ผมรู้สึกเฝื่อนฝาดในลำคอ เมื่อมองเห็นความย้อนแย้ง ........................................ โดย ตระกองขวัญ

กระทู้คำถาม
จากข่าว


https://www.matichon.co.th/local/crime/news_1105928




คีย์เวิร์ด  คือคำว่า   เล็งเห็นผล   และ   เจตนาพิเศษ   เพื่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและร่างกาย


ทำให้ผมนึกถึงคดี 99 ศพ
ที่คดีจบสนิทไปแล้ว  (เหลือแค่การฟ้องเจ้าหน้าที่ที่ยิงคนเจ็บคนตาย  แล้วจะไปหาที่ไหน  ว่าใครยิงใคร)

ศาลอาญาไม่รับฟ้อง  บอกเป็นอำนาจของ ป.ป.ช.  ทั้งที่อัยการฟ้องเรื่องฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล

ป.ป.ช. ยกคำร้อง  บอกว่า อภิสิทธิ์ - สุเทพ  ปฏิบัติหน้าที่โดยชอบทุกประการ
หากอยากเอาผิด  ก็ให้ไปเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่ยิงคนเจ็บคนตาย  ซึ่งสามสิบสามชาติคงหาเจอ



ทหารนับหมื่น  อาวุธสงคราม  กระสุนจริง   เผชิญหน้ากับผู้ชุมนุมนับหมื่น  กลางเมือง
เด็กอนุบาลก็คิดได้ครับ  ว่าอาจเกิดความผิดพลาด  เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและร่างกาย

คนตาย  ล้วนเป็นผู้บริสุทธิ์  ทั้งเด็ก  ผู้หญิง   คนแก่

เหตุติดต่อกันนานนับเดือน   จาก 10 เม.ย. - 19 พ.ค.

นี่แหละ  ทำให้ดีเอสไอและอัยการเห็นตรงกันว่า   ควรฟ้องผู้สั่งการ
ในข้อหา  ร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล


ทหาร  ปืน  กระสุนจริง   เล็งเห็นผลแน่ ๆ ครับ   ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

10 เม.ย. - 19 พ.ค.   นี่แสดงเจตนาชัด ๆ เลยล่ะครับ   เพราะหลักทางอาญาถือว่า กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา
หากไม่มีเจตนา ต้องระงับยับยั้ง ไม่ใช่ปล่อยให้ปฏิบัติการต่อเนื่องนานนับเดือน
ข้ออ้างที่ว่า  ได้สั่งการให้ระมัดระวัง ยิงต่ำกว่าเอว  ฟังไม่ขึ้น  



ผู้สั่งการลอยนวล
เกิดความรู้สึกเฝื่อนฝาด    เมื่อมองเห็นความยุติธรรมย้อนแย้ง




อยากยืมคำของนิทเช่มาใช้  ที่ว่า  "พระเจ้าตายแล้ว"

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


เม่าเศร้า
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่