เมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 กันยายน ที่ศาลเเขวงดอนเมือง ศูนย์ราชการ ถนนเเจ้งวัฒนะ ศาลนัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัทเอวีเอ แซทคอม จำกัด , นายสุทธิวัฒน์ วัฒนกิจ ผู้บริหารบริษัทเอวีเอฯ,นายเดชพิภัทร์ วัฒนกิจ ,นางศศกร ปลื้มใจ ซึ่งเป็นกลุ่มพนักงานบริษัทเอวีเอ เป็นจำเลยที่ 1-4ใน คดีฉ้อโกงการจัดซื้อเครื่องตรวจจับอาวุธวัตถุระเบิดและยาเสพติดรุ่น GT200 จำนวน 2 ชุด ชุดละ9เเสนเป็นเงิน1.8 ล้านบาท

เครื่องตรวจสารระยะไกลและอุปกรณ์ยี่ห้อ Global Technical รุ่น GT200 จำนวน 3 ชุด วงเงิน 3.6 ล้านบาท เครื่องตรวจหา สสาร ระยะไกลและอุปกรณ์ยี่ห้อ โกลบอล รุ่น GT200 จำนวน 3 ชุด วงเงิน 3.6ล้านบาท รวมวงเงินทั้งสิ้น 9 ล้านบาท ที่มีปัญหาที่กรมราชองครักษ์ผู้เสียหายได้ทำสัญญาซื้อขายไปเเต่เครื่องไม่สามารถใช้การได้ โดยจำเลยให้การปฏิเสธขอต่อสู้คดี

โดยวันนี้จำเลยทั้งหมดเดินทางมาศาลพร้อมทนายความ ศาลเห็นว่าจำเลยมีความผิดฐานฉ้อโกงตามที่อัยการโจทก์ฟ้องพิพากษาจำคุก นายสุทธิวัฒน์ วัฒนกิจ ผู้บริหารเอวีเอ แซทคอม จำกัด กรรมละ 3 ปี รวม 3 กรรมคงจำคุก9ปี ปรับกรรมละ 6,000บาทรวมปรับ 18,000บาท ส่วนจำเลย อื่นให้ยกฟ้อง

ภายหลังมีคำพิพากษา นายวรอรรถ สุนทรอภิชาติ ทนายความ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นประกันตัว นายสุทธิวัฒน์ ซึ่งศาลตีราคาประกันเป็นเงินสด 900,000บาท โดยอยู่ระหว่างขั้นตอนการวางหลักทรัพย์พร้อมยืนยันว่าจะมีการอุทธรณ์คดีต่อ เนื่องจากที่ศาลลงโทษจำคุกวันนี้เนื่องจาศาลเห็นว่า เป็นผู้ขายเมื่อเครื่องมือใช้การไม่ได้เราต้องรู้ ซึ่งความจริงเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด เป็นยุทธภัณฑ์เอกชนไม่สามารถครอบครองได้ เราสั่งซื้อตามสเปกที่มีการกำหนดมาพอเครื่องตรวจวัตถุระเบิดลงจากสนามบินก็มีรถทหารมารอรับเเล้ว การทดสอบก็ต้องกระทำในห้องเเล็บที่มีศักยภาพทดสอบได้ ตรงนี้จึงเห็นว่าเราไม่รู้เห็นว่าเครื่องชำรุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่เเล้ว ศาลเเขวงดอนเมืองก็ได้มีการอ่านคำพิพากษาที่อัยการคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้อง กลุ่มจำเลย บริษัทเอวีเอ ซึ่งศาลก็ได้พิพากษาลงโทษจำคุก นายสุทธิวัฒน์ จากการขายเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิดไป 10ปีจากการซื้อขาย 12 สัญญา รวมมูลค่า 600 ล้านบาท ซึ่งสำนวนนั้น กองทัพบกเป็นผู้เสียหาย