไม่เป็นไร เมื่อทานของคาวไม่อิ่ม เพื่อนไต้หวันเราขอไปจัดของหวานต่อที่ร้าน 'โรตีบางละมุน'
เมนูที่เราสั่งก็มีมะม่วงปั่นใส่นม น้ำมะม่วงปั่น โรตีกล้วย และโรตีกรอบ
ผญ.ไปกัน 3 คน สั่งเหมือนทีมฟุตบอลเพิ่งเตะบอลเสร็จ อิ่มขึ้นมาถึงคอหอยเลย ห้าๆๆ
ตอนแรกไม่คิดว่าจะเยอะ แต่พออิ่มแล้วเออ เยอะว่ะ
โอเค เมื่อกองทัพเติมของกินลงท้องเป็นที่เรียบร้อยเราก็เดินทางเที่ยวกันต่อที่น้ำตกหงาว
คือกว่าจะไปถึงก็ 4 โมงเย็นไปละ เป็นมนุษย์กลุ่มสุดท้ายที่เหลือที่น้ำตก (ไม่นับรวมเจ้าหน้าที่)
ทางเดินไปดูน้ำตกผีจะหลอกสุดๆ เพราะว่าเย็นแล้ว
เดินสักเกือบๆ 10 นาที ก็ถึงน้ำตก พอมาถึงก็โอเคกลับ มาเดินเล่นชมธรรมชาติ
แต่ถ้าใครสนใจจะเล่นน้ำก็ได้นะ แต่มาเร็วหน่อยก็ดี ไม่งั้นหลอน
เมื่อเราชมน้ำตกเสร็จ เราต้องไปต่อที่ภูเขา ณ วัดบ้านหงาว
ขึ้นไปดูพระอาทิตย์บนจุดชมวิว กว่าจะเดินขึ้นไปถึงเล่นเอาอาหารที่ทานมาย่อยหมดเลย
ดูจากพื้นดิน เหมือนไม่สูงเท่าไรใช่มั้ยคะ ลองไปเดินดูค่ะ
ปีนขึ้นมาแล้วจะเจอระฆัง ตีเพื่อความเป็นสิริมงคลค่ะ
ระฆังดี ต้องตีถึงจะดังค่ะ ;)
มีพระพุทธรูปหนึ่งองค์อยู่บนยอดเขาด้วย
เจอวิวนี้เข้าไป หายเหนื่อยค่ะ สวยมาก
มองไปไกลๆ จะเห็นทะเลอยู่ไกลโน้นนนนนนนน
พอชมพระอาทิตย์ตกกันอย่างอิ่มหนำสำราญ ยุงก็มาไล่ที่ทันที
เราเลยต้องกลับละ ยังไม่อยากบริจาคเลือดเวลานี้
อาหารค่ำมื้อนี้เราไปทานกันที่ร้าน 'Mango Kitchen'
เพราะว่าเพื่อนสาวชาวระนอง นัดเราที่นี่
เค้าบอกว่าร้านนี้เป็นร้านรับแขก ไม่รู้อันนี้โม้หรือเปล่า
เราสั่งอาหารมา 5 อย่าง พร้อมนำเสนอมากๆค่ะ เพราะว่ารสชาติดี
เมนูแรก ทอดมันจุ้ง เอ้ย กุ้ง
รสชาติดี เนื้อกุ้งแน่น น้ำมันไม่เยิ้ม กรอบนอก นุ่มแน่นข้างใน
เมนูที่สอง เนื้อปลาทอดน้ำปลา
ดีอีกแล้วววววว ไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มยังอร่อยเลย รสชาติไม่เค็มไป พอดีๆ
เมนูที่สาม กุ้งซอสมะขาม ไฮไลท์ของมื้อนี้ และเป็นเมนูที่เราสั่งเอง ฮิฮิ
พอทานคำแรก น้ำตาแทบไหล อร่อยมากกกกก คือกุ้งมันสดแล้วก็เนื้อแน่นมากอะ
ซอสมะขามที่ราดมาก็ไม่เปรี้ยวหรือหวานไป มันดีจริมๆ
เมนูที่สี่ ใบเหลียงผัดไข่
ใบเหลียง เพื่อนบอกว่ามีแต่ระนองนะจ๊ะ
เมนูนี้เราไม่อินเท่าไร เพราะไม่ชอบทานผักอะ
เมนูสุดท้าย แกงส้มกุ้ง
เมนูนี้สนองความต้องการเพื่อนต่างชาติของเรา เพราะว่าเมนูที่ผ่านมาไม่มีจานไหนเผ็ดเลย
เพื่อนเราเลยสั่งอันนี้ให้ พร้อมกำชับว่าขอเผ็ดๆนะคะพี่
ทานเข้าไปเพื่อนเราบอกอื้อหือ อร่อยถูกใจ ทานไปอีก 3-4 คำ แทบร้องเจี๊ยก เพราะว่าเผ็ด
แต่นางก็ไม่หยุดจ้ะ เพราะว่านางชอบอาหารไทยเผ็ดๆ
มื้อนี้สนนราคาอยู่ที่ 1045 บาท รวมน้ำเปล่าและข้าว 1 โถ สำหรับ 4 นาง
เมื่อเม้าท์แตกกันที่ร้านเรียบร้อย เราก็กลับโรงแรมค่ะ
วันนี้เราเปลี่ยนจากห้องนอนมาเป็นนอนเต็นท์