วิจารณ์เรื่อง "นาฬิกาและความสัมพันธ์เชิงระบบ" โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์ การส่งงานชิ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาศิลปะวิจารณ์

กระทู้คำถาม
จากการที่ได้อ่านบทความเรื่อง นาฬิกาและความสัมพันธ์เชิงระบบ ของ นิธิ เอียวศรีวงศ์  เรามีความคิดเห็นและประเด็นที่น่าสนใจอยู่ 2 ประเด็น ซึ่งเราจะมาพูดคุยถึงประเด็นนี้และร่วมกันแสดงความคิดเห็นในประเด็นนี้
-  นาฬิกา(บิ๊กป้อม)
ถ้าเราพูดถึงนาฬิกาของบิ๊กป้อมนั้นทุกคนก็จะเข้าใจกันดีว่ามันเป็นเรื่องที่โด่งดังและเป็นข่าวใหญ่โตอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งข่าวดังกล่าวได้เงียบหายไปหลังจากที่ทางบิ๊กป้อมออกมาแสดงหลักฐานที่มาของนาฬิกาหรูว่ายืมจากเพื่อนมาซึ่ง เราได้มองประเด็นนี้ว่ามันเป็นข้ออ้างที่ไม่มีเหตุผลที่ว่า "แหวนแม่-นาฬิกาเพื่อน"ซึ่งคำพูดนี้เรามองว่าเป็นเหุผลที่ใช้เพื่อให้เรื่องที่อึ้ฉาวนี้เงียบหายไปเท่านั้น ซึ่งเริ่มมีคนบางกลุ่มเสนอว่า หัวหน้าคณะรัฐประหารควรใช้ ม.44 ในการปลดบิ๊กป้อมซึ่งกฎมีเขียนชัดเจนว่า
1). เรียกให้มารายงานตัว ส่งมอบเอกสาร หรือหลักฐาน ที่เกี่ยวกับการกระทำผิดข้างต้น ในกรณีที่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น มาตรา 44 กำหนดให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจกักตัวบุคคลดังกล่าวไว้ได้ไม่เกิน 7 วัน ในที่ที่ไม่ใช่สถานีตำรวจ ที่คุมขัง หรือเรือนจำ
ทั้งนี้ การขึ้นศาลทหาร จำกัดไว้เพียงบุคคลที่กระทำผิดต่อความมั่นคงของประเทศเท่านั้น

2). จับกุมได้ทันทีเมื่อทำความผิดข้างต้นแบบซึ่งหน้า และนำส่งเจ้าพนักงานสืบสวนให้ดำเนินการต่อไป
3). มีอำนาจตามกฎหมายในการเข้าไปร่วมสืบสวน โดยให้ถือว่าเจ้าหน้าที่ทหารเป็นพนักงานสอบสวนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
4). ตรวจค้นตัวบุคคล ที่อยู่อาศัย หรือยานพาหนะของบุคคลใดก็ตามที่ต้องสงสัยว่าเป็นผู้กระทำความผิดที่ได้ระบุไว้ข้างต้น โดยไม่ต้องขอหมายค้นจากศาล
5). เจ้าหน้าที่ทหารมีอำนาจยึดหรืออายัดทรัพย์ที่พบจากข้อ 4)
6). เจ้าหน้าที่ทหารมีอำนาจทุกประการ หาก คสช. มอบหมายให้ทำ หรือก็คือมีอำนาจหน้าที่แบบครอบจักรวาลนั่นเอง
จะเห็นได้ว่ากฎข้อที่ 1 ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าหัวหน้าคณะรัฐประหารสามารถปลดหรือควบคุมกักตัวบิ๊กป้อมขณะสอบสวนได้แต่ทางคณะรัฐประหารไม่มีการดำเนินการใดๆเลยแล้วปล่อยให้เรื่องเงียบไปโดยได้รับหลักฐานเพียงว่า "แหวนแม่-นาฬิกาเพื่อน"ซึ่งประเด็นที่กล่าวมาข้างต้นนี้ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าทำไมไม่ใช้ ม.44 หรือจะทำให้กระทบถึงความสัมพันธ์เชิงระบบโครงสร้างภายในของรัฐบาลคือถ้าปลดบิ๊กป้อมออกแล้วจะทำให้การทำงานในระบบลำบากมากยิ่งขึ้นทำให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยไม่เชื่อฟังและเกิดปัญหาตามมาหรืออาจจะเป็นความสัมพันธ์ส่วนตัวกันแน่ที่หัวหน้าคณะรัฐประหารเป็นเพื่อนกับบิ๊กป้อมและสนิทกันซึ่งความคิดเห็นส่วนตัวนั้นคิดว่าเหตุผลที่ไม่ใช้ ม.44 นั้นมาจากความสัมพันธ์ส่วนตัวมากกว่าเพราะว่าหัวหน้าคณะรัฐประหารมีอำนาจเด็ดขาดในการตัดสินใจสามารถกำหนดบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งต่อบิ๊กป้อมได้แต่กลับเลือกที่จะปกป้องบิ๊กป้อมแทน
จัดทำโดย นาย อัษฎาวุฒิ ทิพย์สุภา 58120602  นาย พงศ์พันธุ์ จันทริทุ 58120332
ปล.สามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็น "ความสัมพัณธ์เชิงระบบหรือความสัมพันธ์ส่วนตัว" (นาฬิกาหรู)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่