น่าสมเพชมากครับ เรื่องปลัดท่าอุเทน กับ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร

กระทู้สนทนา
ถีบขาคู่

เรื่องปลัดท่าอุเทน  ที่หนีคดีตากใบจนหมดอายุความ  แล้วโผล่มาทำงานนั่นแหละ
มันสะท้อนให้เห็นการเล่นพวก การเลือกชี้ผิดชี้ถูกได้อีกเรื่องจริง ๆ

หลักนิติรัฐ นิติธรรม  ความเป็นธรรม ความยุติธรรม
ประเทศนี้  ตายแล้วจริง ๆ
ถีบขาคู่

เอาเป็นเอาตายกับปลัด  ตั้งคณะกรรมการสอบสวน  หาทางเอาผิด
ซึ่งหากว่ากันตามข้อเท็จจริง  เป็นเรื่องน่าเห็นใจปลัดมากกว่า

20 ปีก่อนตอนเกิดเหตุ  ปลัดเป็นแค่ "พลขับ"  
พลขับที่นายสั่งให้ขับ  ทำตามหน้าที่  ทำตามคำสั่ง  จะขืนคำสั่งได้ไง
ต้องตกเป็นผู้ต้องหาที่อัยการสั่งฟ้องข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล
แต่กับพวกตัวใหญ่ ๆ  อัยการสั่งไม่ฟ้องสักคน  ทั้งที่ควรสั่งฟ้องพวกตัวใหญ่มากกว่าที่เป็นผู้สั่งการ ควบคุมบังคับบัญชา

ปลัดเหมือนแค่เป็นเหยื่อ

คดีตากใบนี้  แยกเป็นสองสำนวนนะครับ
1. สำนวนแรก  ญาติผู้ตายฟ้องตรงต่อศาลเอง  ศาลรับฟ้อง 23 ส.ค. 67   จำเลย 7 คน
     ตัวใหญ่ ๆ ทั้งนั้น  จำเลยที่ 1 คือ พล.อ.พิศาล  อดีตแม่ทัพภาค 4 ขณะนั้น
     อีก 6 จำเลย  ก็ระดับสั่งการ  ระดับควบคุม  ระดับบังคับบัญชา  ไม่มีตัวเล็กตัวน้อยที่ต้องทำตามคำสั่งนาย

2. อีกสำนวน  เป็นสำนวนที่อัยการสั่งฟ้องกลางเดือนกันยายน 2567  ผู้ต้องหา 8 คน
     เหมือนเป็นการฟ้องแก้เกี้ยว  ทั้งที่เรื่องผ่านมาจนจะหมดอายุความ ปล่อยเรื่องเงียบเฉยมาตลอด
     แต่พอศาลรับฟ้อง  อัยการก็เลยสั่งฟ้องตาม  แต่จำเลยคนละพวก (มีแค่ พล.อ.พิศาล ที่ชื่อซ้ำทั้งสองสำนวน)
     อัยการสั่งฟ้องแค่พลขับ 6 นาย ผู้ควบคุมขบวนรถ 1 นาย และ พล.อ.พิศาล รวม 8 ผู้ต้องหา

สองสำนวน  รวมจำเลย-ผู้ต้องหา 14 คน
ตำรวจบอกหลบหนีไปนอกประเทศหมด  ตามจับไม่ได้  แต่ก่อนจะหมดอายุความ 1 วัน
ผบ.ตร. สั่งตำรวจตามค้น ตามหาทั้ง 14 คนที่บ้าน  น่าสมเพชมาก  เหมือนเล่นลิเกสร้างฉากว่าพยายามแล้วนะ

ประเด็นคือ  ตอนนี้  เอาเป็นเอาตายกับปลัดท่าอุเทน
แต่กับรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1  นายพิเชษฐ์  เชื้อเมืองพาน  จากเพื่อไทย
ที่ลงนามอนุมัติให้ พล.อ.พิศาล  ลาประชุมสภาฯ  ตั้งแต่ 26 ส.ค. - 30 ต.ค. 67
เรียกว่า  หมดอายุความถึงจะกลับมาเป็น สส.ต่อ  (พล.อ.พิศาล เป็น สส.ปาร์ตี้ลิสต์พรรคเพื่อไทย)
เพื่อไทยก็อ้าง ติดต่อไม่ได้ ไม่รู้อยู่ไหน แล้วก็ทำเฉย  จนโดนสังคมด่าหนัก
นั่นแหละ ถึงได้เอาใบลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยมาโชว์ (ลาออกจากเพื่อไทย สถานะ สส.ก็สิ้นสุดลง)
ไม่รู้ใบจริงปลอมหรือเปล่า  ไหนว่าติดต่อไม่ได้  แล้วใบลามาไง  ใครส่งมา  ส่งจากไหน  ทำไมไม่ตามรอย
แค่โชว์ใบลาออก  แล้วจบเรื่องง่าย ๆ ซะงั้น

เรื่องนี้  ต้องสอบรองประธานสภาฯ  ไม่ใช่จะปล่อยให้รองประธานสภาฯ อ้างง่าย ๆ แค่ว่า
เจ้าหน้าที่เสนอใบลามา  ก็เซ็นอนุมัติหมด ไม่ได้ดูหรอกว่าใครเป็นใคร

อย่าลืม  ผู้อนุมัติใบลา (ทั้งที่ศาลรับฟ้องคดีตกเป็นจำเลยแล้ว) ก็คนเพื่อไทย
คนลา ก็เป็น สส.เพื่อไทย   แล้วจะมาทำมึนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ไม่ได้รู้เห็นเป็นใจ
นี่คือความบกพร่องของรองประธานสภาฯ ชัดเจน   ต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง
ไม่ใช่แล้ว ๆ ไป   

แต่เอาเป็นเอาตายกับปลัด  ที่ตอนนั้นเป็นแค่พลขับที่ต้องทำตามนายสั่งแบบขืนไม่ได้

พวกเดียวกันเฉย  ตัวใหญ๋เฉย   
แต่กับตัวเล็ก ๆ แค่อดีตพลขับ   จะเอาผิดให้ได้  เพื่อกลบกระแสความไม่เป็นธรรม 

เอาตัวเล็กเป็นเหยื่อสถานการณ์

.

ประเทศนี้  มันเป็นอะไรวะ   ความเป็นธรรม ความยุติธรรมมันถึงหายากจริง ๆ
ใครมีเส้น  มีสถานะ  มีตำแหน่ง  ร่ำรวย   ผิดยากมาก  
แต่กับคนเล็กคนน้อยไร้เส้น จน ไม่มีสถานะ ไม่มีตำแนห่งใหญ่   โดนคดีเป็นเรื่องธรรมดา

กระบวนการยุติธรรมก็เลือกข้าง
ศาล  องค์กรอิสระ   เอียงกะเท่เร่   เหมือนประชาชนคนไทยกินหญ้ากินฟาง

สุดท้าย
ทำไมเจ้าหน้าที่รัฐประเทศนี้  ถึงฆ่าประชาชนได้ฟรีตลอดมา
ไม่ว่าเหตุการณ์ ปี 2516  2519  2535  2553  ตากใบ  กรือเซะ  สะบ้าย้อย  และอื่น ๆ 
ไม่เคยมีใครต้องรับผิดชอบ  ฆ่าแล้วลอยนวล   อ้างเยียวยา  อ้างอย่าฟื้นฝอยหาตะเข็บ  อย่าสร้างเงื่อนไข
เพราะอย่างนี้แหละ  จึงเกิดเหตุการฆ่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า  ฆ่าแล้วลอยนวลจนกลายเป็นวัฒนธรรมลอยนวลไปแล้ว

ผู้มีอำนาจประเทศนี้  มันรู้เห็นเป็นใจกันทั้งนั้น  เพื่อปกป้องและรักษาอำนาจ-ผลประโยชน์ของพวกมัน
คนไทยทำไมเป็นไทยเฉยได้ขนาดนี้   ตื่นซะทีเถิด
ถีบขาคู่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่