"ดีแทค" ประกาศหั่นนโยบายปันผลเหลือ 50% ของกำไรสุทธิ จ่ายปีละ 2 ครั้ง จากเดิม 80% ของกำไรสุทธิจ่ายปีละ 4 ครั้งเริ่มงวดปี59 เหตุต้องเผื่อแผนลงทุนในอนาคต ปลอบใจผู้ถือหุ้นปันงวดสุดท้ายปี58 หุ้นละ 0.52 บ. โดยปีนี้ตั้งงบลงทุนเท่าปีก่อน 2 หมื่นลบ. ใช้พัฒนาโครงข่าย 4G ส่วนเป้ารายได้จากการให้บริการ(ไม่รวมค่า IC)หวังแค่ทรงตัว เผยกำไรปี58ทรุด 45% เหลือเพียง 5.89 พันลบ.หลังตลาดแข่งดุ
*** ปรับนโยบายปีนี้จ่ายแค่ 50% ของกำไรสุทธิ
นายชวิต แสงอุดมเลิศ Head of Investor Relations บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC แจ้งว่า คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติ การเปลี่ยนแปลงนโยบายการจ่ายเงินปันผล จากเดิม “บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ากว่าร้อยละ 80 ของกำไรสุทธิของบริษัท ขึ้นอยู่กับฐานะทางการเงินและแผนการประกอบธุรกิจของบริษัทในอนาคต โดยบริษัทมีเป้าหมายจะจ่ายเงินปันผลเป็นรายไตรมาส” แก้ไขเป็น “บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ากว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิของบริษัท ขึ้นอยู่กับฐานะทางการเงินและแผนการประกอบธุรกิจของบริษัทในอนาคต โดยบริษัทมีเป้าหมายจะพิจารณาจ่ายเงินปันผลทุกครึ่งปี” โดยจะมีผลตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลประจาปี 2558 ในอัตราหุ้นละ 0.52 บาท (ก่อนหักภาษี ณ ที่จ่าย)รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,231,261,720 บาท ทั้งนี้ หากรวมการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในปี 2558 ซึ่งบริษัทได้จ่ายไปแล้วจานวน 3 ครั้ง รวม 2.41 บาทต่อหุ้น จะส่งผลให้บริษัทจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานประจำปี 2558 ทั้งสิ้นจำนวน 2.93 บาทต่อหุ้น โดยจะจ่ายในวันที่ 20 เม.ย. 59 ขึ้น XD วันที่ 16 ก.พ.59
กำหนดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติ 30 มี.ค. 2559 วันที่ไม่ได้รับสิทธิเข้าประชุม 16 ก.พ. 2559 กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร่วมประชุม 18 ก.พ. 2559 และวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อ 19 ก.พ. 2559
*** งบลงทุนปีนี้ 20,000 ลบ. เท่าปีก่อน
DTAC ระบุว่า ในปี 2559 การแข่งขันในอุตสาหกรรมมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาเนื่องจากผู้ให้บริการต่างพยายามช่วงชิงตาแหน่งผู้นาการให้บริการ 4G หลังการประมูลคลื่นความถี่เสร็จสิ้นเมื่อไตรมาส 4/2558 ที่ผ่านมา ปัจจุบัน ดีแทคเปิดให้บริการ 4G ด้วยปริมาณคลื่นรวม 20 MHz โดยมาจากคลื่นความถี่ 1800MHz จานวน 15MHz และคลื่นความถี่ 2.1GHz จำนวน 5MHz ดีแทคได้เตรียมเงินลงทุนสำหรับปี 2559 ไว้ในระดับเดียวกับปีที่แล้วจำนวน 20,000 ล้านบาท เพื่อใช้พัฒนาโครงข่าย 4G ให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น ขยายโครงข่าย 3G ให้ครอบคลุม 95% ของจานวนประชากรและทำโครงข่าย 2.1GHz ให้มีความต่อเนื่องมากขึ้นโดยคาดว่าจะสามารถเปิดสัญญาณ 4G-1800MHz ได้อีก 2,200 สถานีในช่วงต้นปี 2559
*** เป้ารายได้ให้บริการ(ไม่รวมค่า IC)ปีนี้แค่ทรงตัวหรือเพิ่มเล็กน้อย
DTAC คาดว่ารายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายในปี 2559 จะอยู่ในระดับใกล้เคียงหรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2558 ซึ่งมีรายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายอยู่ที่ 66,222 ล้านบาทคาดว่า EBITDA margin จะอยู่ในช่วงประมาณ 27-31% ลดลงจากระดับ 31.8% เมื่อปี 2558 เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมีแนวโน้มสูงขึ้นจากการขยายโครงข่ายและการทำกิจกรรมการตลาดเพิ่มมากขึ้น
" เราตั้งเป้าที่จะสร้างรายได้จากการให้บริการให้กลับมาเติบโตและรักษาส่วนแบ่งรายได้ต่อไป เราจึงมีแผนดำเนินกิจกรรมการตลาดรวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นในโครงข่ายของเราเพิ่มมากขึ้นในปี 2559 โดยเรามีเป้าหมายที่จะสร้างฐานลูกค้าผู้ใช้บริการ 4G เพิ่มขึ้นเป็น 4.5 ล้านเลขหมายในสิ้นปี 2559 ด้วยการสร้างโครงข่าย 4G ที่มีคุณภาพสามารถแข่งขันได้และนำเสนออุปกรณ์โทรศัพท์ 4G พร้อมแพ็คเกจที่น่าสนใจ"
*** กำไรปี58 เหลือ 5.89 พันลบ. ลดลง45%
ผลประกอบการ ปี 2558 DTAC มีกำไร 5.89 พันลบ. หรือคิดเป็นกำไร 2.49 บาท/หุ้น ลดลง 45% จากปี 2557 ที่มีกำไร 1.07 หมื่นล้านบาท หรือมีกำไร 4.53 บาท/หุ้น สาเหตุที่กำไรลด เนื่องจากมี EBITDA ลดลงและค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน
" ผลการดำเนินงานของบริษัทได้รับผลกระทบจากการแข่งขันในตลาดที่อยู่ในระดับสูง ทำให้รายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายลดลง 3% จากปีก่อน โดยส่วนใหญ่เกิดจากผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมมาใช้บริการอินเทอร์เน็ตแทนบริการเสียง "
บริษัทฯ จึงต้องทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อแข่งขันในตลาด ทั้งการปรับปรุงคุณภาพของโครงข่าย การให้ส่วนลดค่าเครื่องในตลาดระบบเติมเงิน และการประยุกต์ใช้รูปแบบการดาเนินธุรกิจโดยแบ่งเป็นพื้นที่ ทาให้ค่าใช้จ่ายในการดาเนินงานและการให้ส่วนลดค่าเครื่องโทรศัพท์เพิ่มสูงขึ้น
*** EBITDA ลดลง 9.6% รายได้รวมลดลง 3%
EBITDA อยู่ที่ 27,941 ล้านบาท ลดลง 9.6% จากปีก่อนเนื่องจากมีรายได้จากการให้บริการที่ลดลง ขาดทุนจากการให้ส่วนลดค่าเครื่องเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งมีค่าใช้จ่ายในการดาเนินงานที่สูงขึ้นแม้จะมีค่าธรรมเนียมและส่วนแบ่งรายได้ที่ลดลงก็ตามในขณะที่ EBITDA margin อยู่ที่ 31.8% สอดคล้องกับประมาณการของปี 2558 ที่เราคาดไว้ที่ 31-33%
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบ EBITDA margin ซึ่งเดิมอยู่ที่ระดับ 34.1% เมื่อปี 2557 แล้ว EBITDA margin มีระดับลดลงซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากขาดทุนจากการให้ส่วนลดค่าเครื่องและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่สูงขึ้น ทั้งนี้ หากไม่พิจารณาผลของการจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์และชุดเลขหมายแล้ว EBITDA Margin จะอยู่ที่ 41.3% ในขณะที่ปี 2557 จะอยู่ที่ 42.2%รายได้รวมอยู่ที่ 87,753 ล้านบาทลดลง 3% เทียบกับปีก่อนจากรายได้จากการให้บริการที่ลดลงและการปรับลดอัตราค่าเชื่อมต่อโครงข่าย รายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายอยู่ที่ 66,222 ล้านบาท ลดลง 3% เทียบกับปีก่อนเนื่องจากมีรายได้จากบริการเสียงที่ลดลงแม้จะมีรายได้จากบริการข้อมูลและโทรศัพท์ระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นก็ตาม
ในไตรมาส 4/2558 รายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายอยู่ที่ 16,627 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 1.4% เทียบกับไตรมาสก่อนจากปัจจัยเชิงฤดูกาลและการทำกิจกรรมการตลาดเพิ่มมากขึ้น เช่น ชิงโชค “แฮปปี้ราชรถมาเกย” และการขายเครื่องพร้อมแพ็คเกจ แต่ลดลง 1.6% เทียบกับปีก่อน ทั้งนี้ การลดลงของรายได้จากการให้บริการมีแนวโน้มทรงตัว
Cr: efinancethai
*** DTAC หั่นปันผล-กำไรทรุด45% ***
"ดีแทค" ประกาศหั่นนโยบายปันผลเหลือ 50% ของกำไรสุทธิ จ่ายปีละ 2 ครั้ง จากเดิม 80% ของกำไรสุทธิจ่ายปีละ 4 ครั้งเริ่มงวดปี59 เหตุต้องเผื่อแผนลงทุนในอนาคต ปลอบใจผู้ถือหุ้นปันงวดสุดท้ายปี58 หุ้นละ 0.52 บ. โดยปีนี้ตั้งงบลงทุนเท่าปีก่อน 2 หมื่นลบ. ใช้พัฒนาโครงข่าย 4G ส่วนเป้ารายได้จากการให้บริการ(ไม่รวมค่า IC)หวังแค่ทรงตัว เผยกำไรปี58ทรุด 45% เหลือเพียง 5.89 พันลบ.หลังตลาดแข่งดุ
*** ปรับนโยบายปีนี้จ่ายแค่ 50% ของกำไรสุทธิ
นายชวิต แสงอุดมเลิศ Head of Investor Relations บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC แจ้งว่า คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติ การเปลี่ยนแปลงนโยบายการจ่ายเงินปันผล จากเดิม “บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ากว่าร้อยละ 80 ของกำไรสุทธิของบริษัท ขึ้นอยู่กับฐานะทางการเงินและแผนการประกอบธุรกิจของบริษัทในอนาคต โดยบริษัทมีเป้าหมายจะจ่ายเงินปันผลเป็นรายไตรมาส” แก้ไขเป็น “บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ากว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิของบริษัท ขึ้นอยู่กับฐานะทางการเงินและแผนการประกอบธุรกิจของบริษัทในอนาคต โดยบริษัทมีเป้าหมายจะพิจารณาจ่ายเงินปันผลทุกครึ่งปี” โดยจะมีผลตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลประจาปี 2558 ในอัตราหุ้นละ 0.52 บาท (ก่อนหักภาษี ณ ที่จ่าย)รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,231,261,720 บาท ทั้งนี้ หากรวมการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในปี 2558 ซึ่งบริษัทได้จ่ายไปแล้วจานวน 3 ครั้ง รวม 2.41 บาทต่อหุ้น จะส่งผลให้บริษัทจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานประจำปี 2558 ทั้งสิ้นจำนวน 2.93 บาทต่อหุ้น โดยจะจ่ายในวันที่ 20 เม.ย. 59 ขึ้น XD วันที่ 16 ก.พ.59
กำหนดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติ 30 มี.ค. 2559 วันที่ไม่ได้รับสิทธิเข้าประชุม 16 ก.พ. 2559 กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร่วมประชุม 18 ก.พ. 2559 และวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อ 19 ก.พ. 2559
*** งบลงทุนปีนี้ 20,000 ลบ. เท่าปีก่อน
DTAC ระบุว่า ในปี 2559 การแข่งขันในอุตสาหกรรมมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาเนื่องจากผู้ให้บริการต่างพยายามช่วงชิงตาแหน่งผู้นาการให้บริการ 4G หลังการประมูลคลื่นความถี่เสร็จสิ้นเมื่อไตรมาส 4/2558 ที่ผ่านมา ปัจจุบัน ดีแทคเปิดให้บริการ 4G ด้วยปริมาณคลื่นรวม 20 MHz โดยมาจากคลื่นความถี่ 1800MHz จานวน 15MHz และคลื่นความถี่ 2.1GHz จำนวน 5MHz ดีแทคได้เตรียมเงินลงทุนสำหรับปี 2559 ไว้ในระดับเดียวกับปีที่แล้วจำนวน 20,000 ล้านบาท เพื่อใช้พัฒนาโครงข่าย 4G ให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น ขยายโครงข่าย 3G ให้ครอบคลุม 95% ของจานวนประชากรและทำโครงข่าย 2.1GHz ให้มีความต่อเนื่องมากขึ้นโดยคาดว่าจะสามารถเปิดสัญญาณ 4G-1800MHz ได้อีก 2,200 สถานีในช่วงต้นปี 2559
*** เป้ารายได้ให้บริการ(ไม่รวมค่า IC)ปีนี้แค่ทรงตัวหรือเพิ่มเล็กน้อย
DTAC คาดว่ารายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายในปี 2559 จะอยู่ในระดับใกล้เคียงหรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2558 ซึ่งมีรายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายอยู่ที่ 66,222 ล้านบาทคาดว่า EBITDA margin จะอยู่ในช่วงประมาณ 27-31% ลดลงจากระดับ 31.8% เมื่อปี 2558 เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมีแนวโน้มสูงขึ้นจากการขยายโครงข่ายและการทำกิจกรรมการตลาดเพิ่มมากขึ้น
" เราตั้งเป้าที่จะสร้างรายได้จากการให้บริการให้กลับมาเติบโตและรักษาส่วนแบ่งรายได้ต่อไป เราจึงมีแผนดำเนินกิจกรรมการตลาดรวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นในโครงข่ายของเราเพิ่มมากขึ้นในปี 2559 โดยเรามีเป้าหมายที่จะสร้างฐานลูกค้าผู้ใช้บริการ 4G เพิ่มขึ้นเป็น 4.5 ล้านเลขหมายในสิ้นปี 2559 ด้วยการสร้างโครงข่าย 4G ที่มีคุณภาพสามารถแข่งขันได้และนำเสนออุปกรณ์โทรศัพท์ 4G พร้อมแพ็คเกจที่น่าสนใจ"
*** กำไรปี58 เหลือ 5.89 พันลบ. ลดลง45%
ผลประกอบการ ปี 2558 DTAC มีกำไร 5.89 พันลบ. หรือคิดเป็นกำไร 2.49 บาท/หุ้น ลดลง 45% จากปี 2557 ที่มีกำไร 1.07 หมื่นล้านบาท หรือมีกำไร 4.53 บาท/หุ้น สาเหตุที่กำไรลด เนื่องจากมี EBITDA ลดลงและค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน
" ผลการดำเนินงานของบริษัทได้รับผลกระทบจากการแข่งขันในตลาดที่อยู่ในระดับสูง ทำให้รายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายลดลง 3% จากปีก่อน โดยส่วนใหญ่เกิดจากผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมมาใช้บริการอินเทอร์เน็ตแทนบริการเสียง "
บริษัทฯ จึงต้องทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อแข่งขันในตลาด ทั้งการปรับปรุงคุณภาพของโครงข่าย การให้ส่วนลดค่าเครื่องในตลาดระบบเติมเงิน และการประยุกต์ใช้รูปแบบการดาเนินธุรกิจโดยแบ่งเป็นพื้นที่ ทาให้ค่าใช้จ่ายในการดาเนินงานและการให้ส่วนลดค่าเครื่องโทรศัพท์เพิ่มสูงขึ้น
*** EBITDA ลดลง 9.6% รายได้รวมลดลง 3%
EBITDA อยู่ที่ 27,941 ล้านบาท ลดลง 9.6% จากปีก่อนเนื่องจากมีรายได้จากการให้บริการที่ลดลง ขาดทุนจากการให้ส่วนลดค่าเครื่องเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งมีค่าใช้จ่ายในการดาเนินงานที่สูงขึ้นแม้จะมีค่าธรรมเนียมและส่วนแบ่งรายได้ที่ลดลงก็ตามในขณะที่ EBITDA margin อยู่ที่ 31.8% สอดคล้องกับประมาณการของปี 2558 ที่เราคาดไว้ที่ 31-33%
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบ EBITDA margin ซึ่งเดิมอยู่ที่ระดับ 34.1% เมื่อปี 2557 แล้ว EBITDA margin มีระดับลดลงซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากขาดทุนจากการให้ส่วนลดค่าเครื่องและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่สูงขึ้น ทั้งนี้ หากไม่พิจารณาผลของการจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์และชุดเลขหมายแล้ว EBITDA Margin จะอยู่ที่ 41.3% ในขณะที่ปี 2557 จะอยู่ที่ 42.2%รายได้รวมอยู่ที่ 87,753 ล้านบาทลดลง 3% เทียบกับปีก่อนจากรายได้จากการให้บริการที่ลดลงและการปรับลดอัตราค่าเชื่อมต่อโครงข่าย รายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายอยู่ที่ 66,222 ล้านบาท ลดลง 3% เทียบกับปีก่อนเนื่องจากมีรายได้จากบริการเสียงที่ลดลงแม้จะมีรายได้จากบริการข้อมูลและโทรศัพท์ระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นก็ตาม
ในไตรมาส 4/2558 รายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายอยู่ที่ 16,627 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 1.4% เทียบกับไตรมาสก่อนจากปัจจัยเชิงฤดูกาลและการทำกิจกรรมการตลาดเพิ่มมากขึ้น เช่น ชิงโชค “แฮปปี้ราชรถมาเกย” และการขายเครื่องพร้อมแพ็คเกจ แต่ลดลง 1.6% เทียบกับปีก่อน ทั้งนี้ การลดลงของรายได้จากการให้บริการมีแนวโน้มทรงตัว
Cr: efinancethai