▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ละครโทรทัศน์
7 HD
สายโลหิต
ทิสานาฏ ศรศึก (นาว)
ศรัณย์ ศิริลักษณ์ (พอร์ช)
ว่าด้วยฉากมองตากันจนดาวเรืองถูกมีดบาดและสกิลการทำแผลให้ของพี่ไกร
สำหรับเวอร์ชั่นเก่าเป็นอะไรที่น่าประทับใจ ศรรามเล่นได้แบบมีความละมุนนุ่มนวลกับการแสดงความรู้สึก ส่วนในเวอร์ชั่นใหม่นี้ พอร์ชก็ทำได้ดีเช่นกัน แต่ฉากนี้มีการปรับวิธีการแสดงออกให้เหมาะสมกับความเป็นละครในยุคสมัยปัจจุบันมากขึ้น คือเพิ่มการแสดงออกทางสายตาระหว่างพระนางนั่นเอง เท่าที่เราเองก็ติดตาม แฮชแท็ก กระแสละครในทวิตเตอร์ ก็มีบางกระแสได้ตั้งฉายาเรียกขุนไกรเวอร์ชั่น2561 ว่า
"พี่ไกร 4G" ไปแล้ว เพราะสกิลการพุ่งตัวเข้าไปดูแผลให้ดาวเรืองนี่ช่างรวดเร็วเสียจริงๆ 5555 ว่าแล้วเราก็ไปดูความน่ารักของฉากนี้เลยจ้า
เริ่มที่พี่ไกรลอบแอบมองน้องดาวเรืองที่กำลังเป็นสาววัยแรกแย้ม พี่ไกร2538 จะมองนิ่งๆ สายตาจับจ้อง ยิ้มมุมปากนิดๆ เหมือนจะเก็บอาการไว้ แต่มีกระแสความจับจ้องรุนแรงมากจริงๆ ส่วนพี่ไกร2561 คงไม่ต้องบอกว่าทั้งสายตาทั้งรอยยิ้มมาเต็มมาก เริ่มจากจ้องนิ่งๆ ยิ้มมุมปากนิดๆ ก่อนจะยิ้มแบบเต็มที่เลย ถึงจะแตกต่างกันเล็กน้อยแต่เอาเข้าจริงดูแล้วก็เขินทั้งสายตาของศรรามกับพอร์ชเลยแหละ
เมื่อพี่ไกรจ้องมองมา น้องดาวเรืองก็ไม่ยอมแพ้ มองกลับบ้างจ้า ดาวเรือง2538 จะยิ้มแบบสดใสทันที ยิ้มแบบดีใจที่ได้เห็นพี่ไกรอีกครั้ง ส่วนดาวเรือง 2561 จะค่อยๆลอบมองแล้วก็ยิ้มทีละนิด มองดีๆเหมือนจะมีความซนเล็กๆซ่อนอยู่ในรอยยิ้มด้วย เรียกได้ว่าทั้งกบและนาวเป็นดาวเรืองที่ยิ้มให้พี่ไกรได้ทั้งน่ารักและน่าเอ็นดูจริงๆ
พี่มองน้อง น้องมองพี่ ซักพักก็...จึ้ก! มีดบาดมือน้องจ้า แน่นอนว่าพี่ไกรทั้งสองเวอร์ชั่นก็ห่วงน้องมาก พี่ไกร2538 นั้นถึงกับเด้งตัวขึ้นอย่างตกใจ แต่ชะงักเล็กน้อยเพราะเกรงใจคุณย่านิ่มที่นั่งอยู่ นั่งมองน้องสักพักพอคุณย่าให้สัญญาณก็ค่อยๆ ขยับเข้าไปทำแผลให้น้องทันที มีความจับมือแบบทะนุถนอมแผ่วเบา เรียกว่าพี่ไกร2538มาแบบนิ่งๆแต่แฝงด้วยอารมณ์เป็นห่วงลึกซึ้งข้างใน ซึ่งการแสดงออกของศรรามก็ทำให้คนดูเขินและอินตาม ส่วนขุนไกร2561 นั้น บอกเลยว่า อารมณ์เป็นห่วงน้องมาเต็มจ้า สกิลการพุ่งตัวไปหาดาวเรืองเหมือนนักวิ่งที่เตรียมตัวออกสตาร์ทจากจุดวิ่งเลย อารมณ์แบบเข้าที่...ระวัง...ไป อ่ะ 5555 (นี่แหละที่มาของฉายา "พี่ไกร 4G") สีหน้ามีความตกใจที่น้องโดนมีดบาด แต่พอไปถึงตัวน้อง กลับชะงักเพิ่งนึกได้ว่าน้องโตแล้วไม่ควรจับมือ รอจนคุณย่าให้สัญญาณถึงได้จับมือทำแผลให้ ซึ่งพอร์ชก็เล่นได้น่ารักชวนให้คนดูอมยิ้มตาม โอ๊ยยย บอกเลยว่าดีงามทั้งสองเวอร์ชั่นเลยอะ อยากมีดบาดบ้างจริงๆ อิอิ
พอมาถึงสเต็ปการทำแผล แน่นอนว่ามีความละมุนอบอุ่นมากเว่อร์ ทั้งขุนไกร2538 และ 2561 ต่างก็ตั้งอกตั้งใจทำแผลให้ดาวเรืองด้วยความเป็นห่วง ดาวเรือง2538 และ 2561 นั้นก็มีการแอบมองพี่ไกรเบาๆ ลึกๆก็คงรู้สึกดีที่พี่ไกรเป็นห่วงขนาดนี้ แต่ที่เห็นได้ชัดคือเวอร์ชั่น2561 พระนางจะมีการมองหน้าสบตากันเป็นระยะในระหว่างที่พี่ไกรกำลังทำแผลให้ดาวเรือง จบด้วยการที่ดาวเรืองทั้งสองเวอร์ชั่นยกมือไหว้ขอบคุณพี่ไกร
ไคลแม็กซ์อยู่ตรงที่เมื่อทำแผลเสร็จแล้ว พี่ไกร 2538 นั้นก็เหมือนจะมีความเกรงอกเกรงใจคุณย่าเลยค่อยๆ ขยับตัวถอยออกมานั่งที่เดิม แต่สายตาก็ยังคงจับจ้องมองดาวเรืองอยู่ตลอด ส่วนพี่ไกร 2561 ยังคงนั่งอยู่ข้างๆ ดาวเรืองตามเดิม แถมยังมีการลอบมองสบตากันเป็นระยะๆ มองกันไปก็เขินกันไป สังเกตได้เลยว่าดาวเรืองก็จะมีทั้งแอบๆมองและแอบๆหลบสายตาพี่ไกรด้วยความเขิน ขนาดบ่าวอย่างยายชดลุกขึ้นมาคุยกับคุณย่า พี่ไกร 2561 ก็ยังคงนั่งข้างๆ ดาวเรืองไม่ไปไหน ก้มมองดูแผลน้องสลับกับเงยหน้ามองน้องอยู่นั่น อันนี้ขอพูดแบบไม่ได้อวยนะว่าเวอร์ชั่น 2561 ทำให้คนดูอย่างเราอินกับการแสดงออกที่สื่อทางสายตาเพียงอย่างเดียวได้โดยที่พระนางไม่ต้องมีบทพูดอะไรเลย
หลายคนอาจจะคิดว่า ทำไมฉากนี้ คอสตูมเสื้อผ้าของดาวเรืองทั้งสองเวอร์ชั่นถึงเป็นสไบสีเหลือง ผ้าถุงสีแดง เหมือนกัน ทีมงานตั้งใจให้เหมือนกันเลยหรือเปล่า ความจริงแล้วฉากนี้ในนิยาย ผู้ประพันธ์บรรยายไว้ตอนที่พี่ไกรมองดาวเรืองว่า ดาวเรืองห่มสไบสีเหลืองทองราวกับสีของพระจันทร์ และนุ่งผ้าสีแดงเหมือนสีหมากสุก เหมือนเป็นการพรรณนาให้เห็นถึงความงามของเครื่องแต่งกายที่รับกับผิวพรรณและรูปร่างของดาวเรืองนั่นเอง เรียกว่าทั้งผู้จัดและทีมงานใส่ใจรายละเอียดกับเครื่องแต่งกายของนักแสดงให้เข้ากับบทประพันธ์เป็นอย่างดี เราคิดว่ายังมีอีกหลายๆฉากที่ทุกคนรอคอยที่จะได้ชม เชื่อว่าจะต้องมีอีกหลายๆฉากที่จะทำให้คนดูได้ประทับใจแน่นอน