เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 10 กันยายน ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายกรณ์ จาติกวณิชย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กรณี บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) ประกอบกิจการส่อขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 75 ใช้ความได้เปรียบจากความเป็นรัฐวิสากิจ แข่งขันโดยตรงกับเอกชนรายย่อย โดยให้บริษัท โกลบอล พาวเวอร์ ซินเนอร์ยี จำกัด(มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ ปตท.เตรียมเข้าซื้อหุ้นของบริษัท โกลว์ พลังงานจำกัด (มหาชน) ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบธุรกิจผลิตไฟฟ้าในประเทศ
นายกรณ์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ทบทวนการซื้อหุ้นดังกล่าว ซึ่งใช้งบที่มาจากเงินภาษีของประชาชนกว่า 1 แสนล้านบาท ไปดำเนินการ ทั้งที่งบดังกล่าวสามารถนำไปใช้ประโยชน์ให้กับประชาชนในด้านอื่นๆได้ และในช่วงเวลานี้ไม่มีปัญหาเรื่องความมั่นคง หรือการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้า ที่จะเข้าหลักเกณฑ์ให้รัฐสามารถเข้าไปดำเนินการได้ จึงไม่มีความจำเป็นที่จะเข้าไปดำเนินการ การเข้าไปซื้อหุ้น จึงเป็นปัญหาระดับนโยบายและกฎหมายที่ระบุว่าต้องแข่งขันอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม แต่การกระทำของ ปตท.อาจจะส่งผลกระทบต่อระบบได้ในอนาคต
“ยืนยันว่าที่เรียกร้องให้ทบทวนไม่มีเรื่องการเมืองเกี่ยวข้อง และไม่มีส่วนได้เสียแม้แต่นิดเดียว แต่มองว่าเป็นเรื่องการแข่งขันที่ต้องเป็นไปโดยเสรีและเป็นธรรมเท่าเทียมกันทุกราย ต้องส่งเสริมให้เอกชนรวมถึงประชาชนมีโอกาสในการประกอบธุรกิจและค้าขายได้อย่างเสรี ไม่ใช่เอื้อให้ทุนใหญ่ที่มีรัฐปกป้อง มีอำนาจเหนือตลาด และรัฐไม่ควรใช้อำนาจไปประกอบกิจการแข่งขันกับเอกชน ยกเว้นในกิจการที่ต้องรักษาผลประโยชน์ของประชาชนหรือสาธารณะที่ภาคเอกชนยังไม่มีความพร้อมเท่านั้น” นายกรณ์ กล่าว
https://www.prachachat.net/general/news-217058
“กรณ์”จี้รบ.ทบทวน ปตท.ทุ่มแสนล้านซื้อหุ้นบ.ผลิตไฟฟ้า ส่อขัดรธน.ใช้อำนาจแข่งเอกชน
นายกรณ์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ทบทวนการซื้อหุ้นดังกล่าว ซึ่งใช้งบที่มาจากเงินภาษีของประชาชนกว่า 1 แสนล้านบาท ไปดำเนินการ ทั้งที่งบดังกล่าวสามารถนำไปใช้ประโยชน์ให้กับประชาชนในด้านอื่นๆได้ และในช่วงเวลานี้ไม่มีปัญหาเรื่องความมั่นคง หรือการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้า ที่จะเข้าหลักเกณฑ์ให้รัฐสามารถเข้าไปดำเนินการได้ จึงไม่มีความจำเป็นที่จะเข้าไปดำเนินการ การเข้าไปซื้อหุ้น จึงเป็นปัญหาระดับนโยบายและกฎหมายที่ระบุว่าต้องแข่งขันอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม แต่การกระทำของ ปตท.อาจจะส่งผลกระทบต่อระบบได้ในอนาคต
“ยืนยันว่าที่เรียกร้องให้ทบทวนไม่มีเรื่องการเมืองเกี่ยวข้อง และไม่มีส่วนได้เสียแม้แต่นิดเดียว แต่มองว่าเป็นเรื่องการแข่งขันที่ต้องเป็นไปโดยเสรีและเป็นธรรมเท่าเทียมกันทุกราย ต้องส่งเสริมให้เอกชนรวมถึงประชาชนมีโอกาสในการประกอบธุรกิจและค้าขายได้อย่างเสรี ไม่ใช่เอื้อให้ทุนใหญ่ที่มีรัฐปกป้อง มีอำนาจเหนือตลาด และรัฐไม่ควรใช้อำนาจไปประกอบกิจการแข่งขันกับเอกชน ยกเว้นในกิจการที่ต้องรักษาผลประโยชน์ของประชาชนหรือสาธารณะที่ภาคเอกชนยังไม่มีความพร้อมเท่านั้น” นายกรณ์ กล่าว
https://www.prachachat.net/general/news-217058