หลังจากดูละครจบวันนี้ ก็รู้สึกว่า Ep.6 มีการปรับเปลี่ยนบทเยอะอยู่เหมือนกัน บางฉากก็เพิ่มเข้ามาใหม่ให้ละเอียดมากขึ้น แต่บางฉากก็แอบเสียดายบทพูดที่ถูกตัดทอนลงไปเหมือนกันนะ แต่โดยรวมคิดว่าสิ่งที่ตัดออกไปกับสิ่งที่เพิ่มเข้ามา มันมีความสมเหตุสมผลกันแหละ เราเข้าใจว่าจะทำให้บทมีความกระชับและดำเนินเรื่องได้เร็วขึ้น
- ฉากพายเรือเก็บสายบัว เรื่องภาพกับแสง และอินเนอร์ของนักแสดงให้ผ่านอยู่แล้ว เพราะทำได้ดี ทั้งพอร์ชกับนาวเล่นได้ธรรมชาติ ดูแล้วก็เขินตาม ตอนพายเรือ ดาวเรืองพูดถึงหมื่นทิพอาสาพานำเที่ยว จริงๆแล้วพี่ไกรจะไม่พอใจมากๆ ถึงขนาดพูดถึงหมื่นทิพค่อนข้างเยอะ ว่าไม่สนใจฝึกฝนอาวุธ มัวแต่เกี้ยวสาว จำได้ว่าเวอร์ชั่นที่แล้ว บทยาวมาก คำพูดจะค่อนข้างเป็นคำคล้องจองกันแบบสละสลวยที่ฟังแล้วติดหูเลย ประมาณว่า "มัวแต่เกี้ยวพาราสี กรุ้มกริ่ม ยิ้มย่อง ทัดดอกไม้ ...... (จำไม่ได้ละ5555)" ซึ่งเวอร์ชั่นก่อนหนุ่มศรราม แสดงได้ดีมาก พี่แกรัวบทยาวได้ไม่มีตกหล่น เราไม่ได้บอกว่าพอร์ชเล่นบทยาวๆไม่ได้นะคะ เรารู้ว่าพอร์ชทำได้อยู่แล้ว แต่คิดว่าน่าจะเป็นรื่องของการปรับบทเพื่อให้กระชับขึ้นแหละ ก็เลยแอบเสียดายนิดนึง เหมือนเวอร์ชั่นนี้ตั้งใจปรับบทให้ พี่ไกรกับดาวเรือง มีสายบัวกลับบ้านจริงๆ เพื่อที่จะต่อยอดฉากที่คุณย่าดุ เรื่องพลัดหลงกับเรือของบ่าว (แล้วพี่ไกรสารภาพตามตรงว่าไปเก็บสายบัวมา) ซึ่งบทพูดตอนเก็บบัว ในเวอร์ชั่นก่อนกับในนิยายก็ค่อนข้างที่จะยาว ก่อนพี่ไกรจะพูดเกี้ยวพาราสีดาวเรือง พี่ไกรจะเล่าให้ฟังถึงเรื่องของสงครามก่อน จริงๆเราชอบมากนะ การพูดเล่าเรื่องถึงศึกสงครามโดยผ่านมุมมองของพระเอก เพราะพี่ไกรเป็นคนจริงจังมุ่งมั่นกับการรบเพื่อปกป้องบ้านเมือง แต่สิ่งที่ตัดออกไป แล้วเพิ่มเข้ามาคือ พี่ไกร หอมแก้มดาวเรืองแบบฟอดใหญ่ อันนี้เลยรู้สึกว่า ให้อภัยกับบทที่ตัดออกไปได้ 5555 เสียดายอยากให้สองคนนี้เขาใช้เวลาอยู่ในบึงบัวนานกว่านี้ อิอิ
- ฉากเจอเรือหมื่นทิพ พายเข้ามาหาเรื่อง เพิ่งเพิ่มเข้ามาในเวอร์ชั่นนี้ ชอบมาก ฉากนี้ อ๊อฟกวนได้ใจจริงๆ สมกับเป็นแบดบอยแห่งบ้านบางเอียน
- ฉากคุณย่าดุพี่ไกร พาน้องกลับบ้านช้า หลังจากไปเก็บสายบัว อันนี้น่ารัก เพิ่มเข้ามาให้คนดูรู้สึกว่า ความรักต้องอยู่ในสายตาผู้หลักผู้ใหญ่นะ ดาวเรืองไม่ใช่เด็กๆแล้ว คุณย่าเลี้ยงมากับมือ ก็ต้องมีความหวงหลานสาวบ้างเป็นธรรมดา เราคิดว่าฉากนี้เหมือนเพิ่มรายละเอียดเข้ามาว่าถึงพี่ไกรจะเป็นญาติที่คุ้นเคยกันมานาน แต่ถึงยังไงก็ต้องให้เกียรติด้วยการขออนุญาตผู้ใหญ่เสียก่อน เราว่าก็เป็นการตีความที่มีความหมายไปอีกแบบ แถมด้วยการเพิ่มบทให้พระสุวรรณ คุณพ่อของดาวเรืองอ่านใจพี่ไกรทะลุปรุโปร่ง ถึงขั้นออกปากว่า "ดาวเรืองนับถือพ่อไกรมานาน ฝากน้องด้วยนะ" ซึ่งบอกเลยว่าน่าจะโดนใจคนดูในยุคนี้มากๆ เหมือนกับผู้ใหญ่ก็เริ่มรู้และเปิดทางให้เบาๆ 5555 จากนั้นก็มีการมองตากันอีกพอกรุบกริบ
- ฉากตำหมากของดาวเรือง อันนี้เวอร์ชั่นก่อนไม่มี แต่ในนิยายมีฉากนี้ เราดีใจมากที่เวอร์ชั่นนี้เพิ่มเข้ามา เพราะว่า เป็นการคลายความสงสัยของคนดู (ที่อาจจะไม่เคยอ่านนิยายหรือดูเวอร์ชั่นเก่ามาก่อน) ว่าพี่ไกรอายุอานามก็ปูนนี้ ไม่สนใจผู้หญิงคนไหนเลยหรอ ความจริงก็คือมีผู้หญิงเมืองเหนือมาสนใจแต่พี่ไกรตอบชัดว่าไม่ได้หมายปองใครจริงจัง ซึ่งคุณพ่อกับคุณย่าดาวเรืองก็ชงเข้มไปอีก หยอดพี่ไกรว่า คิดจะมีเมียเป็นแม่หญิงเมืองเหนือละมัง ดาวเรืองได้ยินก็เลยตำหมากรัวๆ ผิดจังหวะ เพราะหูก็รอฟังคำตอบของพี่ไกรอยู่ 5555 พี่ไกรก็ใช่ย่อย มีชำเลืองมองน้องก่อนจะตอบนะ เหมือนจะหยั่งเชิงความรู้สึกของน้องว่าคิดยังไง
- ฉากพี่ไกรพาน้องไปดูกระบวนเรือตอนค่ำแล้วพากลับบ้านช้า ฉากนี้ก็เพิ่มเข้ามาในเวอร์ชั่นนี้เช่นกัน พี่ไกรแอบพาน้องพายเรือกลับลำพัง มีหยอด มีเกี้ยวแบบหวานๆ แถมยังแซวน้องอีกว่า เข้าใจแล้วว่าทำไมตำหมากเดี๋ยวช้าเดี๋ยวเร็ว แถมยังใช้สองมือจับแก้มดาวเรืองไว้อีก ละมุนละไมมากเจ้าค่ะฉากนี้
- ฉากพี่ไกรโดนคุณย่าดุ(อีกแล้ว) ฉากนี้ก็เพิ่มเข้ามาในเวอร์ชั่นนี้ คราวนี้ดาวเรืองร้องไห้ คุณย่าบอกทำอะไรต้องเห็นแก่ผู้ใหญ่บ้าง ทำอย่างนี้ไม่งามนะ พี่ไกรก็เลยรับปากว่าจะขออนุญาตคุณย่าก่อนหากจะไปไหน พูดยังไม่ทันขาดคำ "ดาวเรือง อยากไปเที่ยวตลาดน้ำขอรับ" อันนี้เราแอบฮาหน้าคุณย่ามากนะ เป็นฉากที่หลายๆคนน่าจะอมยิ้มกับความหน้าซื่อตาใสของพี่ไกร 5555
- ฉากมารับดาวเรืองพาไปเที่ยวตลาดน้ำ คุณย่าถามว่าพ่อไกรตกที่นั่งพาเที่ยวอีกแล้วหรอ แล้วเราฟินมากกับคำตอบพี่ไกรที่บอกว่า กระผมยินดีตกขอรับโอ๊ยยย แล้วมีความก้มหัวกราบคุณย่าเหมือนขอโอกาสอะ คุณย่าก็ยิ้มไม่ว่าอะไรสักคำ พอสักพักก็มีฉากตอนที่ดาวเรืองกำลังจะวิ่งลงจากเรือนด้วยความดีใจที่จะได้ไปเที่ยวตลาดน้ำ แล้วเซจะล้มตรงบันได พี่ไกรเข้ามารับไว้ มองตากันกรุบกริบ แล้วพี่ก็ดุน้องว่า ปีหน้าวิ่งแบบนี้ไม่ได้แล้วนะดาวเรือง ใจบางมากค่ะกับฉากนี้ เขินจนอยากเอาหน้ามุดหมอนเลย
- มาต่อกันที่ฉากนั่งเรือชมตลาดน้ำ ชอบคำพูดของพี่ไกรที่ถามดาวเรืองว่า รู้ไหมอยุธยาแปลว่าอะไร เป็นสิ่งที่เราก็พึ่งรู้วันนี้แหละว่าความหมายของอยุธยาแปลว่าอะไร แอบเสียดาย มีฉากนี้น้อยไปนิดนึง เห็นเบื้องหลังตอนถ่ายนักแสดงใช้เวลาถ่ายทำฉากนี้นานมาก
โดยรวมแล้วฉากของตอนที่ 6 วันนี้ ถึงแม้จะมีการปรับบทค่อนข้างเยอะนั้น แต่ฉากที่เพิ่มเติมเข้ามาก็ทำให้รู้สึกว่าเนื้อเรื่องไม่ได้ขาดหายอะไรไปจนไม่เกิดความต่อเนื่อง ถ้าเอาตามจริงคือรู้สึกดีด้วยซ้ำที่เวอร์ชั่นนี้เพิ่มบทระหว่างพระนางเข้ามามากขึ้น แต่อาจจะด้วยเหตุผลบางอย่างในเรื่องของเวลา การตัดต่อ และยุคสมัย การตีความต่างๆ เลยต้องมีการปรับบทพูดในบางฉากให้เหมาะสมขึ้น อันนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวค่ะ เพราะยังไงเราก็ติดตามละครทุกตอนอยู่แล้ว ไม่ได้คิดจะติว่าการปรับบทนั้นไม่ดีหรือไม่ควร เราแค่อยากแชร์ และเล่าความรู้สึกตามประสาแฟนละครเท่านั้น
สายโลหิต Ep.6 วันนี้ มีการปรับบทอยู่หลายฉากเหมือนกันนะ
- ฉากพายเรือเก็บสายบัว เรื่องภาพกับแสง และอินเนอร์ของนักแสดงให้ผ่านอยู่แล้ว เพราะทำได้ดี ทั้งพอร์ชกับนาวเล่นได้ธรรมชาติ ดูแล้วก็เขินตาม ตอนพายเรือ ดาวเรืองพูดถึงหมื่นทิพอาสาพานำเที่ยว จริงๆแล้วพี่ไกรจะไม่พอใจมากๆ ถึงขนาดพูดถึงหมื่นทิพค่อนข้างเยอะ ว่าไม่สนใจฝึกฝนอาวุธ มัวแต่เกี้ยวสาว จำได้ว่าเวอร์ชั่นที่แล้ว บทยาวมาก คำพูดจะค่อนข้างเป็นคำคล้องจองกันแบบสละสลวยที่ฟังแล้วติดหูเลย ประมาณว่า "มัวแต่เกี้ยวพาราสี กรุ้มกริ่ม ยิ้มย่อง ทัดดอกไม้ ...... (จำไม่ได้ละ5555)" ซึ่งเวอร์ชั่นก่อนหนุ่มศรราม แสดงได้ดีมาก พี่แกรัวบทยาวได้ไม่มีตกหล่น เราไม่ได้บอกว่าพอร์ชเล่นบทยาวๆไม่ได้นะคะ เรารู้ว่าพอร์ชทำได้อยู่แล้ว แต่คิดว่าน่าจะเป็นรื่องของการปรับบทเพื่อให้กระชับขึ้นแหละ ก็เลยแอบเสียดายนิดนึง เหมือนเวอร์ชั่นนี้ตั้งใจปรับบทให้ พี่ไกรกับดาวเรือง มีสายบัวกลับบ้านจริงๆ เพื่อที่จะต่อยอดฉากที่คุณย่าดุ เรื่องพลัดหลงกับเรือของบ่าว (แล้วพี่ไกรสารภาพตามตรงว่าไปเก็บสายบัวมา) ซึ่งบทพูดตอนเก็บบัว ในเวอร์ชั่นก่อนกับในนิยายก็ค่อนข้างที่จะยาว ก่อนพี่ไกรจะพูดเกี้ยวพาราสีดาวเรือง พี่ไกรจะเล่าให้ฟังถึงเรื่องของสงครามก่อน จริงๆเราชอบมากนะ การพูดเล่าเรื่องถึงศึกสงครามโดยผ่านมุมมองของพระเอก เพราะพี่ไกรเป็นคนจริงจังมุ่งมั่นกับการรบเพื่อปกป้องบ้านเมือง แต่สิ่งที่ตัดออกไป แล้วเพิ่มเข้ามาคือ พี่ไกร หอมแก้มดาวเรืองแบบฟอดใหญ่ อันนี้เลยรู้สึกว่า ให้อภัยกับบทที่ตัดออกไปได้ 5555 เสียดายอยากให้สองคนนี้เขาใช้เวลาอยู่ในบึงบัวนานกว่านี้ อิอิ
- ฉากเจอเรือหมื่นทิพ พายเข้ามาหาเรื่อง เพิ่งเพิ่มเข้ามาในเวอร์ชั่นนี้ ชอบมาก ฉากนี้ อ๊อฟกวนได้ใจจริงๆ สมกับเป็นแบดบอยแห่งบ้านบางเอียน
- ฉากคุณย่าดุพี่ไกร พาน้องกลับบ้านช้า หลังจากไปเก็บสายบัว อันนี้น่ารัก เพิ่มเข้ามาให้คนดูรู้สึกว่า ความรักต้องอยู่ในสายตาผู้หลักผู้ใหญ่นะ ดาวเรืองไม่ใช่เด็กๆแล้ว คุณย่าเลี้ยงมากับมือ ก็ต้องมีความหวงหลานสาวบ้างเป็นธรรมดา เราคิดว่าฉากนี้เหมือนเพิ่มรายละเอียดเข้ามาว่าถึงพี่ไกรจะเป็นญาติที่คุ้นเคยกันมานาน แต่ถึงยังไงก็ต้องให้เกียรติด้วยการขออนุญาตผู้ใหญ่เสียก่อน เราว่าก็เป็นการตีความที่มีความหมายไปอีกแบบ แถมด้วยการเพิ่มบทให้พระสุวรรณ คุณพ่อของดาวเรืองอ่านใจพี่ไกรทะลุปรุโปร่ง ถึงขั้นออกปากว่า "ดาวเรืองนับถือพ่อไกรมานาน ฝากน้องด้วยนะ" ซึ่งบอกเลยว่าน่าจะโดนใจคนดูในยุคนี้มากๆ เหมือนกับผู้ใหญ่ก็เริ่มรู้และเปิดทางให้เบาๆ 5555 จากนั้นก็มีการมองตากันอีกพอกรุบกริบ
- ฉากตำหมากของดาวเรือง อันนี้เวอร์ชั่นก่อนไม่มี แต่ในนิยายมีฉากนี้ เราดีใจมากที่เวอร์ชั่นนี้เพิ่มเข้ามา เพราะว่า เป็นการคลายความสงสัยของคนดู (ที่อาจจะไม่เคยอ่านนิยายหรือดูเวอร์ชั่นเก่ามาก่อน) ว่าพี่ไกรอายุอานามก็ปูนนี้ ไม่สนใจผู้หญิงคนไหนเลยหรอ ความจริงก็คือมีผู้หญิงเมืองเหนือมาสนใจแต่พี่ไกรตอบชัดว่าไม่ได้หมายปองใครจริงจัง ซึ่งคุณพ่อกับคุณย่าดาวเรืองก็ชงเข้มไปอีก หยอดพี่ไกรว่า คิดจะมีเมียเป็นแม่หญิงเมืองเหนือละมัง ดาวเรืองได้ยินก็เลยตำหมากรัวๆ ผิดจังหวะ เพราะหูก็รอฟังคำตอบของพี่ไกรอยู่ 5555 พี่ไกรก็ใช่ย่อย มีชำเลืองมองน้องก่อนจะตอบนะ เหมือนจะหยั่งเชิงความรู้สึกของน้องว่าคิดยังไง
- ฉากพี่ไกรพาน้องไปดูกระบวนเรือตอนค่ำแล้วพากลับบ้านช้า ฉากนี้ก็เพิ่มเข้ามาในเวอร์ชั่นนี้เช่นกัน พี่ไกรแอบพาน้องพายเรือกลับลำพัง มีหยอด มีเกี้ยวแบบหวานๆ แถมยังแซวน้องอีกว่า เข้าใจแล้วว่าทำไมตำหมากเดี๋ยวช้าเดี๋ยวเร็ว แถมยังใช้สองมือจับแก้มดาวเรืองไว้อีก ละมุนละไมมากเจ้าค่ะฉากนี้
- ฉากพี่ไกรโดนคุณย่าดุ(อีกแล้ว) ฉากนี้ก็เพิ่มเข้ามาในเวอร์ชั่นนี้ คราวนี้ดาวเรืองร้องไห้ คุณย่าบอกทำอะไรต้องเห็นแก่ผู้ใหญ่บ้าง ทำอย่างนี้ไม่งามนะ พี่ไกรก็เลยรับปากว่าจะขออนุญาตคุณย่าก่อนหากจะไปไหน พูดยังไม่ทันขาดคำ "ดาวเรือง อยากไปเที่ยวตลาดน้ำขอรับ" อันนี้เราแอบฮาหน้าคุณย่ามากนะ เป็นฉากที่หลายๆคนน่าจะอมยิ้มกับความหน้าซื่อตาใสของพี่ไกร 5555
- ฉากมารับดาวเรืองพาไปเที่ยวตลาดน้ำ คุณย่าถามว่าพ่อไกรตกที่นั่งพาเที่ยวอีกแล้วหรอ แล้วเราฟินมากกับคำตอบพี่ไกรที่บอกว่า กระผมยินดีตกขอรับโอ๊ยยย แล้วมีความก้มหัวกราบคุณย่าเหมือนขอโอกาสอะ คุณย่าก็ยิ้มไม่ว่าอะไรสักคำ พอสักพักก็มีฉากตอนที่ดาวเรืองกำลังจะวิ่งลงจากเรือนด้วยความดีใจที่จะได้ไปเที่ยวตลาดน้ำ แล้วเซจะล้มตรงบันได พี่ไกรเข้ามารับไว้ มองตากันกรุบกริบ แล้วพี่ก็ดุน้องว่า ปีหน้าวิ่งแบบนี้ไม่ได้แล้วนะดาวเรือง ใจบางมากค่ะกับฉากนี้ เขินจนอยากเอาหน้ามุดหมอนเลย
- มาต่อกันที่ฉากนั่งเรือชมตลาดน้ำ ชอบคำพูดของพี่ไกรที่ถามดาวเรืองว่า รู้ไหมอยุธยาแปลว่าอะไร เป็นสิ่งที่เราก็พึ่งรู้วันนี้แหละว่าความหมายของอยุธยาแปลว่าอะไร แอบเสียดาย มีฉากนี้น้อยไปนิดนึง เห็นเบื้องหลังตอนถ่ายนักแสดงใช้เวลาถ่ายทำฉากนี้นานมาก
โดยรวมแล้วฉากของตอนที่ 6 วันนี้ ถึงแม้จะมีการปรับบทค่อนข้างเยอะนั้น แต่ฉากที่เพิ่มเติมเข้ามาก็ทำให้รู้สึกว่าเนื้อเรื่องไม่ได้ขาดหายอะไรไปจนไม่เกิดความต่อเนื่อง ถ้าเอาตามจริงคือรู้สึกดีด้วยซ้ำที่เวอร์ชั่นนี้เพิ่มบทระหว่างพระนางเข้ามามากขึ้น แต่อาจจะด้วยเหตุผลบางอย่างในเรื่องของเวลา การตัดต่อ และยุคสมัย การตีความต่างๆ เลยต้องมีการปรับบทพูดในบางฉากให้เหมาะสมขึ้น อันนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวค่ะ เพราะยังไงเราก็ติดตามละครทุกตอนอยู่แล้ว ไม่ได้คิดจะติว่าการปรับบทนั้นไม่ดีหรือไม่ควร เราแค่อยากแชร์ และเล่าความรู้สึกตามประสาแฟนละครเท่านั้น