สวัสดีค่ะ เข้าเรื่องเลย เราเป็นกรดไหลย้อนได้สักระยะหนึ่งแล้ว และกำลังรักษาอยู่
ตอนที่เป็นใหม่ๆ เครียดมาก เชื่อว่า เพื่อนๆ คงประสบชะตากรรมเดียวกัน นั่งจุมปุ๊กหน้ามือถือ หน้าคอมฯ หาข้อมูลทำยังไงให้หายขาด
ไหนจะให้กิน ขมิ้นชัน กล้วยน้ำหว้า กินยานั่น ยานี่ ฯลฯ
แต่สุดท้ายเราก็ลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง ย้ำ! "ด้วยวิธีแบบตัวเอง" จนมีอาการดีขึ้นมาก (แต่ยังไม่หายขาดนะ)
ซึ่งวิธีของเราอาจจะไม่ถูกใจใคร หรืออาจจะทำให้คนอื่นแย่ลง อันนี้ขออภัยด้วยจริงๆ เราแค่อยากแชร์วิธีของเรา
คติประจำใจของเราสำหรับโรคนี้คือ "ตัวเองรู้ดีที่สุดว่าเราเป็นเพราะอะไร แล้วไปแก้ที่ตรงนั้นซะ"
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรานั่งถามตัวเองเสมอๆ ทำไมเป็นกรดไหลย้อน สาเหตุคืออะไร ทำไม ทำไม?
ซึ่งคำตอบของเราที่ได้คือ
1. เราติดนิสัยชอบกินให้อิ่ม (บางทีกินข้าวอิ่มแล้ว ก็ยังหาของหวาน หากาแฟได้อีก)
2. เรากินน้ำเปล่าน้อย (วันนึงเรากินน้ำเปล่าแค่ 3-4 แก้ว ไม่เคยกินถึง 1 ลิตร)
3. เราชอบกินอาหารรสเผ็ด รสจัด (พอไปผสมกับข้อ2 เลยทำให้เป็นแผลในกระเพาะ เราเป็นโรคกระเพาะด้วย)
4. เราขี้เกียจ ไม่ออกกำลังกาย (แล้วมันไปออกที่พุง ป่องยังกับคนท้อง)
5. เราติดกินหมากฝรั่งขั้นรุนแรง
6. ไม่มี (เราไม่กินเหล้า เบียร์ บุหรี่ น้ำอัดลม พวกนี้ตัดทิ้ง)
ข้อ 5. ฟังดูไม่เกี่ยว ก่อนอื่นบอกก่อนว่า เราเป็นคนเสพติดหมากฝรั่งมาก จะซื้ออันที่ไม่ผสมน้ำตาล+เป็นกระปุกใหญ่
วันนึงกินได้ 10 เม็ด (เคี้ยวหลังอาหาร) เช้า กลางวัน เย็น บางทีก่อนนอนก็เคี้ยวเล่น มันหายหวานแล้ว ก็ยังชอบเคี้ยวเล่น
พอวันนึงที่เราเป็นกรดไหลย้อน เรายังไม่นึกถึงหมากฝรั่งนะ
เพราะในเน็ตยังบอกว่า ให้เคี้ยวหมากฝรั่งรักษากรดไหลย้อนอยู่เลย
แต่มันมีอาการของเราครั้งหนึ่งคือ ท้องอืดมาก อืดขั้น 90% (มโนเลขเอง) เรอไม่ออก จุกลมที่คอ เหมือนมีก้อนลมหนาแน่นในท้อง
ตัดสินใจไปอาเจียนในห้องน้ำ เพราะอยากเรอ (คนเรอไม่ออกนี่มันทรมานนะ) กลายเป็นว่า แย่กว่าเดิม
นอกจากไม่เรอแล้วยังจุกที่คอเพิ่มไปอีก แต่ๆๆ..รู้สึกมีกลิ่นยางของหมากฝรั่งขึ้นมาที่คอ (บอกไม่ถูกอ่ะ ถ้าคนชอบเคี้ยวน่าจะพอนึกออก)
จนเรานึกได้ว่า "เห้ย หรือที่เป็นแบบนี้เพราะกินหมากฝรั่งมากเกินไป?"
พอไปหาข้อมูล บ้างก็ว่า เคี้ยวแล้วช่วยลดกรด / อย่าเคี้ยวเพราะเหมือนเคี้ยวลม เพิ่มกรด ฯลฯ
คือ งง สรุปไม่รู้ยังไง ตอนไปหาหมอเลยถามซะเลย หมอตอบ "เลิกกินหมากฝรั่งซะ" เพราะยิ่งกิน ยิ่งกลืนลม
เราตัดสินใจเชื่อหมอ ทุกวันนี้เราเลิกหมากฝรั่งถาวร 100% แล้วอาการดีขึ้นมากๆๆ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
กลับมาที่ข้อ 1-5 นั่นคือสาเหตุที่ทำให้เราเป็น ดังนั้นเราจึงต้องแก้ 5 ข้อนี้
1. กินให้น้อย แต่กินบ่อย
ตอนเป็นโรคนี้กินได้น้อยมาก วันนึงได้ไม่ถึง 500 กิโลแคลเลย (กินเช้า กลางวัน เย็น ได้แต่ ไข่ต้ม ไข่ตุ๋น โจ๊ก)
พอตกดึก ประมาณ 2 ทุ่ม ท้องร้องโครกคราก เหมือนหิว แต่จริงๆ ไม่หิว มันร้องเหมือนไม่มีอะไรย่อย แสบท้อง
เลยไม่รู้ว่า กินน้อยไปหรือเปล่า เลยลอง "ทดสอบกับตัวเอง" กินน้อย แต่บ่อยขึ้น (แต่อย่ากินหลัง 1 ทุ่ม)
ให้มันมีอะไรรองท้อง กรดจะได้ไม่กัดในกระเพาะ (คิดเอง) ผลคือ เรารู้สึกดีขึ้นมาก
2. กินน้ำเปล่า (ไม่เย็น) ให้ได้วันนึงมากกว่า 1 ลิตร
ช่วงแรกจะทรมาน เพราะเวลากินน้ำ มันเหมือนกลืนลมเข้าไป (แพนิคอีก)
ทำให้ยิ่งกินน้ำน้อยกว่าเดิม เพราะไม่อยากกลืนเยอะ กลัวจุกคอ สรุปเริ่มแย่กว่าเดิม ท้องโครกคราก ลมในท้องมาเต็ม
เลยฝืนใจให้กินน้ำเปล่าให้เป็นนิสัย (ย้ำ ไม่เย็น) ผลคือ เราฉี่บ่อยมาก (555) แต่เราขับถ่ายได้ดีขึ้นมาก (ปกติท้องผูก)
พอได้ถ่าย มันก็โล่งท้อง อาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ (หมอบอก ท้องผูกก็เป็นส่วนนึงทำให้แก๊สในกระเพาะเยอะ)
**สำหรับเรา น้ำเปล่า เหมือนยารักษาของเราชั้นดีเลยล่ะ**
3. งดปรุงเพิ่ม เบารสจัด
สำหรับเราไม่ได้งดถาวร คือ..เรามีความสุขกับการกิน เราอดทนไม่ได้จริงๆ ที่จะต้องกินก๋วยเตี๋ยวจืดๆ
เลยตัดสินใจได้อะไรมาจะไม่ปรุงเพิ่ม เช่น รสต้มยำ มันมายังไงก็กินยังงั้น (ปกติจะเพิ่มพริก)
และกินน้ำเปล่าในระหว่างวันให้มาก จะได้ไม่กัดกระเพาะ ทุกวันนี้เรากินเผ็ดได้นะ แต่ห้ามเผ็ดเยอะ
สำหรับเราคือ ยิ่งกินจืด = ยิ่งเครียด = เครียดแล้วเพิ่มแก๊สในกระเพาะ (แต่ใครเป็นหนัก ห้ามลอกเลียนแบบ)
4. ออกกำลังกาย ลดพุง
ตามนั้นเลย ข้อนี้ขอไม่เขียนอะไรมาก ทุกคนคงเข้าใจ
5. งดหมากฝรั่งถาวร
ตามที่เล่าไป สำหรับคนอื่นอาจมองว่าไม่เกี่ยว แต่สำหรับเรา เลิกกินหมากฝรั่งแล้วดีขึ้นมากเลย
6. (แถม) ห้ามเครียด ยิ่งเครียดยิ่งอาการกำเริบ บอกเลย!!
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จบแล้วกับวิธีดูแลฉบับเรา ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน ถ้าวิธีของเราคือผิด ต้องกราบขออภัยจริงๆ
สำหรับเราทดสอบกับตัวเองแล้วมันดีขึ้น เรายังกินอาหารที่เราชอบได้อยู่ เพียงแต่กินให้น้อย เน้นน้ำเปล่าให้มาก
เพราะยิ่งเครียด ยิ่งแย่จริงๆ เราหวังว่ามันอาจเป็นประโยชน์สำหรับใครบางคนได้บ้าง
ยา คือการรักษาที่ปลายเหตุ
แต่วิถีชีวิตการกิน คือการป้องกันที่ดีที่สุด
ไม่งั้นมันก็จะวนเวียนไปมา รักษาไม่มีวันหาย เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ
อยากแชร์ ปสก.เป็นกรดไหลย้อน+วิธีดูแล+เตือนภัยคนชอบกินหมากฝรั่งเหมือนเรา
ตอนที่เป็นใหม่ๆ เครียดมาก เชื่อว่า เพื่อนๆ คงประสบชะตากรรมเดียวกัน นั่งจุมปุ๊กหน้ามือถือ หน้าคอมฯ หาข้อมูลทำยังไงให้หายขาด
ไหนจะให้กิน ขมิ้นชัน กล้วยน้ำหว้า กินยานั่น ยานี่ ฯลฯ
แต่สุดท้ายเราก็ลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง ย้ำ! "ด้วยวิธีแบบตัวเอง" จนมีอาการดีขึ้นมาก (แต่ยังไม่หายขาดนะ)
ซึ่งวิธีของเราอาจจะไม่ถูกใจใคร หรืออาจจะทำให้คนอื่นแย่ลง อันนี้ขออภัยด้วยจริงๆ เราแค่อยากแชร์วิธีของเรา
คติประจำใจของเราสำหรับโรคนี้คือ "ตัวเองรู้ดีที่สุดว่าเราเป็นเพราะอะไร แล้วไปแก้ที่ตรงนั้นซะ"
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรานั่งถามตัวเองเสมอๆ ทำไมเป็นกรดไหลย้อน สาเหตุคืออะไร ทำไม ทำไม?
ซึ่งคำตอบของเราที่ได้คือ
1. เราติดนิสัยชอบกินให้อิ่ม (บางทีกินข้าวอิ่มแล้ว ก็ยังหาของหวาน หากาแฟได้อีก)
2. เรากินน้ำเปล่าน้อย (วันนึงเรากินน้ำเปล่าแค่ 3-4 แก้ว ไม่เคยกินถึง 1 ลิตร)
3. เราชอบกินอาหารรสเผ็ด รสจัด (พอไปผสมกับข้อ2 เลยทำให้เป็นแผลในกระเพาะ เราเป็นโรคกระเพาะด้วย)
4. เราขี้เกียจ ไม่ออกกำลังกาย (แล้วมันไปออกที่พุง ป่องยังกับคนท้อง)
5. เราติดกินหมากฝรั่งขั้นรุนแรง
6. ไม่มี (เราไม่กินเหล้า เบียร์ บุหรี่ น้ำอัดลม พวกนี้ตัดทิ้ง)
ข้อ 5. ฟังดูไม่เกี่ยว ก่อนอื่นบอกก่อนว่า เราเป็นคนเสพติดหมากฝรั่งมาก จะซื้ออันที่ไม่ผสมน้ำตาล+เป็นกระปุกใหญ่
วันนึงกินได้ 10 เม็ด (เคี้ยวหลังอาหาร) เช้า กลางวัน เย็น บางทีก่อนนอนก็เคี้ยวเล่น มันหายหวานแล้ว ก็ยังชอบเคี้ยวเล่น
พอวันนึงที่เราเป็นกรดไหลย้อน เรายังไม่นึกถึงหมากฝรั่งนะ
เพราะในเน็ตยังบอกว่า ให้เคี้ยวหมากฝรั่งรักษากรดไหลย้อนอยู่เลย
แต่มันมีอาการของเราครั้งหนึ่งคือ ท้องอืดมาก อืดขั้น 90% (มโนเลขเอง) เรอไม่ออก จุกลมที่คอ เหมือนมีก้อนลมหนาแน่นในท้อง
ตัดสินใจไปอาเจียนในห้องน้ำ เพราะอยากเรอ (คนเรอไม่ออกนี่มันทรมานนะ) กลายเป็นว่า แย่กว่าเดิม
นอกจากไม่เรอแล้วยังจุกที่คอเพิ่มไปอีก แต่ๆๆ..รู้สึกมีกลิ่นยางของหมากฝรั่งขึ้นมาที่คอ (บอกไม่ถูกอ่ะ ถ้าคนชอบเคี้ยวน่าจะพอนึกออก)
จนเรานึกได้ว่า "เห้ย หรือที่เป็นแบบนี้เพราะกินหมากฝรั่งมากเกินไป?"
พอไปหาข้อมูล บ้างก็ว่า เคี้ยวแล้วช่วยลดกรด / อย่าเคี้ยวเพราะเหมือนเคี้ยวลม เพิ่มกรด ฯลฯ
คือ งง สรุปไม่รู้ยังไง ตอนไปหาหมอเลยถามซะเลย หมอตอบ "เลิกกินหมากฝรั่งซะ" เพราะยิ่งกิน ยิ่งกลืนลม
เราตัดสินใจเชื่อหมอ ทุกวันนี้เราเลิกหมากฝรั่งถาวร 100% แล้วอาการดีขึ้นมากๆๆ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
กลับมาที่ข้อ 1-5 นั่นคือสาเหตุที่ทำให้เราเป็น ดังนั้นเราจึงต้องแก้ 5 ข้อนี้
1. กินให้น้อย แต่กินบ่อย
ตอนเป็นโรคนี้กินได้น้อยมาก วันนึงได้ไม่ถึง 500 กิโลแคลเลย (กินเช้า กลางวัน เย็น ได้แต่ ไข่ต้ม ไข่ตุ๋น โจ๊ก)
พอตกดึก ประมาณ 2 ทุ่ม ท้องร้องโครกคราก เหมือนหิว แต่จริงๆ ไม่หิว มันร้องเหมือนไม่มีอะไรย่อย แสบท้อง
เลยไม่รู้ว่า กินน้อยไปหรือเปล่า เลยลอง "ทดสอบกับตัวเอง" กินน้อย แต่บ่อยขึ้น (แต่อย่ากินหลัง 1 ทุ่ม)
ให้มันมีอะไรรองท้อง กรดจะได้ไม่กัดในกระเพาะ (คิดเอง) ผลคือ เรารู้สึกดีขึ้นมาก
2. กินน้ำเปล่า (ไม่เย็น) ให้ได้วันนึงมากกว่า 1 ลิตร
ช่วงแรกจะทรมาน เพราะเวลากินน้ำ มันเหมือนกลืนลมเข้าไป (แพนิคอีก)
ทำให้ยิ่งกินน้ำน้อยกว่าเดิม เพราะไม่อยากกลืนเยอะ กลัวจุกคอ สรุปเริ่มแย่กว่าเดิม ท้องโครกคราก ลมในท้องมาเต็ม
เลยฝืนใจให้กินน้ำเปล่าให้เป็นนิสัย (ย้ำ ไม่เย็น) ผลคือ เราฉี่บ่อยมาก (555) แต่เราขับถ่ายได้ดีขึ้นมาก (ปกติท้องผูก)
พอได้ถ่าย มันก็โล่งท้อง อาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ (หมอบอก ท้องผูกก็เป็นส่วนนึงทำให้แก๊สในกระเพาะเยอะ)
**สำหรับเรา น้ำเปล่า เหมือนยารักษาของเราชั้นดีเลยล่ะ**
3. งดปรุงเพิ่ม เบารสจัด
สำหรับเราไม่ได้งดถาวร คือ..เรามีความสุขกับการกิน เราอดทนไม่ได้จริงๆ ที่จะต้องกินก๋วยเตี๋ยวจืดๆ
เลยตัดสินใจได้อะไรมาจะไม่ปรุงเพิ่ม เช่น รสต้มยำ มันมายังไงก็กินยังงั้น (ปกติจะเพิ่มพริก)
และกินน้ำเปล่าในระหว่างวันให้มาก จะได้ไม่กัดกระเพาะ ทุกวันนี้เรากินเผ็ดได้นะ แต่ห้ามเผ็ดเยอะ
สำหรับเราคือ ยิ่งกินจืด = ยิ่งเครียด = เครียดแล้วเพิ่มแก๊สในกระเพาะ (แต่ใครเป็นหนัก ห้ามลอกเลียนแบบ)
4. ออกกำลังกาย ลดพุง
ตามนั้นเลย ข้อนี้ขอไม่เขียนอะไรมาก ทุกคนคงเข้าใจ
5. งดหมากฝรั่งถาวร
ตามที่เล่าไป สำหรับคนอื่นอาจมองว่าไม่เกี่ยว แต่สำหรับเรา เลิกกินหมากฝรั่งแล้วดีขึ้นมากเลย
6. (แถม) ห้ามเครียด ยิ่งเครียดยิ่งอาการกำเริบ บอกเลย!!
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จบแล้วกับวิธีดูแลฉบับเรา ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน ถ้าวิธีของเราคือผิด ต้องกราบขออภัยจริงๆ
สำหรับเราทดสอบกับตัวเองแล้วมันดีขึ้น เรายังกินอาหารที่เราชอบได้อยู่ เพียงแต่กินให้น้อย เน้นน้ำเปล่าให้มาก
เพราะยิ่งเครียด ยิ่งแย่จริงๆ เราหวังว่ามันอาจเป็นประโยชน์สำหรับใครบางคนได้บ้าง
ยา คือการรักษาที่ปลายเหตุ
แต่วิถีชีวิตการกิน คือการป้องกันที่ดีที่สุด
ไม่งั้นมันก็จะวนเวียนไปมา รักษาไม่มีวันหาย เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ