Inductive or Inquiry Learning ผู้เรียนต้องหารูปแบบหรือ pattern เอง 31/08/2561
เป็นการเรียนรู้แบบ inductive learning หรือ inquiry learning ครับ ผู้เรียนต้องมาหารูปแบบ หรือ pattern เพื่อมาประยุกต์ใช้ต่อไป
https://ppantip.com/topic/38010645
.. Aj Yuth 180831 0834 hrs
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1928951557183702&set=a.574450045967200&type=3&theater
สุรพล ศรีบุญทรง
โจทย์ ที่ยกมานี่ เป็นคณิตศาสตร์ที่เรียกว่า "อนุกรม" หรือ series มีหลอกเล็กน้อยตรงเครื่องหมาย + ไม่ได้หมายถึง การบวกแบบตรงไปตรงมา เราต้องสังเกตเองว่า ความสัมพันธ์ที่นำไปสู่ผลลัพธ์คืออะไร ถึงจะคาดเดาถึงค่าถัดไปได้....
โจทย์เลขแบบนี้ คนไทย หรือ นักเรียนไทย ส่วนใหญ่จะทำไม่ได้ เพราะถูกสอนมาให้คิดแบบตรงๆ เชื่อตามที่ครูบอก ไม่คิดนอกกรอบ ครู บอกว่า + เราก็จะคิดว่า บวกอย่างเดียว ไม่สังเกตรูปแบบความสัมพันธ์อื่น
อีกทั้งภาษาพูดของเรา ที่เราใช้อยู่ทุกวัน ก็ตรงไปตรงมา ไม่มีการผันความสัมพันธ์ไปตาม tense หรือตาม Subject แบบฝรั่ง ... ฝรั่งเลยเหมือนคนช่างคิดต้องฝึกสมองตลอดชีวิต จะกินก็ต้องนึกว่า จะ eat eats eating ate หรือ eaten เรา "กิน" คำเดียวก็จบ ...
แต่จริงๆ ของเราไม่จบง่ายๆ เหมือนกัน เพราะเราต้องคิดอยู่ตลอดเวลา ว่าพูดกับใคร กับเด็กเล็ก ก็ หม่ำ สุภาพ ก็ ทาน สุภาพไม่พอก็ รับประทาน ... แต่อยากหยาบ ก็ - หรือ ยัด ไปเลย....
บางคนบอกความไม่เป็นประชาธิปไตยของไทย ถูกฝังมาตั้งแต่รากฐานวิธีคิด วิธีพูดของเราแล้ว ... คนจะได้ดิบได้ดี ต้องรู้จักพูดจาประจบเจ้า ประจบนาย ...
ย้อนกลับมาเรื่องการสอนคณิตศาสตร์ ข้อด้อยของระบบการศึกษาไทย คือ เรามักสอนแต่เทคนิคการแก้โจทย์ โดยให้จำสูตร จำเทคนิค ... ไม่ค่อยฝึกให้เด็ก จำ "หลัก" ฝึกพลิกแพลงจากหลัก บ่อยครั้งที่พบว่า เด็กไทยทำโจทย์เลขได้ถูกหมด แต่อธิบายว่า หลักการคืออะไร (ทำไปทำไม ?) ไม่ได้
Inductive or Inquiry Learning ผู้เรียนต้องหารูปแบบหรือ pattern เอง 31/08/2561 สรายุทธ กันหลง
เป็นการเรียนรู้แบบ inductive learning หรือ inquiry learning ครับ ผู้เรียนต้องมาหารูปแบบ หรือ pattern เพื่อมาประยุกต์ใช้ต่อไป
https://ppantip.com/topic/38010645
.. Aj Yuth 180831 0834 hrs
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1928951557183702&set=a.574450045967200&type=3&theater
สุรพล ศรีบุญทรง
โจทย์ ที่ยกมานี่ เป็นคณิตศาสตร์ที่เรียกว่า "อนุกรม" หรือ series มีหลอกเล็กน้อยตรงเครื่องหมาย + ไม่ได้หมายถึง การบวกแบบตรงไปตรงมา เราต้องสังเกตเองว่า ความสัมพันธ์ที่นำไปสู่ผลลัพธ์คืออะไร ถึงจะคาดเดาถึงค่าถัดไปได้....
โจทย์เลขแบบนี้ คนไทย หรือ นักเรียนไทย ส่วนใหญ่จะทำไม่ได้ เพราะถูกสอนมาให้คิดแบบตรงๆ เชื่อตามที่ครูบอก ไม่คิดนอกกรอบ ครู บอกว่า + เราก็จะคิดว่า บวกอย่างเดียว ไม่สังเกตรูปแบบความสัมพันธ์อื่น
อีกทั้งภาษาพูดของเรา ที่เราใช้อยู่ทุกวัน ก็ตรงไปตรงมา ไม่มีการผันความสัมพันธ์ไปตาม tense หรือตาม Subject แบบฝรั่ง ... ฝรั่งเลยเหมือนคนช่างคิดต้องฝึกสมองตลอดชีวิต จะกินก็ต้องนึกว่า จะ eat eats eating ate หรือ eaten เรา "กิน" คำเดียวก็จบ ...
แต่จริงๆ ของเราไม่จบง่ายๆ เหมือนกัน เพราะเราต้องคิดอยู่ตลอดเวลา ว่าพูดกับใคร กับเด็กเล็ก ก็ หม่ำ สุภาพ ก็ ทาน สุภาพไม่พอก็ รับประทาน ... แต่อยากหยาบ ก็ - หรือ ยัด ไปเลย....
บางคนบอกความไม่เป็นประชาธิปไตยของไทย ถูกฝังมาตั้งแต่รากฐานวิธีคิด วิธีพูดของเราแล้ว ... คนจะได้ดิบได้ดี ต้องรู้จักพูดจาประจบเจ้า ประจบนาย ...
ย้อนกลับมาเรื่องการสอนคณิตศาสตร์ ข้อด้อยของระบบการศึกษาไทย คือ เรามักสอนแต่เทคนิคการแก้โจทย์ โดยให้จำสูตร จำเทคนิค ... ไม่ค่อยฝึกให้เด็ก จำ "หลัก" ฝึกพลิกแพลงจากหลัก บ่อยครั้งที่พบว่า เด็กไทยทำโจทย์เลขได้ถูกหมด แต่อธิบายว่า หลักการคืออะไร (ทำไปทำไม ?) ไม่ได้