อริยบุคคล แปลว่า บุคคลผู้ประเสริฐ, ผู้ไกลจากข้าศึก,
ผู้หักกำล้อสังสารวัฏได้แล้วแบ่งได้หลายประเภทคือแบ่งอย่างใหญ่ได้เป็น
พระเสขะและพระอเสขะ
แบ่งตามประเภทบุคคลมี 4 ประเภทคือ
พระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์
และยังแบ่งย่อยเป็น 8 ประเภท จัดเป็น 4 คู่ได้อีก
มรรตมีอยู่มีบุคคลเดินไป
อริยมรรค 4 อริยผล 4 นิพพาน 1 โดยมีรายละเอียดดังนี้
มรรค 4 คือ โสดาปัตติมรรค สกิทาคามิมรรค อนาคามิมรรค อรหัตมรรค
ผล 4 คือ โสดาปัตติผล สกิทาคามิผล อนาคามิผล อรหัตผล
นิพพาน
นิพพานเป็นการสิ้นสุดตัณหา ความหมายของพระนิพพานมี ๕ ประการคือ
๑. เป็นพระปรมัตถ์อย่างหนึ่งที่เข้าถึงได้ทุกคน มีอยู่โดยเฉพาะ ไม่มีการเสริมแต่งได้อีกต่อไป
๒.เป็นธรรมที่ไม่ตาย คือไม่มีทั้งการเกิดและการตาย
๓.เป็นธรรมที่เที่ยงแล้ว คือพ้นจากความเป็นอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
๔.เป็นธรรมที่ไม่ถูกปรุงแต่งด้วยปัจจัยใด ๆ ทั้งสิ้น
๕.เป็นธรรมที่ประเสริฐยิ่ง หาธรรมอื่นเสมอเหมือนไม่ได้
นิพพานมีอยู่ มีบุคคลไปนิพพานได้ มรรคมีอยู่ มีคนเดินไปได้
ผู้หักกำล้อสังสารวัฏได้แล้วแบ่งได้หลายประเภทคือแบ่งอย่างใหญ่ได้เป็น
พระเสขะและพระอเสขะ
แบ่งตามประเภทบุคคลมี 4 ประเภทคือ
พระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์
และยังแบ่งย่อยเป็น 8 ประเภท จัดเป็น 4 คู่ได้อีก
มรรตมีอยู่มีบุคคลเดินไป
อริยมรรค 4 อริยผล 4 นิพพาน 1 โดยมีรายละเอียดดังนี้
มรรค 4 คือ โสดาปัตติมรรค สกิทาคามิมรรค อนาคามิมรรค อรหัตมรรค
ผล 4 คือ โสดาปัตติผล สกิทาคามิผล อนาคามิผล อรหัตผล
นิพพาน
นิพพานเป็นการสิ้นสุดตัณหา ความหมายของพระนิพพานมี ๕ ประการคือ
๑. เป็นพระปรมัตถ์อย่างหนึ่งที่เข้าถึงได้ทุกคน มีอยู่โดยเฉพาะ ไม่มีการเสริมแต่งได้อีกต่อไป
๒.เป็นธรรมที่ไม่ตาย คือไม่มีทั้งการเกิดและการตาย
๓.เป็นธรรมที่เที่ยงแล้ว คือพ้นจากความเป็นอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
๔.เป็นธรรมที่ไม่ถูกปรุงแต่งด้วยปัจจัยใด ๆ ทั้งสิ้น
๕.เป็นธรรมที่ประเสริฐยิ่ง หาธรรมอื่นเสมอเหมือนไม่ได้