"วันอาทิตย์ นุ่งเขียว ห่มแดง หรือนุ่งผ้าลายพื้นสีลิ้นจี่ หรือสีเลือดหมู ห่มโศก”
Jumper Skirt ทรงตะเบงมาน ด้านล่างจีบพลีทให้นึกถึงกลีบหน้านาง ถุงเท้าเป็นลายดอกไม้ร่วงประยุกต์

“วันจันทร์ นุ่งเหลืองอ่อนห่มน้ำเงินอ่อน หรือจะห่มบานเย็นก็ได้ หรือถ้านุ่งสีน้ำเงินนกพิราบต้องห่มจำปาแดง"
เสื้อกั๊กต่อชายบ่ายาวลงมาแบบผ้าพาดไหล่ โจงกระเบนกับ Over Skirt ถุงเท้ามาจากลายประจำยามแก้วชิงดวง

"วันอังคาร นุ่งสีปูนหรือม่วงเม็ดมะปรางแล้วห่มโศก หรือถ้านุ่งโศกหรือเขียวอ่อน ต้องห่มม่วงอ่อน"
เพราะเลือกใช้สีม่วง-โศกเลยปรับสีให้สดใสขึ้น ใช้สีเหลืองอ่อนเป็นสีกลาง กระโปรงมาจากโจงกระเบน กลางอกและถุงเท้าเป็นลายประจำยาม

"วันพุธ นุ่งสีถั่วก็ได้ สีเหล็กก็ได้แล้วห่มจำปา"
กระโปรงคอร์เซตจีบหน้าเหมือนจีบหน้านางแต่งโบหลัง ลายเป็นลายดาว

"วันพฤหัส นุ่งเขียวใบไม้ ห่มแดงเลือดนก หรือนุ่งแสดห่มเขียวอ่อน"
เบรคสีด้วยแจ็กเก็ตทรงราชปะแตนคอปกหางนางแอ่น ปรับความสดสีเขียวลงใช้ลายง่ายๆอย่างลาย Plaid

"วันศุกร์ นุ่งน้ำเงินแก่ ห่มเหลือง"
คอกะลาสีเปิดไหล่ ซ้อนใต้ปกด้วยสไบยาว กระโปรงจีบซ้อนดัดแปลงมาจากชายพกของจีบหน้านาง ลายเป็นลายดอกไม้ร่วงประยุกต์

"วันเสาร์ นุ่งเม็ดมะปราง ห่มโศก หรือนุ่งผ้าลายพื้นม่วง ห่มโศก"
ไม่อยากให้ซ้ำกับวันอังคารเลยใช้สีดำเป็นสีกลาง พาดไหล่สองข้างติดด้วยเข็มกลัดแล้วผูกเป็นโบติดกับคอร์เซ็ตโจงกระเบนอีกที ลวดลายดัดแปลงมาจากลายกนก