คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
มันเป็นคำถามที่ตอบยากมากครับ
เพราะคำว่า "คุ้ม" มันแปลได้หลายความหมายครับ
เช่น ถ้ามองว่า คุ้ม คือ ซื้อรถอะไร เจ็บตัวน้อยสุด เวลาขาย เงินที่สูญไปน้อยสุด อันนี้ แทบไม่ต้องคำนวณครับ นั่นคือ เล่นรถ ECO CAR หรือรถ 1500 ซีซี เจ้าตลาด ยังไงก็ขาดทุนน้อยสุด เงินสูญน้อยสุด
แต่ถ้าคำว่า คุ้ม มันคือ เรื่อง อื่น เช่น ความปลอดภัย ที่เกิดอุบัติเหตุหนัก แล้วคุณรอดชีวิตมาได้ จากที่ยอมเสียเงินซื้อรถยุโรป ที่หากมองว่า คุณไปซื้อรถญี่ปุ่ ECO CAR ขับ อาจจะเสียชีวิตไปแล้ว อันนี้ มันก็ คุ้ม ที่ไม่สามารถประเมินเป็นมูลค่าไม่ได้อยู่แล้ว
แต่ในคำถามของ จขกท คือ ผมเข้าใจว่า น่าจะมองเรื่อง ความคุ้มของเรื่อง ราคาเพียงอย่างเดียว ประมาณว่า ควรขายรถเมื่อใช้ไปกี่ปี ถึงจะขาดทุนน้อยที่สุด
มันก็ตอบยากอยู่ดีเหละ เพราะ การขายรถในปัจจุบัน ปัจจัยเรื่อง ราคาก็ไม่เหมือนสมัยก่อน ที่คนจะมองแต่ราคาถูกอย่างเดียว
แต่ในปัจจุบัน เขามองถึง สภาพรถเป็นหลัก วิ่งเยอะมั้ย เข้าศูนย์ทุกครั้งมั้ย มีชนมั้ย สภาพเป็นยังไง แล้วถึงค่อยมาตีเป็นราคา จะว่าไป การเสื่อมราคา หรือ ราคาที่ตกลงของรถ มันก็ไม่เท่ากัน
นี่ยังไม่พูดถึง รถที่ยอดฮิตในตลาดทั้งป้ายแดง และมืสองในบ้านเรา เป็นอันดับต้น ๆ เช่น Fortuner CIVIC VIOS JAZZ ประมาณนี้ ที่แน่นอนว่า ราคามันก็ย่อมจะตกน้อยกว่า รถที่ไม่ได้รับความนิยม ดังนั้น ตัวแปรมันแทบจะต่างกันหมด
แล้วไหนจะเรื่อง ตัวแปร การซ่อมบำรุงอีก จริงอยู่ว่า เมื่อ ราคารถร่วงลงถึงจุด ๆ นึง ราคามันก็จะเริ่มขยับช้าลง สมมติว่า รถราคา 8 ปี กับ 10 ปี ราคาขายต่อ อาจไม่ต่างกันมากแล้ว (อันนี้เป็นรถที่ค่อนข้างนิยมด้วยนะครับ) เช่น สมมติ ตอน 8 ปี คุณอาจจะขายได้ 5 แสน และหากยังไม่ขายไปขายในช่วงปีที่ 10 ราคาอาจจะเหลือ 4.5 แสนก็ได้ แต่ มันอาจจะกลายเป็นว่า ใน 2 ปีนั้น คุณต้องซ่อมบำรุงอะไรมัน เช่น สมมติ ช่วงล่าง ประมาณ 30,000 บาท หรือ วันดีคืนดี คอมแอร์เสีย ตู้แอร์รั่ว ซ่อมอีกเกือบ 20,000 บาท
เพราะฉะนั้น มันก็ตอบยาก ว่า ควรขาย ณ เวลาไหน แต่สำหรับผม มองว่า ไม่ควรเกิน 7 ปี หรือ อยู่ในช่วง 5 - 7 ปี น่าจะเหมาะสมที่สุด
เพราะคำว่า "คุ้ม" มันแปลได้หลายความหมายครับ
เช่น ถ้ามองว่า คุ้ม คือ ซื้อรถอะไร เจ็บตัวน้อยสุด เวลาขาย เงินที่สูญไปน้อยสุด อันนี้ แทบไม่ต้องคำนวณครับ นั่นคือ เล่นรถ ECO CAR หรือรถ 1500 ซีซี เจ้าตลาด ยังไงก็ขาดทุนน้อยสุด เงินสูญน้อยสุด
แต่ถ้าคำว่า คุ้ม มันคือ เรื่อง อื่น เช่น ความปลอดภัย ที่เกิดอุบัติเหตุหนัก แล้วคุณรอดชีวิตมาได้ จากที่ยอมเสียเงินซื้อรถยุโรป ที่หากมองว่า คุณไปซื้อรถญี่ปุ่ ECO CAR ขับ อาจจะเสียชีวิตไปแล้ว อันนี้ มันก็ คุ้ม ที่ไม่สามารถประเมินเป็นมูลค่าไม่ได้อยู่แล้ว
แต่ในคำถามของ จขกท คือ ผมเข้าใจว่า น่าจะมองเรื่อง ความคุ้มของเรื่อง ราคาเพียงอย่างเดียว ประมาณว่า ควรขายรถเมื่อใช้ไปกี่ปี ถึงจะขาดทุนน้อยที่สุด
มันก็ตอบยากอยู่ดีเหละ เพราะ การขายรถในปัจจุบัน ปัจจัยเรื่อง ราคาก็ไม่เหมือนสมัยก่อน ที่คนจะมองแต่ราคาถูกอย่างเดียว
แต่ในปัจจุบัน เขามองถึง สภาพรถเป็นหลัก วิ่งเยอะมั้ย เข้าศูนย์ทุกครั้งมั้ย มีชนมั้ย สภาพเป็นยังไง แล้วถึงค่อยมาตีเป็นราคา จะว่าไป การเสื่อมราคา หรือ ราคาที่ตกลงของรถ มันก็ไม่เท่ากัน
นี่ยังไม่พูดถึง รถที่ยอดฮิตในตลาดทั้งป้ายแดง และมืสองในบ้านเรา เป็นอันดับต้น ๆ เช่น Fortuner CIVIC VIOS JAZZ ประมาณนี้ ที่แน่นอนว่า ราคามันก็ย่อมจะตกน้อยกว่า รถที่ไม่ได้รับความนิยม ดังนั้น ตัวแปรมันแทบจะต่างกันหมด
แล้วไหนจะเรื่อง ตัวแปร การซ่อมบำรุงอีก จริงอยู่ว่า เมื่อ ราคารถร่วงลงถึงจุด ๆ นึง ราคามันก็จะเริ่มขยับช้าลง สมมติว่า รถราคา 8 ปี กับ 10 ปี ราคาขายต่อ อาจไม่ต่างกันมากแล้ว (อันนี้เป็นรถที่ค่อนข้างนิยมด้วยนะครับ) เช่น สมมติ ตอน 8 ปี คุณอาจจะขายได้ 5 แสน และหากยังไม่ขายไปขายในช่วงปีที่ 10 ราคาอาจจะเหลือ 4.5 แสนก็ได้ แต่ มันอาจจะกลายเป็นว่า ใน 2 ปีนั้น คุณต้องซ่อมบำรุงอะไรมัน เช่น สมมติ ช่วงล่าง ประมาณ 30,000 บาท หรือ วันดีคืนดี คอมแอร์เสีย ตู้แอร์รั่ว ซ่อมอีกเกือบ 20,000 บาท
เพราะฉะนั้น มันก็ตอบยาก ว่า ควรขาย ณ เวลาไหน แต่สำหรับผม มองว่า ไม่ควรเกิน 7 ปี หรือ อยู่ในช่วง 5 - 7 ปี น่าจะเหมาะสมที่สุด
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
### สรุปมีคนเข้าใจ จขกท. อยู่นับหัวได้เลย ###
เขาหมายถึงว่า "รถยนต์มือสอง" ปกติทุกรุ่นราคาจะตกลงทุกปี แน่นอนว่าแต่ละปีก็ตกลงไม่เท่ากัน (สมมุติ)
1 ปี ราคาตกเหลือ 80%
2 ปี ราคาตกเหลือ 50%
3 ปี ราคาตกเหลือ 40%
10 ปี+ ราคาไม่ตกแล้ว (หรือตกแต่งน้อยมาก)
อารมณ์เหมือนรถยนต์ปี 1990 กับ 1991 อายุของรถไม่เท่ากัน แต่ราคา ณ ปัจจุบันคงพอกัน
อันนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ จขกท. ต้องการจะสื่อมากกว่า ว่าหากซื้อมือสองควรซื้อช่วงปีไหนดี
ซึ่งสมมุติว่ากราฟราคาเป็นไปตามที่ผมว่า ซื้อสักปีที่สองน่าจะคุ้มว่า เพราะราคาตกลงไปเยอะ
ไม่ใช่ตอบว่าเอาไปใช้โน้นนี่นั่นจนคุ้ม วู้วววววววววววววววววววววววววววววววว
เขาหมายถึงว่า "รถยนต์มือสอง" ปกติทุกรุ่นราคาจะตกลงทุกปี แน่นอนว่าแต่ละปีก็ตกลงไม่เท่ากัน (สมมุติ)
1 ปี ราคาตกเหลือ 80%
2 ปี ราคาตกเหลือ 50%
3 ปี ราคาตกเหลือ 40%
10 ปี+ ราคาไม่ตกแล้ว (หรือตกแต่งน้อยมาก)
อารมณ์เหมือนรถยนต์ปี 1990 กับ 1991 อายุของรถไม่เท่ากัน แต่ราคา ณ ปัจจุบันคงพอกัน
อันนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ จขกท. ต้องการจะสื่อมากกว่า ว่าหากซื้อมือสองควรซื้อช่วงปีไหนดี
ซึ่งสมมุติว่ากราฟราคาเป็นไปตามที่ผมว่า ซื้อสักปีที่สองน่าจะคุ้มว่า เพราะราคาตกลงไปเยอะ
ไม่ใช่ตอบว่าเอาไปใช้โน้นนี่นั่นจนคุ้ม วู้วววววววววววววววววววววววววววววววว
แสดงความคิดเห็น
มีใครเคยคำนวณไหมว่า ?! ใช้รถยนต์กี่ปีถึงคุ้มกับราคาขายต่อที่ลดลง ?!?!
แล้วปีต่อๆไป จะลดลงอีกกี่เปอร์เซนต์ ?
จึงสงสัยว่า เราใช้รถกี่ปี แล้วขายทิ้ง ถึงจะคุ้มค่ามากที่สุด ?