The Nun (2018)
กำกับโดย: Corin Hardy
เขียนบทโดย: Gary Dauberman
นักแสดงนำ: Demian Bichir, Taissa Farmiga, Jonas Bloquet
ประเภทหนัง: Horror, Mystery, Thriller
ถือเป็นธรรมเนียมแล้วสำหรับจักรวาลหนังใน The Conjuring ที่จะมาสร้างความสยองขวัญให้กับเราตั้งแต่ปี 2013 ในเรื่อง The Conjuring จนมา
ถึงปีนี้ก็ได้นำเอาเรื่องราวของผีแม่ชีในเรื่อง The Conjuring 2 มาเล่าให้ละเอียดมากขึ้น โดยจะเป็นหนังเรื่องที่ 5 ของจักรวาลหนังผีที่มีโปรดิวเซอร์อย่าง
เจมส์ วาน คอยคุมงานอยู่เบื้องหลัง ทำให้เราค่อนข้างแน่ใจว่าหนังเรื่องนี้จะต้องออกมาน่ากลัวอย่างแน่นอน
ก่อนจะเข้าเรื่องย่อเรามาทบทวนกันสักเล็กน้อยเกี่ยวกับจักรวาล The Conjuring กันหน่อยดีกว่า เริ่มขึ้นด้วยปี 2013 The Conjuring ซึ่งเป็นหนังเรื่อง
แรกของจักรวาลนี้และเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวของครอบครัววอร์เรนในจอภาพยนตร์เป็นครั้งแรกอีกด้วย ย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นของเรื่องเกิดจากสองสามีภรรยาเอ็ดและรอว์เรน วอร์เรนที่เป็นนักปีศาจวิทยาในภาคแรกและได้ช่วยครอบครัวเพอร์รอนจากผีร้ายได้สำเร็จ จากนั้นก็จะเป็นปฐมบทของตุ๊กตาผีแอนนาเบลล์ที่มีด้วยกัน 2 ภาค โดยภาคแรกชื่อ Annabelle ฉายปี 2014 และคั่นด้วย The Conjuring 2 ในปี 2016 ที่เล่าเรื่องของผีแม่ชีวาลัค และก็ย้อนกลับไปก่อนจะกำเนิดตุ๊กตาผีแอนนาเบลล์อย่างเรื่อง Annabelle: Creation ในปี 2017 และในปีนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่เราจะได้ย้อนกลับไปในยุค 50 ที่โรมาเนีย กับเรื่องราวของผีแม่ชีวาลัค ผีที่โผล่มาใน The Conjuring 2 มาในภาคนี้เราจะเห็นวาลัคมากกว่าเดิมแน่นอน
หลังจากเหตุการณ์การฆ่าตัวตายของแม่ชีในโบสถ์ทำให้นครรัฐวาติกันส่งหลวงพ่อเบิร์ค (Demian Bichir) มาสืบเรื่องราวในโบสถ์แห่งนี้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลวงพ่อเบิร์คก็ได้เดินทางมาพร้อมกับซิสเตอร์ ไอรีน (Taissa Farmiga) และคนที่พบศพของแม่ชี (Jonas Bloquet) และพวกเขาก็ได้เดินทางมายังโรมาเนียสถานที่เกิดเหตุและพวกเขาก็ได้พบกับความน่ากลัวมากมายตั้งแต่ย่างก้าวเข้ามาในดินแดนแห่งนี้ พวกเขาจะไขปริศนาครั้งนี้ได้หรือไม่ติดตามได้ใน The Nun
ไม่รู้ว่าผมเป็นคนเดียวไหมแต่ผมรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ยังน่ากลัวได้ไม่ถึงครึ่งนึงของ The Conjuring 2 เลย แม้ผีแม่ชีวาลัคจะโผล่มาตอนไหนแต่ผมก็ไม่รู้สึกถึงความน่ากลัวของปีศาจตนนี้เลย ผิดกับ The Conjuring 2 ที่โผล่มาน้อย แต่สร้างความน่ากลัวได้อย่างไม่น่าเชื่อ ความรู้สึกของหนังเรื่องนี้ออกไปในทางผีซอมบี้มากกว่าปีศาจเสียด้วยซ้ำ จริงๆแล้วผมว่าทำเป็นซอมบี่น่ะโอเค แต่หนังผีซอมบี้ที่ใช้จั้มสแกร์เยอะขนาดนี้นี่ผมไม่เคยเจอเลย คือมันไม่ให้ความรู้สึกหลอนเลย ในขณะเดียวกันฉากที่ต้องตกใจก็ทำออกมาได้ไม่น่ากลัว เลยทำให้ผมค่อนข้างผิดหวังกับหนังเรื่องนี้ครับ มาว่ากันในส่วนของบทหนังกันบ้าง บทหนังของเรื่องนี้ผมว่าก็ไม่ได้ถึงกับแย่แต่ก็ไม่ดี คือมันมีส่วนที่ทำได้น่าติดตามและก็ทำได้น่าผิดหวัง ผมมองว่าหนังเรื่องนี้น่าจะขายความน่ากลัวอย่างเดียว เลยไม่ค่อยให้น้ำหนักไปที่บทเท่าไหร่นัก ส่วนของผีในเรื่อง ผมว่ามันไม่น่ากลัวเลย จะมีที่พอหลอนก็น่าจะเป็นวาลัคเนี่ยแหละ นอกจากนั้นก็กร่อยมากสำหรับผม และที่สำคัญคือหนังแทบทั้งเรื่องเล่าอยู่แค่ตอนกลางคืนอย่างเดียว หรืออาจจะคืนเดียวเลยด้วยซ้ำ และเล่านานด้วย มันทำให้ผมรู้สึกว่ามันทรมานมากเวลาดู คือเนื้อเรื่องมันดำเนินแต่ผมรู้สึกว่ามันยังไม่ไปไหนเลย อาจจะเป็นเพราะหนังเลือกจะเล่าเฉพาะตอนกลางคืน แต่ความรู้สึกอยากให้เช้าของผมไม่ใช่ว่ากลัวนะ แต่มันอยากให้หนังเล่าตอนเช้าบ้างก็ได้ เพราะตอนกลางคืนเน้นหลอก ตอนเช้าจะได้เน้นเนื้อเรื่องบ้างอะไรแบบนี้
การที่หนังย้อนกลับไปในยุค 50 ทำให้เราอาจจะไม่เห็นอะไรที่ดูทันสมัยอย่างเรื่อง The Conjuring แต่จริงๆแล้วมันก็เก่าพอกัน เพียงแต่เรื่องนี้ย้อนกลับไป 20 ปี และผมว่าอะไรที่มันเก่ามักน่ากลัว แต่ในเรื่องนี้ผมว่าทำได้ไม่น่ากลัวเลย ต้องบอกก่อนว่าจริงๆแล้วผมเป็นคนขี้กลัวมาก ขี้ตกใจด้วย แต่ดูเรื่องนี้ผมตกใจแค่ฉากเดียว ที่เหลือผมก็ไม่ตกใจเลย มันไม่มีฉากที่ไม่น่าไว้วางใจเลย ถ้าเป็น The Conjuring 2 ก็จะมีฉากรูปวาดของวาลัค แต่เรื่องนี่ผมไม่สัมผัสถึงอะไรแบบนั้นเลยแต่ส่วนที่ผมว่าน่าจะโอเคสุดก็ต้องเป็นนักแสดงของเรื่องที่เรื่องนี้ได้ Taissa Farmiga น้องสาวแท้ๆของ Vera Farmiga ที่เรื่องนี้เธอทำออกมาได้ดีและเป็นบทบาทที่น่าจดจำมากในฐานะนักแสดงของเธอ ถือว่าเรื่องนี้ดีเลย ส่วนคนอื่นๆผมก็ว่าโอเค เพียงแต่หนังสยองขวัญคงไม่มีฉากให้นักแสดงได้โชว์ฝีมืออะไรกันมากนักทางด้านงานโปรดักชั่นก็ถือว่าผ่านสำหรับผม ที่แม้จะไม่มีอะไรที่ดูหวือหวา แต่มันก็ทำให้บรรยากาศในเรื่องดูน่ากลัวได้ไม่มากก็น้อย
สำหรับผมแล้วโดยรวมถือว่ายังไม่ผ่านสำหรับหนังเรื่องนี้ ยังมีความน่ากลัวที่ยังถือว่าไม่น่ากลัว กับฉากที่ต้องตกใจก็ดันไม่ตกใจ คือมันเป็นอะไรที่ผมดูแล้วอยากออกจากโรงมาก คือถ้าคนกลัวเรื่องนี้ก็จะกลัวเลย แต่สำหรับผมผมไม่ชอบหนังแนวตุ้งแช่อยู่แล้ว ยกเว้นของเจมส์ วาน คือเรื่องนี้น่าจะเป็นหนังผีเรื่องแรกเลยที่ผมไปดูในโรงคนเดียว แม้ผมจะไม่ชอบหนังเรื่องนี้ แต่ผมก็ไม่รู้สึกเสียดายตัง เพราะอย่างน้อยเราก็ตกใจล่ะวะฉากนึง คือเราได้เห็นจักรวาลของ The Conjuring กับวาลัค แค่นี้ก็คุ้มแล้วสำหรับผม สรุปความรู้สึกผมคือไม่เสียดายเงิน แต่ผิดหวัง
ซึ่งผมจะให้หนังเรื่องนี้อยู่ที่ 6/10
เขียนโดย Movie Nowhere
สามารถพูดคุยกับผมหรือดูรีวิวของผมได้ในเพจนะครับ
https://www.facebook.com/MovieNowhere/
ฝากติดตามด้วยครับ
[CR] รีวิว The Nun
กำกับโดย: Corin Hardy
เขียนบทโดย: Gary Dauberman
นักแสดงนำ: Demian Bichir, Taissa Farmiga, Jonas Bloquet
ประเภทหนัง: Horror, Mystery, Thriller
ถือเป็นธรรมเนียมแล้วสำหรับจักรวาลหนังใน The Conjuring ที่จะมาสร้างความสยองขวัญให้กับเราตั้งแต่ปี 2013 ในเรื่อง The Conjuring จนมา
ถึงปีนี้ก็ได้นำเอาเรื่องราวของผีแม่ชีในเรื่อง The Conjuring 2 มาเล่าให้ละเอียดมากขึ้น โดยจะเป็นหนังเรื่องที่ 5 ของจักรวาลหนังผีที่มีโปรดิวเซอร์อย่าง
เจมส์ วาน คอยคุมงานอยู่เบื้องหลัง ทำให้เราค่อนข้างแน่ใจว่าหนังเรื่องนี้จะต้องออกมาน่ากลัวอย่างแน่นอน
ก่อนจะเข้าเรื่องย่อเรามาทบทวนกันสักเล็กน้อยเกี่ยวกับจักรวาล The Conjuring กันหน่อยดีกว่า เริ่มขึ้นด้วยปี 2013 The Conjuring ซึ่งเป็นหนังเรื่อง
แรกของจักรวาลนี้และเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวของครอบครัววอร์เรนในจอภาพยนตร์เป็นครั้งแรกอีกด้วย ย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นของเรื่องเกิดจากสองสามีภรรยาเอ็ดและรอว์เรน วอร์เรนที่เป็นนักปีศาจวิทยาในภาคแรกและได้ช่วยครอบครัวเพอร์รอนจากผีร้ายได้สำเร็จ จากนั้นก็จะเป็นปฐมบทของตุ๊กตาผีแอนนาเบลล์ที่มีด้วยกัน 2 ภาค โดยภาคแรกชื่อ Annabelle ฉายปี 2014 และคั่นด้วย The Conjuring 2 ในปี 2016 ที่เล่าเรื่องของผีแม่ชีวาลัค และก็ย้อนกลับไปก่อนจะกำเนิดตุ๊กตาผีแอนนาเบลล์อย่างเรื่อง Annabelle: Creation ในปี 2017 และในปีนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่เราจะได้ย้อนกลับไปในยุค 50 ที่โรมาเนีย กับเรื่องราวของผีแม่ชีวาลัค ผีที่โผล่มาใน The Conjuring 2 มาในภาคนี้เราจะเห็นวาลัคมากกว่าเดิมแน่นอน
หลังจากเหตุการณ์การฆ่าตัวตายของแม่ชีในโบสถ์ทำให้นครรัฐวาติกันส่งหลวงพ่อเบิร์ค (Demian Bichir) มาสืบเรื่องราวในโบสถ์แห่งนี้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลวงพ่อเบิร์คก็ได้เดินทางมาพร้อมกับซิสเตอร์ ไอรีน (Taissa Farmiga) และคนที่พบศพของแม่ชี (Jonas Bloquet) และพวกเขาก็ได้เดินทางมายังโรมาเนียสถานที่เกิดเหตุและพวกเขาก็ได้พบกับความน่ากลัวมากมายตั้งแต่ย่างก้าวเข้ามาในดินแดนแห่งนี้ พวกเขาจะไขปริศนาครั้งนี้ได้หรือไม่ติดตามได้ใน The Nun
ไม่รู้ว่าผมเป็นคนเดียวไหมแต่ผมรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ยังน่ากลัวได้ไม่ถึงครึ่งนึงของ The Conjuring 2 เลย แม้ผีแม่ชีวาลัคจะโผล่มาตอนไหนแต่ผมก็ไม่รู้สึกถึงความน่ากลัวของปีศาจตนนี้เลย ผิดกับ The Conjuring 2 ที่โผล่มาน้อย แต่สร้างความน่ากลัวได้อย่างไม่น่าเชื่อ ความรู้สึกของหนังเรื่องนี้ออกไปในทางผีซอมบี้มากกว่าปีศาจเสียด้วยซ้ำ จริงๆแล้วผมว่าทำเป็นซอมบี่น่ะโอเค แต่หนังผีซอมบี้ที่ใช้จั้มสแกร์เยอะขนาดนี้นี่ผมไม่เคยเจอเลย คือมันไม่ให้ความรู้สึกหลอนเลย ในขณะเดียวกันฉากที่ต้องตกใจก็ทำออกมาได้ไม่น่ากลัว เลยทำให้ผมค่อนข้างผิดหวังกับหนังเรื่องนี้ครับ มาว่ากันในส่วนของบทหนังกันบ้าง บทหนังของเรื่องนี้ผมว่าก็ไม่ได้ถึงกับแย่แต่ก็ไม่ดี คือมันมีส่วนที่ทำได้น่าติดตามและก็ทำได้น่าผิดหวัง ผมมองว่าหนังเรื่องนี้น่าจะขายความน่ากลัวอย่างเดียว เลยไม่ค่อยให้น้ำหนักไปที่บทเท่าไหร่นัก ส่วนของผีในเรื่อง ผมว่ามันไม่น่ากลัวเลย จะมีที่พอหลอนก็น่าจะเป็นวาลัคเนี่ยแหละ นอกจากนั้นก็กร่อยมากสำหรับผม และที่สำคัญคือหนังแทบทั้งเรื่องเล่าอยู่แค่ตอนกลางคืนอย่างเดียว หรืออาจจะคืนเดียวเลยด้วยซ้ำ และเล่านานด้วย มันทำให้ผมรู้สึกว่ามันทรมานมากเวลาดู คือเนื้อเรื่องมันดำเนินแต่ผมรู้สึกว่ามันยังไม่ไปไหนเลย อาจจะเป็นเพราะหนังเลือกจะเล่าเฉพาะตอนกลางคืน แต่ความรู้สึกอยากให้เช้าของผมไม่ใช่ว่ากลัวนะ แต่มันอยากให้หนังเล่าตอนเช้าบ้างก็ได้ เพราะตอนกลางคืนเน้นหลอก ตอนเช้าจะได้เน้นเนื้อเรื่องบ้างอะไรแบบนี้
การที่หนังย้อนกลับไปในยุค 50 ทำให้เราอาจจะไม่เห็นอะไรที่ดูทันสมัยอย่างเรื่อง The Conjuring แต่จริงๆแล้วมันก็เก่าพอกัน เพียงแต่เรื่องนี้ย้อนกลับไป 20 ปี และผมว่าอะไรที่มันเก่ามักน่ากลัว แต่ในเรื่องนี้ผมว่าทำได้ไม่น่ากลัวเลย ต้องบอกก่อนว่าจริงๆแล้วผมเป็นคนขี้กลัวมาก ขี้ตกใจด้วย แต่ดูเรื่องนี้ผมตกใจแค่ฉากเดียว ที่เหลือผมก็ไม่ตกใจเลย มันไม่มีฉากที่ไม่น่าไว้วางใจเลย ถ้าเป็น The Conjuring 2 ก็จะมีฉากรูปวาดของวาลัค แต่เรื่องนี่ผมไม่สัมผัสถึงอะไรแบบนั้นเลยแต่ส่วนที่ผมว่าน่าจะโอเคสุดก็ต้องเป็นนักแสดงของเรื่องที่เรื่องนี้ได้ Taissa Farmiga น้องสาวแท้ๆของ Vera Farmiga ที่เรื่องนี้เธอทำออกมาได้ดีและเป็นบทบาทที่น่าจดจำมากในฐานะนักแสดงของเธอ ถือว่าเรื่องนี้ดีเลย ส่วนคนอื่นๆผมก็ว่าโอเค เพียงแต่หนังสยองขวัญคงไม่มีฉากให้นักแสดงได้โชว์ฝีมืออะไรกันมากนักทางด้านงานโปรดักชั่นก็ถือว่าผ่านสำหรับผม ที่แม้จะไม่มีอะไรที่ดูหวือหวา แต่มันก็ทำให้บรรยากาศในเรื่องดูน่ากลัวได้ไม่มากก็น้อย
สำหรับผมแล้วโดยรวมถือว่ายังไม่ผ่านสำหรับหนังเรื่องนี้ ยังมีความน่ากลัวที่ยังถือว่าไม่น่ากลัว กับฉากที่ต้องตกใจก็ดันไม่ตกใจ คือมันเป็นอะไรที่ผมดูแล้วอยากออกจากโรงมาก คือถ้าคนกลัวเรื่องนี้ก็จะกลัวเลย แต่สำหรับผมผมไม่ชอบหนังแนวตุ้งแช่อยู่แล้ว ยกเว้นของเจมส์ วาน คือเรื่องนี้น่าจะเป็นหนังผีเรื่องแรกเลยที่ผมไปดูในโรงคนเดียว แม้ผมจะไม่ชอบหนังเรื่องนี้ แต่ผมก็ไม่รู้สึกเสียดายตัง เพราะอย่างน้อยเราก็ตกใจล่ะวะฉากนึง คือเราได้เห็นจักรวาลของ The Conjuring กับวาลัค แค่นี้ก็คุ้มแล้วสำหรับผม สรุปความรู้สึกผมคือไม่เสียดายเงิน แต่ผิดหวัง
ซึ่งผมจะให้หนังเรื่องนี้อยู่ที่ 6/10
เขียนโดย Movie Nowhere
สามารถพูดคุยกับผมหรือดูรีวิวของผมได้ในเพจนะครับ https://www.facebook.com/MovieNowhere/
ฝากติดตามด้วยครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้