Dtac ในไตรมาส 3/2561 มีลูกค้ารวมอยู่ที่ 21.3 ล้านเลขหมาย ลดลงกว่า 313,000 เลขหมาย
โดยจำนวนลูกค้าระบบเติมเงินอยู่ที่ 15.3 ล้านเลขหมาย ลดลงกว่า 404,000 เลขหมายอันเป็นผลจากการแข่งขันที่อยู่ในระดับสูงและแคมเปญการเปลี่ยนลูกค้าจากระบบเติมเงินเป็นระบบรายเดือน
รายเดือนเพิ่มขึ้นสุทธิกว่า 154,000 เลขหมายอันเป็นผลจากความไม่แน่นอนในเรื่องการหมดอายุสัญญาสัมปทาน ทั้ง นี้สัดส่วนของฐานลูกค้าระบบรายเดือนเพิ่มขึ้นเป็น 28% ของฐานลูกค้าทั้งหมด
โดยรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมาย (ไม่รวม IC) อยู่ที่ระดับ 247 บาทต่อเดือน เพิ่มขึ้น 6.7% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 0.7% จากไตรมาสก่อน
EBITDA (ก่อนรายการอื่น) อยู่ที่ 7,192 ล้านบาท ลดลง 7.1% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และลดลง 5.1% จากไตรมาสก่อน ทั้งนี้ EBITDA margin ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 40.0% ลดลงจากระดับ 41.2% เมื่อไตรมาส 3/2560 และระดับ 40.4% เมื่อไตรมาส 2/2561 ทั้งนี้หากไม่รวมค่าใช้จ่ายสุทธซึ่งจ่ายให้กับทีโอทีดังกล่าวข้างต้น แล้ว EBITDA จะอยู่ที่ 8,327 ล้านบาท ในขณะที่ EBITDA margin จะอยู่ที่ 46.9%
ในไตรมาส 3/3561 บริษัทมีผลขาดทุนอยู่ที่ 921 ล้านบาท อันเป็นผลจาก EBITDA ที่ลดลงรวมทั้ง มีค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่เพิ่ม ขึ้นซึ่ง รวมถึงรายการพิเศษจากค่าตัดจำหน่ายที่เป็นผลจากการระงับข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับกรรมสิทธิ์ในเสาโทรคมนาคมกับ กสท.
บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 17,963 ล้านบาท ลดลง 4.5% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และลดลง 4.3% จากไตรมาสที่ผ่านมา
บริษัทใช้เงินลงทุนอยู่ที่ 6,065 ล้านบาทเพิ่มขึ้นทั้งจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อนเพื่อเร่งขยายโครงข่าย
จำนวนผู้ใช้บริการ 4G มี จำนวน 9.3 ล้านเลขหมาย คิด เป็นสัดส่วน 43% ของฐานลูกค้ารวม
ปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตโดยเฉลี่ยต่อเลขหมายผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น เป็น 8.8 กิกะไบต์ต่อเดือน
Dtac ในไตรมาส 3/2561 มีลูกค้ารวมอยู่ที่ 21.3 ล้านเลขหมาย ลดลงกว่า 313,000 เลขหมาย
Dtac ในไตรมาส 3/2561 มีลูกค้ารวมอยู่ที่ 21.3 ล้านเลขหมาย ลดลงกว่า 313,000 เลขหมาย
โดยจำนวนลูกค้าระบบเติมเงินอยู่ที่ 15.3 ล้านเลขหมาย ลดลงกว่า 404,000 เลขหมายอันเป็นผลจากการแข่งขันที่อยู่ในระดับสูงและแคมเปญการเปลี่ยนลูกค้าจากระบบเติมเงินเป็นระบบรายเดือน
รายเดือนเพิ่มขึ้นสุทธิกว่า 154,000 เลขหมายอันเป็นผลจากความไม่แน่นอนในเรื่องการหมดอายุสัญญาสัมปทาน ทั้ง นี้สัดส่วนของฐานลูกค้าระบบรายเดือนเพิ่มขึ้นเป็น 28% ของฐานลูกค้าทั้งหมด
โดยรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมาย (ไม่รวม IC) อยู่ที่ระดับ 247 บาทต่อเดือน เพิ่มขึ้น 6.7% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 0.7% จากไตรมาสก่อน
EBITDA (ก่อนรายการอื่น) อยู่ที่ 7,192 ล้านบาท ลดลง 7.1% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และลดลง 5.1% จากไตรมาสก่อน ทั้งนี้ EBITDA margin ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 40.0% ลดลงจากระดับ 41.2% เมื่อไตรมาส 3/2560 และระดับ 40.4% เมื่อไตรมาส 2/2561 ทั้งนี้หากไม่รวมค่าใช้จ่ายสุทธซึ่งจ่ายให้กับทีโอทีดังกล่าวข้างต้น แล้ว EBITDA จะอยู่ที่ 8,327 ล้านบาท ในขณะที่ EBITDA margin จะอยู่ที่ 46.9%
ในไตรมาส 3/3561 บริษัทมีผลขาดทุนอยู่ที่ 921 ล้านบาท อันเป็นผลจาก EBITDA ที่ลดลงรวมทั้ง มีค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่เพิ่ม ขึ้นซึ่ง รวมถึงรายการพิเศษจากค่าตัดจำหน่ายที่เป็นผลจากการระงับข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับกรรมสิทธิ์ในเสาโทรคมนาคมกับ กสท.
บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 17,963 ล้านบาท ลดลง 4.5% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และลดลง 4.3% จากไตรมาสที่ผ่านมา
บริษัทใช้เงินลงทุนอยู่ที่ 6,065 ล้านบาทเพิ่มขึ้นทั้งจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อนเพื่อเร่งขยายโครงข่าย
จำนวนผู้ใช้บริการ 4G มี จำนวน 9.3 ล้านเลขหมาย คิด เป็นสัดส่วน 43% ของฐานลูกค้ารวม
ปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตโดยเฉลี่ยต่อเลขหมายผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น เป็น 8.8 กิกะไบต์ต่อเดือน