.
จั่วหัวกะทู้ ก็รู้เลยว่า จขกท.ง้างขากะจะล่อทีมลิเวอร์พูลทีมรักของตัวเองมาแต่ไกล ซึ่งแฟนหงส์ส่วนใหญ่คงไม่เห็นด้วย ที่ยังจะมีคนงัดเอาเรื่องในเชิงลบ ถึงจะเป็นเรื่อง”
เล็กๆน้อยๆ” ก็เถอะ มาพูดถึงในยามที่ทีมได้ผลลัพธ์ที่ดี คือ”
ชนะ”ตามที่ต้องการ
ก็นั่นสิฟร่ะ แล้วจะมาเขียนให้คนร้องด่าเฮีย(พี่ชาย) กันทำไม
แต่ก็เอาน่า ในฐานะที่เป็นคนที่ตั้งกะทู้คุยเรื่องบอลอย่างจริงจังแล้ว มีคนกด”
ขำกลิ้ง” ให้มากมายจนอาจเผลอคิดไปได้ ว่า จขกท.ชอบตั้งกะทู้ตลก ดังนั้นจะไปสะทกสะท้านอะไร กับแค่การโดนด่าเฮีย(พี่ชาย)ที่ไม่มีตัวตน เพราะเกิดมาเป็นลูกโทนคนเดียวของครอบครัว
ถ้าว่ากันเรื่องของแท๊คติคล้วนๆ เกมส์กับ PSG เมื่อคืน เจอร์เก้น คล้อปแสดงให้เห็น”
กึ๋น”ในการวางแผน ด้วยการทำลายจังหวะเกมส์รุกของฝ่ายตรงข้าม ด้วยนักเตะเพียงคนเดียว จอร์แดน เฮนเดอร์สัน แม้ว่า แคปปิตัน คนนี้ จะเป็นคนที่ทำลายจังหวะเกมส์รุกของทีมตัวเองเช่นกัน เพราะพี่ท่านไม่คิดจะทำห่านอะไรในจังหวะเตรียมเซ้ตบอล นอกจาก “
แปะไป แปะมา” สร้างความรำคาญลูกตาให้กับแฟนบอลใจร้อน ที่อยากเห็นการลำเลียงบอลขึ้นหน้า มากกว่าการส่งบอลย้อนคืนไปให้กองหลังจากเท้าของอาแปะ
ถ้าให้ลองหาเหตุผลดีๆสักข้อมารองรับการกระทำแบบนี้ของ แคปปิตันแล้วล่ะก็ ก็ต้องเปิดตำราพิชัยยุทธลูกหนัง แล้วตะโกนดังๆ ว่า “
มันเป็นการแก้เกมส์เพลสเร็วของแนวรุกฝ่ายตรงข้ามนะโว้ย” ซึ่งพอตอบเสร็จก็มานั่งขำคนเดียวเงียบๆ เพราะเมื่อคืนนี้ ผู้เล่นในแนวรุกของ PSG พยายามยืนเพลสด้วยสายตากันอย่างจริงจังมาก จนสงสัยว่า ขนที่หลังของเนยมาร์ กับ สเตอริจ ขนของใครยาวกว่ากัน
แต่ถ้าบอกว่าคล้อปส่งเฮนโด้ลงมา เพราะต้องการแค่ผลในการรุกไล่ทำลายเกมส์รุกคู่ต่อสู้เท่านั้น ไม่ได้ต้องการการสนับสนุนหรือขึ้นเกมส์รุกจากเฮนโด้ ที่ไม่ต้องออกแรงในเกมส์รุกอะไร ทีมยังทำได้ตั้ง 3 ประตู ก็คงใช้ได้สำหรับคำตอบนี้ แต่มันจะดีกว่าไหม หากเฮนโด้ลดการทำลายจังหวะขึ้นเกมส์ของทีมลงบ้าง ในยามที่เขาไม่ได้มีความกดดันจากผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม
ขึ้นบอลเองบ้างเหอะ แคป..
หน้าที่ขึ้นเกมส์รุก ที่เฮนโด้ ควรมีส่วนร่วมแต่เขาไม่ทำ ก็กลายเป็น 2 คู่เซ้นเตอร์ อย่าง ฟานไดร์ กับ โก เมช ที่คนหนึ่ง คอยครอสบอลยาวไปทางริมเส้น กับอีกคนที่หาจังหวะเลี้ยงตัดทะลุขึ้นมาเพื่อป้อนบอลไปให้แนวหน้า การวางบอลยาวของฟานไดร์ แม่นยำใช้ได้ไม่มีปัญหา
แต่การเลี้ยงตัดทะลุขึ้นมาของโกเมช กลับไม่ค่อยเกิดประโยชน์ ทั้งๆที่เลี้ยงขึ้นมาได้อย่าง”สวยๆ”หลายครั้ง แต่จังหวะจ่ายต่อไป ทีมไม่ได้เปรียบเท่าไร อาจเป็น
เพราะ”เซ้นต์บอล” ของเจ้าตัวตามบรรดาแนวรุกไม่ทัน หลายครั้งที่ปีก 2 ข้าง สปีดตัวหวังลูกครอสข้ามไลน์จากโกเมช เจ้าตัวก็ไม่เห็น กลายเป็นว่า ต้องวิ่ง”
ตีรถเปล่า”ไปหลายเที่ยว หรือ ไอ้จังหวะที่เห็นและจ่ายให้จริงตามที่ปีกต้องการ ก็ดันเปิดไปติดนู้นติดนี้อีก ซึ่งจุดนี้ถ้าคล้อปกลับไปหาวิธีพัฒนาโกเมชให้ได้ ทั้งทีมและตัวโกเมชเอง ล้วนแต่ได้ประโยชน์
เมื่อกี้พูดถึงการครอสบอลยาวไปทางริมเส้น ก็ต้องนึกถึง ไอ้หนุ่ม “
เปิดร้อยได้ลูก” อย่าง เทรน อาโนลด์ ซึ่งก่อนวิจารณ์ก็ต้องชมก่อนว่า เมื่อคืนนี้ เทรน อาโนลด์ เล่นได้ดีที่สุดของฤดูกาลนับตั้งแต่เปิดซีซั่น ตามประกบจัดการหนึ่งในผู้เล่นที่มีมูลค่า”
แพง”ที่สุดในโลกเวลานี้ อย่าง เนยมาร์ ได้ค่อนข้างชัด ยิงฟรีคิกก็เกือบจะเฉียบขาด เสียดายที่ระยะใกล้ไปหน่อย เลยได้แค่คาน แต่เทรนจะดีกว่านี้มาก หากไม่เป็นดั่งฉายาที่ผมตั้งให้ และไอ้ที่ว่าได้นั้น หมายถึงแนวกรุกได้จบสกอร์นะ ไม่ใช่ว่าได้ประตู
เมื่อคืน เกมส์บุกริมเส้นขึ้นทางด้านเทรนมาก ดูจากสถิติ การครอสเข้ามาหน้าประตู 12 ครั้ง ในขณะที่จากฝั่งซ้ายของโรเบิร์ตสัน 5 ครั้ง แต่ได้ 1 แอสซิสต์ คำถามถ้าอยากจะถาม ก็คงจะเหมือนๆกันระหว่างแฟนบอลและ แนวรุกด้านหน้าของลิเวอร์พูล คือ เทรน”
เมิงเปิดไปไหน” ถึงจะมีจังหวะที่เปิดดี สเตอริจได้โหม่งจ่อๆ แต่ไม่ได้ประตู แต่ถ้าดูจากปริมาณแล้ว ถือว่าคุณภาพการเปิดบอล อยู่ในขั้น ค่อนข้างแย่ และก็ไม่อยากค่อนแคะ เรื่องจับบอลเลี้ยงบอลที่ทำ”
ลั่น”เป็นประจำนะ เอาแค่เรื่องเดียว เรื่องเปิดบอล อยากให้เป็นการบ้านของคล้อป ที่หาทางพัฒนาแก้ไข ไอ้เด็กคนนี้จะได้เป็นอนาคตของทีมแบบจริงๆจังๆ ไม่ใช่มานั่งอวยกันเพราะแค่เป็นเด็กสโมสร
ส่วนฟอร์มการเล่นของกองหน้าและปัญหาที่มีคนพยายามปั้นให้เป็นเรื่อง”
เกาเหลา” กะทู้นี้ ไม่พิมพ์ดีกว่า เจ็บตา เพราะยังไงๆผลลัพธ์มันก็คือ ชนะ จะไปคิดอะไรมากกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ ส่วนไอ้สามคนที่ด่าไป ก็อย่าได้คิดมากอะไรเลยครับ เล็กๆน้อยๆ เช่นกัน เพราะประเด็นมันก็คือ ความบกพร่องหรือย่ำแย่ มีได้เพราะมันพร้อมจะถูกมองข้าม หากคุณได้ชัยชนะ
คำถาม คือ แล้วจะชนะทุกนัดต่อไปไหม
ว่าแล้วก็จบมันไปดื้อๆ 55+
ลิเวอร์พูล กับ เรื่องเล็กๆน้อยๆที่มองเห็น แต่มองข้ามได้เพราะปิดตามองไว้ข้างหนึ่ง
.
จั่วหัวกะทู้ ก็รู้เลยว่า จขกท.ง้างขากะจะล่อทีมลิเวอร์พูลทีมรักของตัวเองมาแต่ไกล ซึ่งแฟนหงส์ส่วนใหญ่คงไม่เห็นด้วย ที่ยังจะมีคนงัดเอาเรื่องในเชิงลบ ถึงจะเป็นเรื่อง”เล็กๆน้อยๆ” ก็เถอะ มาพูดถึงในยามที่ทีมได้ผลลัพธ์ที่ดี คือ”ชนะ”ตามที่ต้องการ
ก็นั่นสิฟร่ะ แล้วจะมาเขียนให้คนร้องด่าเฮีย(พี่ชาย) กันทำไม
แต่ก็เอาน่า ในฐานะที่เป็นคนที่ตั้งกะทู้คุยเรื่องบอลอย่างจริงจังแล้ว มีคนกด”ขำกลิ้ง” ให้มากมายจนอาจเผลอคิดไปได้ ว่า จขกท.ชอบตั้งกะทู้ตลก ดังนั้นจะไปสะทกสะท้านอะไร กับแค่การโดนด่าเฮีย(พี่ชาย)ที่ไม่มีตัวตน เพราะเกิดมาเป็นลูกโทนคนเดียวของครอบครัว
ถ้าว่ากันเรื่องของแท๊คติคล้วนๆ เกมส์กับ PSG เมื่อคืน เจอร์เก้น คล้อปแสดงให้เห็น”กึ๋น”ในการวางแผน ด้วยการทำลายจังหวะเกมส์รุกของฝ่ายตรงข้าม ด้วยนักเตะเพียงคนเดียว จอร์แดน เฮนเดอร์สัน แม้ว่า แคปปิตัน คนนี้ จะเป็นคนที่ทำลายจังหวะเกมส์รุกของทีมตัวเองเช่นกัน เพราะพี่ท่านไม่คิดจะทำห่านอะไรในจังหวะเตรียมเซ้ตบอล นอกจาก “แปะไป แปะมา” สร้างความรำคาญลูกตาให้กับแฟนบอลใจร้อน ที่อยากเห็นการลำเลียงบอลขึ้นหน้า มากกว่าการส่งบอลย้อนคืนไปให้กองหลังจากเท้าของอาแปะ
ถ้าให้ลองหาเหตุผลดีๆสักข้อมารองรับการกระทำแบบนี้ของ แคปปิตันแล้วล่ะก็ ก็ต้องเปิดตำราพิชัยยุทธลูกหนัง แล้วตะโกนดังๆ ว่า “มันเป็นการแก้เกมส์เพลสเร็วของแนวรุกฝ่ายตรงข้ามนะโว้ย” ซึ่งพอตอบเสร็จก็มานั่งขำคนเดียวเงียบๆ เพราะเมื่อคืนนี้ ผู้เล่นในแนวรุกของ PSG พยายามยืนเพลสด้วยสายตากันอย่างจริงจังมาก จนสงสัยว่า ขนที่หลังของเนยมาร์ กับ สเตอริจ ขนของใครยาวกว่ากัน
แต่ถ้าบอกว่าคล้อปส่งเฮนโด้ลงมา เพราะต้องการแค่ผลในการรุกไล่ทำลายเกมส์รุกคู่ต่อสู้เท่านั้น ไม่ได้ต้องการการสนับสนุนหรือขึ้นเกมส์รุกจากเฮนโด้ ที่ไม่ต้องออกแรงในเกมส์รุกอะไร ทีมยังทำได้ตั้ง 3 ประตู ก็คงใช้ได้สำหรับคำตอบนี้ แต่มันจะดีกว่าไหม หากเฮนโด้ลดการทำลายจังหวะขึ้นเกมส์ของทีมลงบ้าง ในยามที่เขาไม่ได้มีความกดดันจากผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม
หน้าที่ขึ้นเกมส์รุก ที่เฮนโด้ ควรมีส่วนร่วมแต่เขาไม่ทำ ก็กลายเป็น 2 คู่เซ้นเตอร์ อย่าง ฟานไดร์ กับ โก เมช ที่คนหนึ่ง คอยครอสบอลยาวไปทางริมเส้น กับอีกคนที่หาจังหวะเลี้ยงตัดทะลุขึ้นมาเพื่อป้อนบอลไปให้แนวหน้า การวางบอลยาวของฟานไดร์ แม่นยำใช้ได้ไม่มีปัญหา แต่การเลี้ยงตัดทะลุขึ้นมาของโกเมช กลับไม่ค่อยเกิดประโยชน์ ทั้งๆที่เลี้ยงขึ้นมาได้อย่าง”สวยๆ”หลายครั้ง แต่จังหวะจ่ายต่อไป ทีมไม่ได้เปรียบเท่าไร อาจเป็นเพราะ”เซ้นต์บอล” ของเจ้าตัวตามบรรดาแนวรุกไม่ทัน หลายครั้งที่ปีก 2 ข้าง สปีดตัวหวังลูกครอสข้ามไลน์จากโกเมช เจ้าตัวก็ไม่เห็น กลายเป็นว่า ต้องวิ่ง”ตีรถเปล่า”ไปหลายเที่ยว หรือ ไอ้จังหวะที่เห็นและจ่ายให้จริงตามที่ปีกต้องการ ก็ดันเปิดไปติดนู้นติดนี้อีก ซึ่งจุดนี้ถ้าคล้อปกลับไปหาวิธีพัฒนาโกเมชให้ได้ ทั้งทีมและตัวโกเมชเอง ล้วนแต่ได้ประโยชน์
เมื่อกี้พูดถึงการครอสบอลยาวไปทางริมเส้น ก็ต้องนึกถึง ไอ้หนุ่ม “เปิดร้อยได้ลูก” อย่าง เทรน อาโนลด์ ซึ่งก่อนวิจารณ์ก็ต้องชมก่อนว่า เมื่อคืนนี้ เทรน อาโนลด์ เล่นได้ดีที่สุดของฤดูกาลนับตั้งแต่เปิดซีซั่น ตามประกบจัดการหนึ่งในผู้เล่นที่มีมูลค่า”แพง”ที่สุดในโลกเวลานี้ อย่าง เนยมาร์ ได้ค่อนข้างชัด ยิงฟรีคิกก็เกือบจะเฉียบขาด เสียดายที่ระยะใกล้ไปหน่อย เลยได้แค่คาน แต่เทรนจะดีกว่านี้มาก หากไม่เป็นดั่งฉายาที่ผมตั้งให้ และไอ้ที่ว่าได้นั้น หมายถึงแนวกรุกได้จบสกอร์นะ ไม่ใช่ว่าได้ประตู
เมื่อคืน เกมส์บุกริมเส้นขึ้นทางด้านเทรนมาก ดูจากสถิติ การครอสเข้ามาหน้าประตู 12 ครั้ง ในขณะที่จากฝั่งซ้ายของโรเบิร์ตสัน 5 ครั้ง แต่ได้ 1 แอสซิสต์ คำถามถ้าอยากจะถาม ก็คงจะเหมือนๆกันระหว่างแฟนบอลและ แนวรุกด้านหน้าของลิเวอร์พูล คือ เทรน”เมิงเปิดไปไหน” ถึงจะมีจังหวะที่เปิดดี สเตอริจได้โหม่งจ่อๆ แต่ไม่ได้ประตู แต่ถ้าดูจากปริมาณแล้ว ถือว่าคุณภาพการเปิดบอล อยู่ในขั้น ค่อนข้างแย่ และก็ไม่อยากค่อนแคะ เรื่องจับบอลเลี้ยงบอลที่ทำ”ลั่น”เป็นประจำนะ เอาแค่เรื่องเดียว เรื่องเปิดบอล อยากให้เป็นการบ้านของคล้อป ที่หาทางพัฒนาแก้ไข ไอ้เด็กคนนี้จะได้เป็นอนาคตของทีมแบบจริงๆจังๆ ไม่ใช่มานั่งอวยกันเพราะแค่เป็นเด็กสโมสร
ส่วนฟอร์มการเล่นของกองหน้าและปัญหาที่มีคนพยายามปั้นให้เป็นเรื่อง”เกาเหลา” กะทู้นี้ ไม่พิมพ์ดีกว่า เจ็บตา เพราะยังไงๆผลลัพธ์มันก็คือ ชนะ จะไปคิดอะไรมากกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ ส่วนไอ้สามคนที่ด่าไป ก็อย่าได้คิดมากอะไรเลยครับ เล็กๆน้อยๆ เช่นกัน เพราะประเด็นมันก็คือ ความบกพร่องหรือย่ำแย่ มีได้เพราะมันพร้อมจะถูกมองข้าม หากคุณได้ชัยชนะ
คำถาม คือ แล้วจะชนะทุกนัดต่อไปไหม
ว่าแล้วก็จบมันไปดื้อๆ 55+