http://www.share2trade.com/index.php?route=content/content&path=9&content_id=3504
MC ได้เวลาเลิกซุ่ม
ปี 2561 เป็นปีที่บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC มีการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายหลายประการในอนาคตอย่างมากเพราะ
- เปลี่ยนรอบบัญชีใหม่ด้วยเหตุผลทางด้านพันธมิตรธุรกิจ จากเดิม วันที่ 1 มกราคม - 31 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันที่ 1 กรกฎาคม - 30 มิถุนายนของปีถัดไป เริ่มตั้งแต่งวดบัญชีสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2561
- อนุมัติจ่ายเงินปันผลเร็วกว่าปกติ เป็นระดับ 0.40 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินจำนวน 320 ล้านบาท รองรับงบการเงินที่ปรับงวดใหม่
- นำโครงการซื้อหุ้นคืนวงเงินไม่เกิน 120 ล้านบาท เพื่อตอกย้ำความมั่นใจในการเติบโตตามแผนงานและบริหารสภาพคล่องส่วนเกินจากกำไรสุทธิที่ระดับ 845 ล้านบาท
กิจกรรมแปลกใหม่เหล่านี้ ส่งสัญญาณว่าจากนี้ไป MC จะไม่ทำตัวเงียบๆแบบที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นตกอยู่ในสภาพ "ถูกเมิน" แบบที่ผ่านมา
หากมองย้อนหลังกลับไป MC ถือเป็นหุ้นที่มีผลประกอบการดีมาตลอด มีอัตรากำไรสุทธิไม่เคยต่ำกว่า 15% ตลอด 5 ปีต่อเนื่อง แต่เมื่อดูราคาแล้วถือว่าน่าผิดหวัง เพราะเคยมีครั้งเดียวในช่วงต้นปีนี้เองที่ราคาทะลุสูงกว่า 21.00 บาท แต่หลังจากนั้นราคาถดถอยลงมาที่ระดับเกือบหลุดใต้ 12.00 บาท ก่อนที่จะเด้งกลับมาแถว 13.00 บางอย่างเปราะบาง เพราะปริมาณซื้อขายหุ้นประจำวันค่อนข้างต่ำจนเป็นปกติ
สำหรับนักลงทุนแล้วราคาหุ้นของMC ขาดเสน่ห์ เพราะซื้อแล้วมีโอกาสขาดทุนมากกว่ากำไร แม้จะเป็นหุ้นพื้นฐานดี แต่สภาพคล่องในตลาดต่ำเกินยากคาดเดาทิศทาง
ปีนี้การขยับตัวของ MC มีความหมายพิเศษ เพราะว่ากำไร และอัตรากำไรสุทธิเริ่มผงกหัวกลับมาเติบโต เนื่องจากการปรับกลยุทธ์หันมาเน้นการตลาดที่มุ่งรักษาความสามารถในการทำกำไร ส่งผลให้กำไรกลับมาเติบโต ท่ามกลางความต้องการที่ยังคงอ่อนแอ เริ่มผลิดอกออกผลชัดเจน รอเพียงแค่การฟื้นตัวของผู้บริโภค
นางสาวสุณี เสรีภาณุ ซีอีโอของ MC เปิดเผยว่า การปรับกลยุทธ์ที่ไม่เน้นการเติบโตยอดขาย มาเป็นเน้นกลยุทธ์เพื่อเพิ่มผลประกอบการมากกว่าการเร่งเพิ่มยอดขายในช่วงเวลาดังกล่าว ได้รับผลตอบแทนที่ดีเกินคาด
กลยุทธ์ที่เรียกว่า Omni Channel ที่ MC นำมาใช้เพื่อสร้างการยอมรับของผู้บริโภค ประกอบด้วย
- ใช้กลยุทธ์การพัฒนาสินค้าที่ตรงกับความต้องการเฉพาะกลุ่มและความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจด้านต่างๆ เพื่อบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านระบบสมาชิก "Mc Club" ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าผ้าใบ Mc Selvedge Walker และ เสื้อยืดคอลเลคชั่น Mc Basic ที่ได้รับการตอบรับเกินคาดทั้งหน้าร้านและในโลกโซเชียลมีเดีย เสื้อเชิ้ต Anti Mosq ที่มีคุณสมบัติป้องกันยุงด้วยสารสกัดจากดอกเบญจมาศ Mc Biker Denim 'Motorcycle Series' ที่กำลังจะมีคอลเลคชั่นใหม่ออกมาภายหลังกระแสตอบรับที่ดีในคอลเลคชั่นแรก
- กิจกรรมต่างๆที่ร่วมมือกับพันธมิตรสินค้ากลุ่ม Lifestyle ควบคู่ไปกับการเปิดจุดจำหน่ายใหม่และเชื่อมโยงหน้าร้าน (Offline) กับช่องทางออนไลน์ตามกลยุทธ์ Omni Channel
การปรับตัวด้วยกลยุทธ์ใหม่ เกิดขึ้นเนื่องจากการบริโภคภายในประเทศที่ชะลอตัวจากราคาสินค้าเกษตรที่อยู่ในระดับต่ำเป็นเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ต่างจังหวัดซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัท และการเติบโตยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ยังคงหดตัว -11.5% จากฐานที่สูงในปีที่แล้วจากการขายเสื้อผ้าสีขาวดำ ส่งผลให้ 6M18 รายได้ของบริษัทลดลง
นอกเหนือจากการปรับกลยุทธ์รับตลาดขาลง จุดเด่นของการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายเห็นผลอย่างต่อเนื่อง จากการหันมาเน้นทำโปรโมชั่นที่ไม่กระทบต่ออัตรากำไร ทั้งกลุ่มเสื้อผ้าและ Time Deco ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นใน 2Q18 เพิ่มมาอยู่ที่ 59% และ 43% ตามลำดับ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 57.5% จาก 50.9% ของปีก่อน และเน้นหนักเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขาย
การสอดส่ายสร้างช่องทางส่งเสริมการขาย ถือเป็นอีกกลยุทธ์รุกคืบที่มีโอกาสกระตุ้นการรับรู้ได้เพิ่ม ล่าสุดได้ปรับกลยุทธ์ช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้ากลุ่มเสื้อผ้า ในสถานีน้ำมัน ปตท. ภายใต้แบรนด์ "mcmc" ให้กลายเป็น "mcmc Outlet Store" โดยมีแผนที่จะขยายรูปแบบร้านค้าดังกล่าวไปยังแหล่งชุมชนหรือพื้นที่ที่มีศักยภาพซึ่งมีความต้องการสินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่จับต้องได้ง่าย และมีเป้าหมายที่จะขยายฐานลูกค้าที่เป็นคนท้องถิ่นให้มากขึ้น และพร้อมเดินหน้าเปิดสาขาอีกครั้งในปลายปี 2561 หลังจากพักไปนาน
ล่าสุด MC ได้ลงนามในความร่วมมือกับ Warrix เพื่อเตรียมเปิดตัวสินค้า Activewear แบรนด์ U-P อย่างเป็นทางการในปลายปีนี้ ด้วยคอลเลคชั่น U-P Warrix ภายหลังจากที่มีการเลื่อนมาจากปลายปีก่อน ภายใต้คอนเซ็ปต์ของสินค้าที่ใส่ได้หลายกิจกรรมทั้งลุค Sport, Casual และทำงาน ด้วยการออกแบบดีไซน์และฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ใช้ชีวิตหลากหลายรูปแบบ
ส่วนร้านค้าจำหน่ายนาฬิกาของไทม์เดคโคนั้น ได้มีงานเปิดตัวร้านนาฬิกาคอนเซ็ปต์ใหม่ด้วยแบรนด์พันธมิตร เช่น Scuderia Ferrari, Lacoste, Victorinox, Emporio Armani และ Michael Kors ที่ดึงเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์มานำเสนอลูกค้าให้ตรงจุด โดยได้รับความร่วมมือที่ดีจาก Online Influencers และ Celebrity
การกลับมาสร้างความแข็งแกร่งรอบใหม่ ที่ไม่ใช่เพราะบังเอิญ แต่เป็น "ฝีมือ" ทำให้โมเมนตัมขาขึ้นของกำไรกลับมาโดดเด่นครั้งใหม่ จากทั้งความสามารถบริหารจัดการต้นทุนและรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้น รวมถึงการปรับเปลี่ยนทั้งโปรโมชั่นและผลิตภัณฑ์ที่เน้นการ "แท็กทีม" ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ต่างๆในการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จะช่วยหนุนลูกค้าที่เข้าร้านมากยิ่งขึ้น และการเข้าไปยังประเทศอื่นๆ เช่น อิหร่าน เมียนมาร์ ลาว น่าจะทำให้รายได้และผลประกอบการของบริษัทปรับขึ้นต่อเนื่องสวนทิศทางกลุ่มธุรกิจ
ข้อดีเด่นทั้งหลายข้างต้นของ MC จะสมบูรณ์พร้อม ถ้าหากไม่ถูกหักกลบด้วยข้อเท็จจริงที่ว่า สภาพคล่องของหุ้นในตลาดยังคงต่ำเช่นเดิม เพราะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 20 อันดับแรกเป็นพวกเฉื่อยเนือยที่รอกินปันผลเป็นสำคัญ
หากผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหาร MC ตระหนักข้อนี้ได้ชัดเจน ความพยายาม "เลิกซุ่ม" จะบรรลุเป้าหมายง่ายขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาทำโรดโชว์บ่อยๆ อย่างไร้ผล
////////////////////////////////////
ขอบคุณบทความจาก
www.facebook.com/Share2Trade/
www.share2trade.com
MC ได้เวลาเลิกซุ่ม (โดย อีหล่าน้อย เว็บ Share2Trade)
MC ได้เวลาเลิกซุ่ม
ปี 2561 เป็นปีที่บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC มีการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายหลายประการในอนาคตอย่างมากเพราะ
- เปลี่ยนรอบบัญชีใหม่ด้วยเหตุผลทางด้านพันธมิตรธุรกิจ จากเดิม วันที่ 1 มกราคม - 31 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันที่ 1 กรกฎาคม - 30 มิถุนายนของปีถัดไป เริ่มตั้งแต่งวดบัญชีสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2561
- อนุมัติจ่ายเงินปันผลเร็วกว่าปกติ เป็นระดับ 0.40 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินจำนวน 320 ล้านบาท รองรับงบการเงินที่ปรับงวดใหม่
- นำโครงการซื้อหุ้นคืนวงเงินไม่เกิน 120 ล้านบาท เพื่อตอกย้ำความมั่นใจในการเติบโตตามแผนงานและบริหารสภาพคล่องส่วนเกินจากกำไรสุทธิที่ระดับ 845 ล้านบาท
กิจกรรมแปลกใหม่เหล่านี้ ส่งสัญญาณว่าจากนี้ไป MC จะไม่ทำตัวเงียบๆแบบที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นตกอยู่ในสภาพ "ถูกเมิน" แบบที่ผ่านมา
หากมองย้อนหลังกลับไป MC ถือเป็นหุ้นที่มีผลประกอบการดีมาตลอด มีอัตรากำไรสุทธิไม่เคยต่ำกว่า 15% ตลอด 5 ปีต่อเนื่อง แต่เมื่อดูราคาแล้วถือว่าน่าผิดหวัง เพราะเคยมีครั้งเดียวในช่วงต้นปีนี้เองที่ราคาทะลุสูงกว่า 21.00 บาท แต่หลังจากนั้นราคาถดถอยลงมาที่ระดับเกือบหลุดใต้ 12.00 บาท ก่อนที่จะเด้งกลับมาแถว 13.00 บางอย่างเปราะบาง เพราะปริมาณซื้อขายหุ้นประจำวันค่อนข้างต่ำจนเป็นปกติ
สำหรับนักลงทุนแล้วราคาหุ้นของMC ขาดเสน่ห์ เพราะซื้อแล้วมีโอกาสขาดทุนมากกว่ากำไร แม้จะเป็นหุ้นพื้นฐานดี แต่สภาพคล่องในตลาดต่ำเกินยากคาดเดาทิศทาง
ปีนี้การขยับตัวของ MC มีความหมายพิเศษ เพราะว่ากำไร และอัตรากำไรสุทธิเริ่มผงกหัวกลับมาเติบโต เนื่องจากการปรับกลยุทธ์หันมาเน้นการตลาดที่มุ่งรักษาความสามารถในการทำกำไร ส่งผลให้กำไรกลับมาเติบโต ท่ามกลางความต้องการที่ยังคงอ่อนแอ เริ่มผลิดอกออกผลชัดเจน รอเพียงแค่การฟื้นตัวของผู้บริโภค
นางสาวสุณี เสรีภาณุ ซีอีโอของ MC เปิดเผยว่า การปรับกลยุทธ์ที่ไม่เน้นการเติบโตยอดขาย มาเป็นเน้นกลยุทธ์เพื่อเพิ่มผลประกอบการมากกว่าการเร่งเพิ่มยอดขายในช่วงเวลาดังกล่าว ได้รับผลตอบแทนที่ดีเกินคาด
กลยุทธ์ที่เรียกว่า Omni Channel ที่ MC นำมาใช้เพื่อสร้างการยอมรับของผู้บริโภค ประกอบด้วย
- ใช้กลยุทธ์การพัฒนาสินค้าที่ตรงกับความต้องการเฉพาะกลุ่มและความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจด้านต่างๆ เพื่อบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านระบบสมาชิก "Mc Club" ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าผ้าใบ Mc Selvedge Walker และ เสื้อยืดคอลเลคชั่น Mc Basic ที่ได้รับการตอบรับเกินคาดทั้งหน้าร้านและในโลกโซเชียลมีเดีย เสื้อเชิ้ต Anti Mosq ที่มีคุณสมบัติป้องกันยุงด้วยสารสกัดจากดอกเบญจมาศ Mc Biker Denim 'Motorcycle Series' ที่กำลังจะมีคอลเลคชั่นใหม่ออกมาภายหลังกระแสตอบรับที่ดีในคอลเลคชั่นแรก
- กิจกรรมต่างๆที่ร่วมมือกับพันธมิตรสินค้ากลุ่ม Lifestyle ควบคู่ไปกับการเปิดจุดจำหน่ายใหม่และเชื่อมโยงหน้าร้าน (Offline) กับช่องทางออนไลน์ตามกลยุทธ์ Omni Channel
การปรับตัวด้วยกลยุทธ์ใหม่ เกิดขึ้นเนื่องจากการบริโภคภายในประเทศที่ชะลอตัวจากราคาสินค้าเกษตรที่อยู่ในระดับต่ำเป็นเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ต่างจังหวัดซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัท และการเติบโตยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ยังคงหดตัว -11.5% จากฐานที่สูงในปีที่แล้วจากการขายเสื้อผ้าสีขาวดำ ส่งผลให้ 6M18 รายได้ของบริษัทลดลง
นอกเหนือจากการปรับกลยุทธ์รับตลาดขาลง จุดเด่นของการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายเห็นผลอย่างต่อเนื่อง จากการหันมาเน้นทำโปรโมชั่นที่ไม่กระทบต่ออัตรากำไร ทั้งกลุ่มเสื้อผ้าและ Time Deco ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นใน 2Q18 เพิ่มมาอยู่ที่ 59% และ 43% ตามลำดับ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 57.5% จาก 50.9% ของปีก่อน และเน้นหนักเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขาย
การสอดส่ายสร้างช่องทางส่งเสริมการขาย ถือเป็นอีกกลยุทธ์รุกคืบที่มีโอกาสกระตุ้นการรับรู้ได้เพิ่ม ล่าสุดได้ปรับกลยุทธ์ช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้ากลุ่มเสื้อผ้า ในสถานีน้ำมัน ปตท. ภายใต้แบรนด์ "mcmc" ให้กลายเป็น "mcmc Outlet Store" โดยมีแผนที่จะขยายรูปแบบร้านค้าดังกล่าวไปยังแหล่งชุมชนหรือพื้นที่ที่มีศักยภาพซึ่งมีความต้องการสินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่จับต้องได้ง่าย และมีเป้าหมายที่จะขยายฐานลูกค้าที่เป็นคนท้องถิ่นให้มากขึ้น และพร้อมเดินหน้าเปิดสาขาอีกครั้งในปลายปี 2561 หลังจากพักไปนาน
ล่าสุด MC ได้ลงนามในความร่วมมือกับ Warrix เพื่อเตรียมเปิดตัวสินค้า Activewear แบรนด์ U-P อย่างเป็นทางการในปลายปีนี้ ด้วยคอลเลคชั่น U-P Warrix ภายหลังจากที่มีการเลื่อนมาจากปลายปีก่อน ภายใต้คอนเซ็ปต์ของสินค้าที่ใส่ได้หลายกิจกรรมทั้งลุค Sport, Casual และทำงาน ด้วยการออกแบบดีไซน์และฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ใช้ชีวิตหลากหลายรูปแบบ
ส่วนร้านค้าจำหน่ายนาฬิกาของไทม์เดคโคนั้น ได้มีงานเปิดตัวร้านนาฬิกาคอนเซ็ปต์ใหม่ด้วยแบรนด์พันธมิตร เช่น Scuderia Ferrari, Lacoste, Victorinox, Emporio Armani และ Michael Kors ที่ดึงเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์มานำเสนอลูกค้าให้ตรงจุด โดยได้รับความร่วมมือที่ดีจาก Online Influencers และ Celebrity
การกลับมาสร้างความแข็งแกร่งรอบใหม่ ที่ไม่ใช่เพราะบังเอิญ แต่เป็น "ฝีมือ" ทำให้โมเมนตัมขาขึ้นของกำไรกลับมาโดดเด่นครั้งใหม่ จากทั้งความสามารถบริหารจัดการต้นทุนและรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้น รวมถึงการปรับเปลี่ยนทั้งโปรโมชั่นและผลิตภัณฑ์ที่เน้นการ "แท็กทีม" ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ต่างๆในการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จะช่วยหนุนลูกค้าที่เข้าร้านมากยิ่งขึ้น และการเข้าไปยังประเทศอื่นๆ เช่น อิหร่าน เมียนมาร์ ลาว น่าจะทำให้รายได้และผลประกอบการของบริษัทปรับขึ้นต่อเนื่องสวนทิศทางกลุ่มธุรกิจ
ข้อดีเด่นทั้งหลายข้างต้นของ MC จะสมบูรณ์พร้อม ถ้าหากไม่ถูกหักกลบด้วยข้อเท็จจริงที่ว่า สภาพคล่องของหุ้นในตลาดยังคงต่ำเช่นเดิม เพราะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 20 อันดับแรกเป็นพวกเฉื่อยเนือยที่รอกินปันผลเป็นสำคัญ
หากผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหาร MC ตระหนักข้อนี้ได้ชัดเจน ความพยายาม "เลิกซุ่ม" จะบรรลุเป้าหมายง่ายขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาทำโรดโชว์บ่อยๆ อย่างไร้ผล
////////////////////////////////////
ขอบคุณบทความจาก
www.facebook.com/Share2Trade/
www.share2trade.com