ปัญหาสังคม ทั้งเรื่องความปลอดภัย การทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ ส่วนใหญ่แล้วผู้หญิงจะเสี่ยงและถูกกระทำมากกว่าผู้ชาย
มีกลุ่มแม่ชีเล็งเห็นถึงปัญหานี้จึงร่วมกันแต่งตั้งโรงเรียนนี้ขึ้นมาเพื่อมวลมนุษยชาติผู้หญิงเพศผู้อ่อนแอ

โรงเรียนธรรมจารินีวิทยาเป็นโรงเรียนต้นแบบที่จัดการศึกษาตามแนววิถีพุทธ...จะไม่พุทธได้ยังไงคะ ก็แม่ชีเป็นผู้จัดตั้งและดูแล แถมยังตั้งอยู่ในสถาบันแม่ชีไทยอีกต่างหาก แบบนี้เป็นพุทธเน้น ๆ เลย โรงเรียนอยู่ที่จังหวัดราชบุรีค่ะ
ผู้ก่อตั้งสถาบันแม่ชีไทยและโรงเรียนธรรมจารินีวิทยาคือ คุณแม่ชีประทิน ขวัญอ่อน ‘เด็ก ๆ จะเรียกว่าคุณแม่’
คุณแม่บวชมานานมากและตลอดเวลาก็ทำงานเพื่อผู้หญิงและเด็กที่ประสบปัญหามาตลอดค่ะ และนั่นทำให้ท่านพบว่าปัญหาเด็กและเยาวชนผู้หญิงที่ถูกกดขี่ ทำร้ายร่างกาย คุกคามทางเพศ ท้องก่อนแต่ง มีลูกไม่พร้อม ติดยาเสพติด ครอบครัวมีปัญหาไม่มีเงินจนออกจากเรียนต้องทำงานก่อนวัยอันควร ท่านจึงคิดสร้างที่ที่ผู้หญิงจะอยู่ได้อย่างรู้สึกสบายใจ ปลอดภัยและสามารถเรียนรู้ทุกอย่างทั้งทักษะการเรียนและการใช้ชีวิต รวมถึงได้รับการเยียวยาให้ผู้หญิงที่พบเจอปัญหาได้เห็นคุณค่าของตัวเอง เห็นคุณค่าของชีวิตผู้อื่น สิ่งที่ท่านพึงหวังคือให้ผู้หญิงเหล่านี้มีชีวิตที่มีความสุขและแบ่งปัน หรืออย่างน้อยก็ให้ความสุขนั้นเกิดขึ้นในใจของตัวเขา
จากนั้นก็...บู้มมมมม โรงเรียนธรรมจารินีวิทยาก่อตั้งขึ้น ณ.สถาบันแม่ชีไทย จังหวัดราชบุรี ภายใต้ความดูแลของคุณแม่ชีประทินและแม่ชีอีกหลายท่านที่ตั้งใจช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่
ที่สำคัญ โรงเรียนนี้ ได้รับประทานพระกรุณาให้อยู่ในความอุปถัมภ์พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ


แม่ชีอรรณอำไพ ภาสศักดิ์ชัย เป็นผู้จัดการและผู้อำนวยการของโรงเรียน เป็นอีกท่านที่อยู่มาตั้งแต่สมัยที่สถาบันและโรงเรียนก่อตั้ง

โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนวิถีพุทธหญิงล้วนที่สำคัญเป็นโรงเรียนกินนอน มีท่านแม่ชีหลายท่านช่วยดูแล บุคลากรก็เป็นครูผู้หญิง(ไม่รู้ว่าตอนนี้มีครูผู้ชายไหม แต่ว่าแต่ก่อนไม่มี) ทุกอย่างเน้นผู้หญิงเพื่อมาดูแลเด็กผู้หญิงและมาอยู่กับท่านแม่ชี อย่างน้อยก็ตัดปัญหาเรื่องผู้ชายไปได้เลยอย่างหนึ่ง

เด็กที่รับก็รับตั้งแต่เด็กเลยค่ะ ตั้งแต่ประถมปีที่ 1 จนถึงมัธยมปีที่ 6 (ที่จริงก็รับเด็กกว่านี้นะคะ แต่ถึงอย่างนั้นก็คงจะลำบากท่านแม่ชีมากที่มาดูแลเด็กทารกหรือเด็กที่ยังสอนให้ดูแลตัวเองไม่ได้ จึงขอให้เลี่ยงดีกว่า ถึงแม้ว่าจะไปฝากฝังให้ดูแลท่านคงจะรับก็ตาม)

โรงเรียนธรรมจารินีมีเนิร์สเซอรี่ด้วยนะคะ มีเพียงแค่เนิร์สเซอรี่เท่านั้นที่รับเด็กผู้ชาย แต่จะเป็นไป-กลับที่บ้าน แต่หากเป็นเด็กผู้หญิงสามารถอยู่ที่โรงเรียนได้เลยค่ะ



สำหรับการมาเรียนโรงเรียนนี้ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายนะคะ เรียนฟรีอยู่ฟรี แค่ทำตามกฏค่ะ กฏอาจจะเคร่งครัดหน่อยเพราะต้องใช้ชีวิตอยู่กับผู้ทรงศีล และทางโรงเรียนก็เน้นที่จะสอนเด็กให้มีระเบียบวินัยในชีวิต แต่หากมีกำลังจ่ายก็จ่ายหรือจ่ายตามกำลังก็ได้ค่ะ เพราะค่าใช้จ่ายที่ทางสถาบันรับผิดชอบก็สูงมากเหมือนกัน

ชีวิตในโรงเรียน...เด็ก ๆ (เว้นแต่เด็กเล็ก)ต้องตื่นเช้าพร้อมกับท่านแม่ชีที่ต้องออกไปบิณทบาต ในช่วงที่แม่ชีท่านบิณทบาตตามกิจ เด็ก ๆ ก็จะออกกำลังกายตอนเช้าก่อนจะแยกย้ายไปทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย งานก็ทำความสะอาด บางคนก็ไปช่วยแม่ครัวทำอาหาร บางคนก็ไปเก็บผัก เก็บเห็ด ก็แล้วแต่หน้าที่ที่จะได้รับค่ะ หลังจากนั้นก็ไปอาบน้ำ กินข้าว และไปเรียนตามเวลาปกติแบบนักเรียนทั่วไป แต่ที่ดีกว่าคือ เด็กจะต้องสวดมนต์ไหว้พระนั่งสมาธิเช้าเย็นทุกวันค่ะและทุกวันพระจะถือศีล 8 วันปกติถือศีล 5 ตามวิถีพุทธ

เด็กนักเรียนโรงเรียนนี้จะมีมารยาทเพราะแม่ชีและครูจะเน้นเรื่องนี้พอสมควร รับรองว่าถ้าได้ไปเรียนเด็ก ๆ กลับมาน่ารัก รู้การรู้งาน รู้หน้าที่ มีวินัยแน่นอนค่ะ



ท่านแม่ชี ครูและเด็กโรงเรียนนี้จะสนิทผูกพันกันมากเป็นพิเศษค่ะ เพราะเด็กอยู่กับท่านแม่ชีและครูแทบจะตลอดเวลา เจอกันตั้งแต่ตื่นจนนอน ท่านแม่ชีและครูจะทำหน้าที่แทนพ่อแม่ทุกอย่างค่ะ








เด็กโรงเรียนนี้เน้นการเรียนมากนะคะ แต่ก็เน้นเรื่องความรู้ทางด้านเกษตรเพื่อที่จะให้เด็กมีอาชีพติดตัวไปด้วย ส่วนผลผลิตที่เด็ก ๆ ทำทุกวันจะนำมาหารายได้และทำอาหารเพื่อเพิ่มรายได้และลดค่าใช้จ่ายของสถาบัน


สำหรับคุณสมบัติที่จะรับเข้าเรียน ขอแค่คุณเป็นผู้หญิงก็รับเข้าเรียนค่ะ จะท้อง จะไม่มีเงิน จะมีปัญหาอะไรก็ตาม ถ้ารักที่จะเรียนและรักชีวิตที่อยากจะให้ดีขึ้นโดยที่ไม่อยากกังวลกับอะไรก็เข้าเรียนได้
หรือ....อันนี้ขอเน้นนะคะ พ่อแม่คนไหนที่ควบคุมลูกผู้หญิงไม่อยู่ คิดว่ารับมือไม่ไหวแล้ว หากปล่อยไว้แย่แน่นอน ส่งไปเรียนที่นี่เลยค่ะ โรงเรียนนี้จะขัดเกลาลูกคุณเอง รับรองเลยว่าไม่มีการทรมานทรกรรม แต่เด็กจะปรับสภาพตัวเองให้เข้ากับสังคม อยู่กับแม่ชีจะทำอะไรก็กลัวบาปและถ้าเด็กนักเรียนคนอื่นส่วนใหญ่ทำตามกฏ เด็กก็จะไหลไปตามน้ำเพื่อที่จะอยู่ร่วมกับคนอื่นให้ได้
#ถ้าเราอธิบายไม่เข้าใจก็ขอเอาสถานการณ์มาเปรียบเทียบ เช่น เวลาเราเข้าห้องสมุด เราจะเงียบตามบรรยากาศและกฏ คนเราจะรู้สึกสงบทันทีและจะไหลไปตามสภาพ ต่อให้กลุ่มคนเสียงดังแค่ไหน เข้าห้องสมุดเสียงก็เบาลง

เด็ก ๆ จะได้กลับบ้าน ตอนปิดเทอมหรือวันสำคัญ แต่ในทางกลับกันพ่อแม่หรือผู้ปกครองสามารถไปหาได้ตลอด (แต่ก็ไม่ควรไปหาวันจันทร์ - ศุกร์ ดีกว่าเพราะเป็นวันเรียนของเด็ก ๆ)
แต่ก่อนไม่ให้พกโทรศัพท์ ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าให้เด็กพกได้ไหม (ข้อมูลไม่อัพเดต อิอิ ขอประทานโทษคร้าาาาา)


เด็กบางคนก็ผมสั้นเพราะโรงเรียนนี้สามารถบวชเป็นแม่ชีเรียนได้ จึงมีเด็กที่สึกออกมาจากการบวชค่ะ

http://www.buddhistgirl.org/about.php
ใครอยากหาข้อมูลเพิ่มเติมก็ค้นหาได้เลยค่ะ เข้าไปที่หน้าเว็บหรือเฟซบุ๊กของโรงเรียนก็ได้ค่ะ

อันนี้เป็นสิ่งที่เราอยากนำเสนอเอง...ใครสนใจจะสนับสนุนโรงเรียน หรือบริจาค เลี้ยงอาหารเด็ก ๆ  ก็สามารถทำได้นะคะ มีหลายคนชอบไปเลี้ยงวันเกิดโดยการทำบุญให้เด็กเหล่านี้ อย่างดารานักร้องหลายคนก็ชอบไปที่นั่น (คงเพราะเด็ก ๆ น่ารักด้วยค่ะ)



อย่าง กล้วย อาร์สยามก็ไปบ่อย แถมชวนนักร้องคนอื่นไปด้วยนะคะ

หมายเหตุ : ภาพเหล่านี้ไปแอบเอามาค่ะ ขออนุญาตเอามาใช้เลยนะคะ ขอบคุณค่ะ
หมายเหตุ 2 : กระทู้นี้ตั้งขึ้นเพราะกระทู้ *ท้องกับแฟนเก่าที่เพิ่งบอกเลิกไปค่ะ

ที่ตั้งก็เพราะอยากแนะนำที่ดี ๆ ที่ผู้หญิงในวัยเรียนที่เจอปัญหาทุกคน แต่ถึงไม่มีปัญหาก็ไปเรียนได้นะคะ เป็นโรงเรียนที่ดีมากเลยค่ะ ทุกวันนี้ยังคิดถึงอยู่