เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ที่ห้องพิจารณา 707 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อ.898/2552 ที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.เป็น โจทก์ ยื่นฟ้อง นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ , บริษัท ไทยเดย์ ด็อท คอท จำกัด และ บริษัท เอเอสทีวี (ประเทศไทย ) จำกัด เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 และ 332 กรณีเมื่อวันที่ 14 ม.ค.52 จำเลย กล่าวหานายจตุพร ทำนองว่า เป็นเด็กเลี้ยงแกะ ไม่มีใครเชื่อคำพูด ได้รับใบปริญญามาโดยการใช้อภิสิทธิ์ ต่อมาโจทก์ถอนฟ้องเฉพาะ บ.ไทยเดย์ และ บ.เอเอสทีวี ฯ จำเลยที่ 2 -3
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานหักล้างกันแล้ว เห็นว่า พฤติการณ์จำเลยกล่าวถึงโจทก์ เป็นเด็กเลี้ยงแกะเป็นคนหลอกลวงไม่เชื่อว่าโจทก์เรียนจบ ปริญญาตรีนั้น เป็นการใช้คำพูดเชิงตั้งคำถามโดยไม่ยืนยันข้อเท็จจริง อีกทั้งจำเลยยังต้องการให้พิสูจน์โดยให้ทดสอบแบบความรู้ภาอังกฤษและให้แสดงใบคุณวุฒิ ซึ่งจำเลยต้องการทราบข้อเท็จจริงเท่านั้น ส่วนนี้จึงยังไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
แต่ที่จำเลยกล่าวว่า โจทก์เห็นแก่เงินของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อเคลื่อนไหวทางการเมือง และ โจมตีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะมีท่อน้ำเลี้ยงนั้น คำว่าท่อน้ำเลี้ยงเป็นศัพท์เฉพาะที่แสดงให้เห็นว่าเป็นการสนับสนุนทางการเงินในทางลับที่เปิดเผยไม่ได้เพื่อให้เคลื่อนไหวไปในทิศทางหนึ่ง การที่จำเลยกล่าวหาโจทก์รับเงินทุนจากภายนอก ย่อมแสดงให้เห็นว่าตกอยู่ภายใต้ผลประโยชน์ ไม่มีความชอบนักธรรมในฐานะนักการเมือง จึงเป็นความเสื่อมเสียต่อหน้าที่โดยตรง และจำเลยเองก็ไม่ได้มีพยานหลักฐานพิสูจน์ว่าโจทก์มีพฤติการณ์อย่างที่กล่าวหา คำพูดของจำเลยจึงเลื่อนลอย
รวมทั้งข้อความว่า โจทก์ประพฤติเสื่อมเสียไม่กล้ากลับบ้านที่ จ.นครศรีธรรมราช คนในตระกูลไม่ยอมรับนั้น เห็นว่าเป็นการทำให้โจทก์ไม่ได้รับความเชื่อถือจากผู้อื่น จนถูกดูหมิ่นจากผู้อื่นว่าคนในตระกูลพรหมพันธุ์ไม่ยอมรับโจทก์ จึงเป็นการตอกย้ำโจทก์ ให้เสื่อมเสีย การกระทำส่วนนี้ของจำเลยมีความผิดฐานหมิ่นประมาทฯ
ศาลจึงพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตาม ม. 328 ให้จำคุก 2 เดือน และปรับ 20,000 บาท แต่จำเลยไม่เคยต้องโทษมาก่อน จึงให้โอกาสกลับตัวเป็นพลเมืองดี โทษจำคุกจึงรอการลงอาญา 1 ปีและให้ลงโฆษณาคำพิพากษาฉบับย่อในนสพ.รายวัน 2 ฉบับเป็นเวลา 7 วัน
วัชระ เพชรทอง หมิ่น จตุพร
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ที่ห้องพิจารณา 707 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อ.898/2552 ที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.เป็น โจทก์ ยื่นฟ้อง นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ , บริษัท ไทยเดย์ ด็อท คอท จำกัด และ บริษัท เอเอสทีวี (ประเทศไทย ) จำกัด เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 และ 332 กรณีเมื่อวันที่ 14 ม.ค.52 จำเลย กล่าวหานายจตุพร ทำนองว่า เป็นเด็กเลี้ยงแกะ ไม่มีใครเชื่อคำพูด ได้รับใบปริญญามาโดยการใช้อภิสิทธิ์ ต่อมาโจทก์ถอนฟ้องเฉพาะ บ.ไทยเดย์ และ บ.เอเอสทีวี ฯ จำเลยที่ 2 -3
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานหักล้างกันแล้ว เห็นว่า พฤติการณ์จำเลยกล่าวถึงโจทก์ เป็นเด็กเลี้ยงแกะเป็นคนหลอกลวงไม่เชื่อว่าโจทก์เรียนจบ ปริญญาตรีนั้น เป็นการใช้คำพูดเชิงตั้งคำถามโดยไม่ยืนยันข้อเท็จจริง อีกทั้งจำเลยยังต้องการให้พิสูจน์โดยให้ทดสอบแบบความรู้ภาอังกฤษและให้แสดงใบคุณวุฒิ ซึ่งจำเลยต้องการทราบข้อเท็จจริงเท่านั้น ส่วนนี้จึงยังไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
แต่ที่จำเลยกล่าวว่า โจทก์เห็นแก่เงินของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อเคลื่อนไหวทางการเมือง และ โจมตีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะมีท่อน้ำเลี้ยงนั้น คำว่าท่อน้ำเลี้ยงเป็นศัพท์เฉพาะที่แสดงให้เห็นว่าเป็นการสนับสนุนทางการเงินในทางลับที่เปิดเผยไม่ได้เพื่อให้เคลื่อนไหวไปในทิศทางหนึ่ง การที่จำเลยกล่าวหาโจทก์รับเงินทุนจากภายนอก ย่อมแสดงให้เห็นว่าตกอยู่ภายใต้ผลประโยชน์ ไม่มีความชอบนักธรรมในฐานะนักการเมือง จึงเป็นความเสื่อมเสียต่อหน้าที่โดยตรง และจำเลยเองก็ไม่ได้มีพยานหลักฐานพิสูจน์ว่าโจทก์มีพฤติการณ์อย่างที่กล่าวหา คำพูดของจำเลยจึงเลื่อนลอย
รวมทั้งข้อความว่า โจทก์ประพฤติเสื่อมเสียไม่กล้ากลับบ้านที่ จ.นครศรีธรรมราช คนในตระกูลไม่ยอมรับนั้น เห็นว่าเป็นการทำให้โจทก์ไม่ได้รับความเชื่อถือจากผู้อื่น จนถูกดูหมิ่นจากผู้อื่นว่าคนในตระกูลพรหมพันธุ์ไม่ยอมรับโจทก์ จึงเป็นการตอกย้ำโจทก์ ให้เสื่อมเสีย การกระทำส่วนนี้ของจำเลยมีความผิดฐานหมิ่นประมาทฯ
ศาลจึงพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตาม ม. 328 ให้จำคุก 2 เดือน และปรับ 20,000 บาท แต่จำเลยไม่เคยต้องโทษมาก่อน จึงให้โอกาสกลับตัวเป็นพลเมืองดี โทษจำคุกจึงรอการลงอาญา 1 ปีและให้ลงโฆษณาคำพิพากษาฉบับย่อในนสพ.รายวัน 2 ฉบับเป็นเวลา 7 วัน