บ้านที่ประมูลจากกรมบังคับคดี และโอนกรรมสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว เป็นบ้านแฝด ปิดล็อกกุญแจไว้ ในทางกฎหมาย ยังไม่สามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ได้ ได้สอดส่องดูสภาพทั่วๆไปรอบๆบ้าน ยังมีข้าวของ ของเจ้าของเดิมที่ยังขนไปไม่หมดค้างอยู่ แต่ดูด้วยสายตาแล้ว ก็ไม่ใช่ของมี่ค่าอะไรมากนัก ไปปรึกษากรมบังคับคดี ก็ให้ไปยื่นคำร้องที่ศาลเพื่อขับไล่ พอไปศาล ต้องเขียนคำร้อง รอ 2 อาทิตย์ กว่า มีคำสั่งศาลไปติดที่หน้าบ้านฯ ในหมายขับไล่เขียนว่าให้ย้ายออกใน 30 วัน เมื่อครบกำหนด ไปติดต่อที่ศาล เจอเจ้าหน้าที่บอกว่า ต้อง 45 วันถึงจะออกหมายบังคับได้ (งงอ่ะ) ต้องรอต่อไปอีก พอครบ 45 วัน ไปที่ศาลอีก ทีนี้ให้เขียนคำร้อง เพื่อให้ศาลสั่งบังคับคดี รออีกสองอาทิตย์ ไปติดต่อใหม่เจอเจ้าหน้าที่บอกว่ายังไม่ได้ส่งเรื่องให้กรมบังคับคดีต้องรอกระบวนการส่งหมายฯ ถ้ารีบก็ต้องเขียนคำร้องขอเป็นผู้เดินหมายเอง (เฮ้อ) พอได้หมายไปติดต่อกรมบังคับคดี ต้องไปส่งเรื่องที่งานสารบัญ เพื่อออกหมายเลขรับเรื่อง พอได้หมายเลขรับเรื่อง เจ้าหน้าที่บอกว่าถ้ารีบก็เอาเลขรับฯ ไปติดต่อเจ้าหน้าที่เองเลย (จะไม่รีบได้ไง จ่ายเงินไปเกือบสามเดือนแล้ว ยังเข้าบ้านไม่ได้) พอไปติดต่อเจ้าหน้าที่ฯ ก็ห้เขียนคำร้องเพื่อตั้งเรื่อง พร้อมทั้งแจ้งว่าต้องใช้ทะเบียนบ้านของจำเลย หรือสำเนาที่มีคำรับรองสำเนาจากอำเภอมาประกอบด้วย ก็เลยมาถึงคำถาม ถามผู้รู้หน่อย ผมสงสัยว่าทำไมต้องเอาทะเบียนบ้านของจำเลยมาประกอบด้วย เพราะในสำเนา สำนวนต่างๆของคดีนี้ ก็มีชื่อโจทย์ชื่อจำเลย ที่อยู่จำเลย ที่ตั้งทรัพย์ อยู่พร้อมแล้ว ทำไมจะต้องยุ่งยากให้ต้องวิ่งไปที่อำเภออีก ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ซื้อบ้านจากกรมบังคับคดีทำไมยุ่งยากมาก ทั้งๆที่เอกสารหลักฐานต่างๆก็อยู่ในสำนวนแล้ว
ปัญหาหลังจากประมูลซื้อบ้านจากกรมบังคับคดี