ประสบการณ์ประมูลบ้านจากบังคับคดี แล้วโดนยื่นคำร้องขอเพิกถอนการขาย

จขกท ได้ประมูลบ้านจากบังคับคดีปี 2557 วันนั้นตั้งใจไปประมูลหลังอื่น แต่ปรากฏว่าหลังที่จะประมูลมีคนสู้ราคาหลายคน จึงเปลี่ยนมาประมูลบ้านต้นเรื่อง  ในวันที่ประมูล ธนาคารเจ้าของคดีมากัน 2 คน นั่งอยู่ด้านหน้าอยู่ห่างจากบัลลังค์ไม่เกิน 2 เมตร  ส่วนเราอยู่หลังห้อง พอถึงเวลาประมูล จนท แบงค์เป็นคนยกป้ายเริ่มประมูลก่อน พอจนทบังคับคดีถามมีใครประมูลอีกมั้ย เราก็ยกป้าย บังคับคดีก็ถามใครจะประมูลอีก ปรากฏว่าไม่มีเค้ากับนับตามวิธีปฏิบัติ แล้วก็เคาะไม้ขาย ปรากฏว่าเราได้  เค้าก็เรียกไปทำสัญญา
      ระหว่างกำลังเดินไปทำสัญญา จนท.แบงค์ก็มาหาเราขอให้ยกเลิกการขาย เค้าขายราคาที่เราประมูลไม่ได้ เราก็ถามว่าแล้วทำไมไม่ประมูลต่อ เค้าก็บอกหนูไม่ได้ยิน (ชีเล่นโทรศัพท์ตลอดทั้ง 2 คน) เราเลยถามว่าจะให้พี่ทำยังไง เค้าบอกจะให้ค่าเสียเวลา เราบอกว่าการประมูลมันจบไปแล้ว ถ้าจะซื้อต่อต้องไปทำธุรกรรมที่ที่ดิน เราไม่ได้ซื้อกับคุณเราประมูลจากบังคับคดี สรุปว่าโน่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่เอา ให้เราเห็นใจ  เราเลยไปถาม จนท.บังคับคดีว่าเรายกเลิกการซื้อได้หรือไม่ เจ้าหน้าที่บอกถ้ายกเลิกการซื้อ  
1. เราต้องติดแบลคลิสท์ถ้าจะประมูลทรัพย์อื่นต้องวางเงิน 100 % และเมื่อประมูลทรัพย์อะไรได้ต้องชำระเงินภายใน 15 วัน ไม่มีขยาย
2. ถ้าทรัพย์ที่เรายกเลิก มีการนำกลับมาประมูลใหม่แล้วได้ราคาต่ำกว่าเดิม เราต้องเสียส่วนต่างและค่าใช้จ่ายทั้งหลายทั้งปวง
3. ถ้ามีการฮั้วประมูล จะมีความผิด (กรณีนี้ธนาคารเข้าข่ายพยายามมาฮั้วประมูลกับเรารึปล่าว)
       สรุป จนท.ธนาคารจะเอาแต่ได้ คนอื่นจะซวยเพราะความสับเพร่าของตัวจนท.เองก็ไม่สน ถ้ายกเลิกการขายเราจะมีแต่เสียกับเสีย  ในวันนั้นถามว่าคุณมีบั้ดเจทที่เท่าไร (หมายถึงตั้งใจจะประมูลถึงเท่าไร) เราจะเอาเท่านั้น แล้วไปทำธุรกรรมที่ที่ดินเลยจะได้จบ สรุปเค้าไม่เอาเค้าจะเอาราคาต่ำ ๆ เท่าที่เราประมูลได้ จากนั้นเราเลยไปทำสัญญากับบังคับคดี แล้วก็กลับบ้าน  จากนั้นประมาณ 3 สัปดาห์ มีเอกสารมาที่บ้าน เป็นคำร้องที่โจทย์(ธนาคาร) ขอยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการขาย
         ในคำร้องระบุเหตุผลดังนี้
1. บังคับคดีขายโดยมิชอบ ไม่ยอมแจ้งให้เค้ารู้ว่ามีใครมาประมูลบ้าง  (ซึ่งมันไม่ใช่หน้าที่ของบังคับคดี)
2.  บังคับคดีไม่ได้ขายตามกระบวนการ ไม่ได้เคาะไม้ เค้าไม่ได้ยิน (เค้านั่งหน้าห้อง เรานั่งหลังห้อง)
3. จนท.และ จขกท ร่วมกัน สมคบ ทุจริต ยักยอก ฉ้อฉล
4. จขกท.ซื้อในราคาต่ำเกินไป ไม่เป็นธรรมกับจำเลย
        เมื่อได้รับเอกสาร ควันถึงกับออกหู ไม่เคยโดนใครว่าสมคบทุจริต ยักยอก ฉ้อฉล  ธนาคารมันเป็นใครถึงกล้ามาว่าเรา  ทนายเราให้ความรู้ว่าถ้าไม่ใส่ข้อหานี้ มันไม่มีมูลเหตุให้ยกเลิก  สรุป เรื่องไม่จริงเอามาพูดได้ซะงั้น บังคับคดีน่าสงสารที่สุด ทำหน้าที่ด้วยความสุจริต แต่ต้องมาซวยเพราะความสับเพร่าของ จนท ธนาคาร  บังคับคดีอยากให้เราฟ้องหมิ่นประมาท เค้าอยากฟ้องเองแต่ไม่สามารถเพราะต้องจ่ายค่าทนายเอง  
        ในส่วนของการสู้คดี เราจ้างทนาย หลังจากทางเราส่งเอกสารคัดค้าน ศาลนัดไปสืบพยาน เราไปศาล ศาลท่านพูดว่า "เคสนี้แปลกโจทย์เป็นคนยื่นคำร้องไม่ใช่จำเลยยื่น " ซึ่งยิ่งแสดงถึงความแย่ของธนาคาร  หลังจากเรายื่นเอกสารซึ่งเหตุผลมันชัดเจนตรงไปตรงมา  ทางธนาคารถึงกับยื่นขยายเวลาแล้วไปทำเอกสารมาใหม่ แล้วไปตามหาจำเลยมาช่วยยื่นคำร้อง  ทั้งนี้จำเลยเค้าไม่ได้สนใจแล้ว  สรุป มีการเลื่อนนัด  8 ครั้ง จำเลยไม่เคยมา  จนครั้งที่ 9 เราเลยขอความเมตตาจากศาลว่าเรามาหลายรอบแล้ว และเราอยู่ไกลมากต้องขับรถข้ามจังหวัด ศาลท่านก็เลยสืบทางเราใช้เวลา 10 นาที จบ  ธนาคารพยายามใช้เทคนิคต่าง ๆ นานา เช่น จำเลยไม่อยู่ ไม่ได้รับเอกสาร เลยไม่ได้ไปค้าน  คือ ประมูลมีทั้งหมด 4 ครั้ง ศาลนัดอีก 8 ครั้ง รวม 12 ครั้งไม่เคยมาเลย  ถ้าเป็นตาสีตาสาโดนธนาคารทำแบบนี้คือเสร็จคือยอมแพ้  ใช้วิธีเลื่อน ๆ ๆ ๆ ใครลางานไม่ได้มาไม่ได้ก็แพ้ไป
           แนวทางชี้แจงศาลคือ  
1.ธนาคารบอกว่าจำเลยไม่ได้รับเอกสารฟังไม่ขึ้นเพราะ  
    - บ้านมีคนอยู่(เจ้าตัว/บริวาร)
    - ค้นจากประกันสังคมแล้ว จำเลยอยู่ในพื้นที่  
2. เราไม่รู้ชื่อบังคับคดี แล้วจะไปสมคบกันตอนไหน
3. ธนาคารเห็นใจจำเลยเพราะประมูลไปราคาถูก  แต่ธนาคารเป็นคนเริ่มประมูลก่อน ถ้าเราไม่ประมูลสู้คือธนาคารให้ราคาต่ำกว่าของเรา
4. ในการสู้คดีเราก็ค้นเอาสารคำตัดสินฏีกาเก่า ๆ ประกอบ
         นอกจากดำเนินการทางศาลแล้ว เรายังได้ทำจดหมายไปถึง กรรมการผจก ธนาคาร ว่าเราได้รับความเสียหายจากความไม่ชอบธรรม ความไม่มีธรรมมาภิบาลของธนาคาร กลั่นแกล้งเรา ทั้งที่ความสับเพร่าของตัวแทนธนาคาร  แต่เค้าให้สาขาโทรมาว่าเราซื้อถูกไป  สิ่งที่เค้าว่าเราทุจริต สมคบฉ้อฉลคือตามนั้น  เราต้องการฟ้องหมิ่นประมาท แต่ทนายบอกว่าไม่มีประโยชน์ ธนาคารไม่สนใจเพราะเงินที่ใช้มาสู้คดีไม่ใช่เงินของผู้บริหาร เราก็ต้องจำยอม
        สรุป ผ่านมา 4 ปี 3 ศาล เราก็ชนะ คือยกคำร้อง จึงขอแชร์ประสบการณ์เผื่อจะเป็นประโยชน์กับท่านอื่นบ้างค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่