คือเห็นแล้วเพลียแทนร้านจริงๆ ครับ โดยเฉพาะเมื่อวานผมไปใช้บริการที่ KFC สาขาเดอะมอลท่าพระ
ซึ่งก่อนที่ผมจะไปกดซอส มีคุณผู้หญิงคนนึง ซึ่งมากับแฟนนั่นแหละ เดินไปถึงที่กดซอสก่อน แล้วกดแบบว่า เอาถาดกระดาษกดใส่ๆ ทั้งซอสพริกและซอสมะเขือเทศ ผมยืนรออยู่ข้างหลังและมองอยู่ คิดในใจเมื่อไหร่จะได้กด นางกดจนกระทั่งได้ยินเสียงลม หมายถึงซอสหมด นางถึงจะเดินออก มองไปที่ถาดกดซอสของนาง ซอสพริกและซอสมะเขือเทศเต็มถาด ความสูงเกือบๆ ครึ่งหนึ่งของถาดเลย ย้ำว่า ซอสสูงครึ่งหนึ่งของถาดเลย จนเวลาถือต้องถือสองมือเพราะมันหนัก
พอถึงคิวผมกด ซอสมะเขือเทศหมดครับ เหลือแต่ซอสพริก ต้องเรียกพนักงาน แล้วมีคนต่อคิวหลังผมด้วยนะครับหลายคนอยู่ ก็รอกันไป
ปกติผมจะกดแค่พอกิน ซอสพริกกับซอสมะเขือเทศอย่างละถ้วย เอาแค่เกือบเต็มถ้วยไม่ต้องล้นออกมา ถ้าหมดก็ไปกดใหม่ เขามีถ้วยให้ใส่ก็กดใส่ถ้วยเถอะครับ ถาดนั้นมีไว้สำหรับใส่อาหารและเป็นภาชนะรองกิน
ผมมองไปที่โต๊ะที่ผู้หญิงคนนั้นนั่งกับแฟนสองคน นั่งขำกันด้วยนะ เห็นสั่งเซ็ตมาไม่ใช่เซ็ตใหญ่ ซึ่งซอสที่กดนั่น ผมยังคิดเลยว่าจะกินหมดไหม คือปริมาณมันได้ซอสมะเขือเทศโรซ่าขวดนึงเลยนะนั่น
พอสองคนนั้นกินเสร็จลุกออกไป พนักงานมาเก็บโต๊ะ ผมคิดในใจ ว่าสองคนนั้นกินซอสหมดไหม ผมเห็นพนักงานเอาโทรศัพท์ถ่ายรูปไว้ แสดงว่าคงเหลือบานแน่ คือกดมากินทิ้งกินขว้างชัดๆ ถ้ากดมาเยอะแล้วกินหมดจะไม่ว่าเลย
ปริมาณซอสที่ผู้หญิงคนนั้นกด ประมาณ 5 เท่าของรูป No ได้
เลยอยากจะมาบอกว่า เวลากดซอส กดแค่พอกินก็พอครับ เขามีถ้วยให้ใส่ก็กดใส่ถ้วยซะเถอะครับ ซอสพริก-ซอสมะเขือเทศ ก็มีต้นทุนของเขาอยู่ ผมคิดว่า ถ้าทุกคนกดซอสแค่พอประมาณ ราคาอาหารในร้านอาจจะถูกกว่านี้ก็เป็นได้นะครับ อีกอย่างเมื่อซอสพวกนี้เหลือทิ้ง ก็จะเพิ่มมลภาวะอีกด้วยนะครับ
ภาพปริมาณซอสที่ KFC สาขาหนึ่งใช้ ไม่ถึง 1 วัน
หยุดเถอะครับ การกดซอส KFC จนเต็มถาดแล้วกินไม่หมด
ซึ่งก่อนที่ผมจะไปกดซอส มีคุณผู้หญิงคนนึง ซึ่งมากับแฟนนั่นแหละ เดินไปถึงที่กดซอสก่อน แล้วกดแบบว่า เอาถาดกระดาษกดใส่ๆ ทั้งซอสพริกและซอสมะเขือเทศ ผมยืนรออยู่ข้างหลังและมองอยู่ คิดในใจเมื่อไหร่จะได้กด นางกดจนกระทั่งได้ยินเสียงลม หมายถึงซอสหมด นางถึงจะเดินออก มองไปที่ถาดกดซอสของนาง ซอสพริกและซอสมะเขือเทศเต็มถาด ความสูงเกือบๆ ครึ่งหนึ่งของถาดเลย ย้ำว่า ซอสสูงครึ่งหนึ่งของถาดเลย จนเวลาถือต้องถือสองมือเพราะมันหนัก
พอถึงคิวผมกด ซอสมะเขือเทศหมดครับ เหลือแต่ซอสพริก ต้องเรียกพนักงาน แล้วมีคนต่อคิวหลังผมด้วยนะครับหลายคนอยู่ ก็รอกันไป
ปกติผมจะกดแค่พอกิน ซอสพริกกับซอสมะเขือเทศอย่างละถ้วย เอาแค่เกือบเต็มถ้วยไม่ต้องล้นออกมา ถ้าหมดก็ไปกดใหม่ เขามีถ้วยให้ใส่ก็กดใส่ถ้วยเถอะครับ ถาดนั้นมีไว้สำหรับใส่อาหารและเป็นภาชนะรองกิน
ผมมองไปที่โต๊ะที่ผู้หญิงคนนั้นนั่งกับแฟนสองคน นั่งขำกันด้วยนะ เห็นสั่งเซ็ตมาไม่ใช่เซ็ตใหญ่ ซึ่งซอสที่กดนั่น ผมยังคิดเลยว่าจะกินหมดไหม คือปริมาณมันได้ซอสมะเขือเทศโรซ่าขวดนึงเลยนะนั่น
พอสองคนนั้นกินเสร็จลุกออกไป พนักงานมาเก็บโต๊ะ ผมคิดในใจ ว่าสองคนนั้นกินซอสหมดไหม ผมเห็นพนักงานเอาโทรศัพท์ถ่ายรูปไว้ แสดงว่าคงเหลือบานแน่ คือกดมากินทิ้งกินขว้างชัดๆ ถ้ากดมาเยอะแล้วกินหมดจะไม่ว่าเลย
ปริมาณซอสที่ผู้หญิงคนนั้นกด ประมาณ 5 เท่าของรูป No ได้
เลยอยากจะมาบอกว่า เวลากดซอส กดแค่พอกินก็พอครับ เขามีถ้วยให้ใส่ก็กดใส่ถ้วยซะเถอะครับ ซอสพริก-ซอสมะเขือเทศ ก็มีต้นทุนของเขาอยู่ ผมคิดว่า ถ้าทุกคนกดซอสแค่พอประมาณ ราคาอาหารในร้านอาจจะถูกกว่านี้ก็เป็นได้นะครับ อีกอย่างเมื่อซอสพวกนี้เหลือทิ้ง ก็จะเพิ่มมลภาวะอีกด้วยนะครับ
ภาพปริมาณซอสที่ KFC สาขาหนึ่งใช้ ไม่ถึง 1 วัน