สวัสดีคะเพื่อนๆ ชาวพันทิพย์ ก่อนอื่นขอมาพูดคุยกันพอหอมปากหอมคอ เรื่องของผลิตภัณฑ์ใกล้ตัวที่เราคุ้นเคยและใช้มาตั้งแต่เด็กๆ ทุกคนต้องเคยใช้แน่นอน นั้นก็คือ “แป้งฝุ่น” ที่เราใช้ทาตัวมาตั้งแต่ตัวเล็กๆ จนตอนนี้เราโตเป็นวัยรุ่น เป็นสาวกันแล้ว แป้งฝุ่นก็ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นในชีวิตประจำวันของเรา เพียงแต่ตอนนี้เราไปโฟกัสในส่วนที่สำคัญที่สุดของเราเป็นอันดับต้นๆ นั้นก็คือ “ใบหน้า” นั้นเอง
#ไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่ง สำนวนนี้ใช้มาตั้งแต่รุ่นแม่ๆของเรา ยุคสมัยจะเปลี่ยนไปแค่ไหน ความสวยของผู้หญิงก็เช่นกัน เปลี่ยนไปตามกาลเวลา เหมือนแป้งฝุ่นที่สมัยก่อนมีให้เลือกซื้อน้อยมาก แค่ 3-4 ยี่ห้อ สมัยนี้ก็มีให้เลือกมากมายเสียเหลือเกิน จนคิดแล้วคิดอีกว่าจะเลือกซื้ออันไหนดี ??
หลายคนคงมีคำถามแบบผู้เขียน ว่า........
? ยี่ห้ออะไรใช้ดี
? สีอะไร สูตรไหน เหมาะกับเรา
? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?
ปัญหาเหล่านี้เกิดจากสภาพผิวหน้าของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ทำให้สาวๆ ทั้งหลายเป็นกังวลในการเลือกซื้อแป้งฝุ่นมาใช้เพื่อควบคุมความมันระหว่างวัน หรือ ใช้ทาหน้าเพื่อให้ควบคุมความมันติดทนนานทั้งวันนั้นเอง ว่าจะเลือกยี่ห้อไหนมาใช้ดี ถ้าเลือกผิดชีวิตเปลี่ยนกันเลยทีเดียว งั้นมาทางนี้ !!!ของถูกและดีมันต้องมีสิค่ะ!!!!!!!
วันนี้เราเลยจะเลือกแป้งในตำนานซึ่งจริงๆแล้ว แบรนด์นี้เค้ามีมานานมากๆแล้วจริงๆคุ้นๆกันหรือเปล่าค่ะกับประโยคที่ว่า “สิวปุ๊บ เดอร์มิสท์ปั๊บ” บางคนไม่คุ้นเลยแต่สำหรับใครที่อายุมากกว่า 30 ผู้เขียนเชื่อว่า ต้องแบบว่าติดหูกับประโยคนี้แน่นอนส่วนใครที่ยังไม่คุ้นก็มาทำความรู้จักกับแบรนด์นี้กันเลย >>>DERMIST <<< เจ้าของกระทู้เองก็เคยได้ยินมากตั้งแต่เด็กๆ แต่เพิ่งมาได้ลองเอาในวัยทำงานนี่หละคะ
แป้งฝุ่นของ Dermist นั้นมีด้วยกันทั้งหมดตอนนี้ 7 สี ถือว่าเป็นแป้งในตำนวนเพราะมีจำหน่ายมาหลายปีแล้ว และก็หาซื้อยากมาก ซึ่งแป้งฝุ่นแต่ละสีแต่ละสูตรของเขาก็แตกต่างกันออกไป วันนี้ผู้เขียนเลือกมาชิ้นนึงนะค่ะ เป็นสินค้าที่เรียกว่า Number 1 ในบรรดาแป้งฝุ่นทั้ง 7 สี ก็คือ..... Dermist Cranberry Arbutin Powder แป้งฝุ่นเนื้อละเอียด มีส่วนผสมของสารอาบูติน สกัดจากต้นบลูเบอร์รี่ คุณสมบัติหลักของแป้งตัวนี้นั้นดีมากกกกก ก.ไก่ ล้านตัว คือ เค้ามีประสิทธิภาพในการทำให้ผิวผ่องใส ขาวเนียน และพีคที่สุดคือ การควบคุมความมันบนใบหน้าดีเยี่ยม รวมถึงมีไททาเนียมไดออกไซด์ปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยนะ
ตอนนี้ Dermist เค้ามีการพัฒนาสูตร รวมถึงโลโก้และรูปแบบของสินค้าให้ใหม่เพื่อความอินเทรนด์ตามยุคสมัย "เพราะเดอร์มิสท์เข้าใจวัยรุ่น" สโลแกนก็มา........... หลายคนคงสงสัยอีกว่า แล้วเรื่องของคุณภาพละ??? เปลี่ยนรูปแบบแล้วยังคงเหมือนเดิมอยู่ไหม จะสู้แบบเก่าได้หรือเปล่า งั้นไม่พลาดค่ะ มาอ่านไปพร้อมกันเลย
หน้าตาของแป้ง Dermist Cranberry Arbutin Powder โฉมใหม่และโฉมเก่าคะ
รูปแบบผลิตภัณฑ์ด้านหลัง
พูดถึงกระปุกแป้งฝุ่นตัวนี้ ก็จะเป็นกระปุกแบบที่มีฝาหมุนค่ะ ( สีชมพู ) ซึ่งฝาแบบหมุนนี่ก็มีมานานแล้วยังคงใช้แบบเดิมอยู่
ขนาดแป้งของยี่ห้อนี้ สีนี้ก็จะแบ่งเป็น 3 ขนาดด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ขนาด 100 กรัม, ขนาด 50 กรัม, ขนาด 25 กรัม แบ่งตามความสะดวกในการใช้งานของแต่ละคน จะใช้ที่บ้านหรือพกกาไปทำงานก็ได้คะ ตัวกระปุกสีขาว สกรีน Logo และชื่อของแป้ง หมุนฝาเทใส่มือทาได้เลย ง่ายๆชิลๆ แต่ที่เราจะแนะนำก็คือ ตัวขนาดกระปุกที่เป็น Size 25 กรัม เล็กที่สุดซึ่งเหมาะสมกับการพกพาติดตัวไปเที่ยวในวันหยุด หรือ สาวๆวัยรุ่นพกใส่กระเป๋าไปโรงเรียนก็ได้นะค่ะ ( แอบบอกนิดนุงว่า Size 25 ราคาเค้าก็ขายแค่ 25 ฿ อีกด้วยแหละ ) พกไปไหน สบายใจหายห่วงเรื่องหน้ามันแน่นอน คุ้มสุดๆ ขอบอกตามตรง!
มาว่ากันด้วยเนื้อสัมผัสบ้างคะ
อย่างที่บอกตั้งแต่ต้นว่า เจ้าแป้งฝุ่นตัวนี้มีเนื้อที่ละเอียดและบางเบาแถมปกป้องแสงแดด เวลาทาหน้าจะทำให้มีความโปร่งแสง เลยทำให้หน้าดูขาวและใส เนียนไปกับผิวหน้าของเราได้ดีมากๆ สีก็จะเนื้อสีขาว มีกลิ่นหอมเบอร์รี่เบาๆ อ่ะนะ แล้วแมตกับผิวของสาวหลายๆคน ลืมบอกว่าไม่มีชิมเมอร์นะค่ะ ส่วนตัวผู้เขียนก็มีความชอบอยู่ เลยต้องมาแบ่งปันความสวยส่งต่อให้ผู้อ่านทุกท่น แล้วจะบอกว่าถ้าวันไหนใครที่แต่งหน้าแล้วต้องการคุมมันให้ติดทนแน่นๆกันไป ก็ทารองพื้นแล้วใช้แปรงปัดก่อนลงพัฟฟ์ก็ดีนะค่ะะ หรือใครที่ไม่อยากใช้เยอะ ก็หาแปรงพกไปด้วยก็ได้ คู่กับแป้งเอาไว้ปัดเวลาที่เราจะทาในแต่ละครั้งที่แนะนำแบบนี้ เพราะว่า ช่วยในเรื่องของการประหยัดให้ครบสูตร ถูกและดี ตามที่บอกไว้
สำหรับวิธีใช้ วิธีใช้ เจ้าของกระทู้มักใช้ทาเป็นขั้นตอนสุดท้ายหลังแต่งหน้าเสร็จค่ะ เพื่อเอาไปควบคุมความมันของเครื่องสำอางที่เราทาไว้ โดยใช้แปรงที่เราพกไว้ สัมผัสกับเนื้อแป้งฝุ่น ไม่ต้องลงเยอะนะค่ะ สะบัดแปรงสักนิดและก็ปัดเบาๆ ลงบนใบหน้าได้เลยค่ะ จากที่เจ้าของกระทู้ใช้แปรงมาบนหลังมือให้ดูจะรู้สึกได้แลยว่าแป้งเนียนไปกับผิวเลยคะ
ใครที่อยากได้ความนวลเนียนขึ้นไปอีก จะทาหลังจากลงรองพื้นและกันแดดโดยใช้แปรงปัดหรือพัฟฟ์แตะเบาๆ บางๆก็พอค่ะ เจ้าของกระทู้จะทำแบบนี้ในวันที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งเยอะๆ แต่ต้องการให้ผิวหน้าดูเป็นธรรมชาติ และต้องการให้แป้งมีความติดทนมากขึ้นคะ
บางคนอาจจะแบ่งแป้งใส่ตลับเล็กๆไว้แล้ว เพราะบางคนไม่ชอบพกแปรง อันนี้ผู้เขียนก็เป็นค่ะ ชอบใช้พัฟในการซับ ซับ และซับ งั้นเราก็เพียงแค่ใช้พัฟแตะแป้งเบาๆบางๆไม่ต้องเยอะมากค่ะในปริมาณที่พอเหมาะแล้วก็ค่อยๆกดพัฟที่ใบหน้าของเราค่ะ
เพียงเท่านี้ หน้าก็สวยเด้ง ขาวเนียนใส คุมมันติดทนนานทั้งวัน พร้อมออกจากบ้านจ้า
[SR] [CR]รีวิว “แป้งฝุ่น” ในตำนาน ตอบโจทย์สาวหน้ามันทั้งหลายได้อย่างยอดเยี่ยม
#ไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่ง สำนวนนี้ใช้มาตั้งแต่รุ่นแม่ๆของเรา ยุคสมัยจะเปลี่ยนไปแค่ไหน ความสวยของผู้หญิงก็เช่นกัน เปลี่ยนไปตามกาลเวลา เหมือนแป้งฝุ่นที่สมัยก่อนมีให้เลือกซื้อน้อยมาก แค่ 3-4 ยี่ห้อ สมัยนี้ก็มีให้เลือกมากมายเสียเหลือเกิน จนคิดแล้วคิดอีกว่าจะเลือกซื้ออันไหนดี ??
หลายคนคงมีคำถามแบบผู้เขียน ว่า........
? ยี่ห้ออะไรใช้ดี
? สีอะไร สูตรไหน เหมาะกับเรา
? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?
ปัญหาเหล่านี้เกิดจากสภาพผิวหน้าของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ทำให้สาวๆ ทั้งหลายเป็นกังวลในการเลือกซื้อแป้งฝุ่นมาใช้เพื่อควบคุมความมันระหว่างวัน หรือ ใช้ทาหน้าเพื่อให้ควบคุมความมันติดทนนานทั้งวันนั้นเอง ว่าจะเลือกยี่ห้อไหนมาใช้ดี ถ้าเลือกผิดชีวิตเปลี่ยนกันเลยทีเดียว งั้นมาทางนี้ !!!ของถูกและดีมันต้องมีสิค่ะ!!!!!!!
วันนี้เราเลยจะเลือกแป้งในตำนานซึ่งจริงๆแล้ว แบรนด์นี้เค้ามีมานานมากๆแล้วจริงๆคุ้นๆกันหรือเปล่าค่ะกับประโยคที่ว่า “สิวปุ๊บ เดอร์มิสท์ปั๊บ” บางคนไม่คุ้นเลยแต่สำหรับใครที่อายุมากกว่า 30 ผู้เขียนเชื่อว่า ต้องแบบว่าติดหูกับประโยคนี้แน่นอนส่วนใครที่ยังไม่คุ้นก็มาทำความรู้จักกับแบรนด์นี้กันเลย >>>DERMIST <<< เจ้าของกระทู้เองก็เคยได้ยินมากตั้งแต่เด็กๆ แต่เพิ่งมาได้ลองเอาในวัยทำงานนี่หละคะ
แป้งฝุ่นของ Dermist นั้นมีด้วยกันทั้งหมดตอนนี้ 7 สี ถือว่าเป็นแป้งในตำนวนเพราะมีจำหน่ายมาหลายปีแล้ว และก็หาซื้อยากมาก ซึ่งแป้งฝุ่นแต่ละสีแต่ละสูตรของเขาก็แตกต่างกันออกไป วันนี้ผู้เขียนเลือกมาชิ้นนึงนะค่ะ เป็นสินค้าที่เรียกว่า Number 1 ในบรรดาแป้งฝุ่นทั้ง 7 สี ก็คือ..... Dermist Cranberry Arbutin Powder แป้งฝุ่นเนื้อละเอียด มีส่วนผสมของสารอาบูติน สกัดจากต้นบลูเบอร์รี่ คุณสมบัติหลักของแป้งตัวนี้นั้นดีมากกกกก ก.ไก่ ล้านตัว คือ เค้ามีประสิทธิภาพในการทำให้ผิวผ่องใส ขาวเนียน และพีคที่สุดคือ การควบคุมความมันบนใบหน้าดีเยี่ยม รวมถึงมีไททาเนียมไดออกไซด์ปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยนะ
ตอนนี้ Dermist เค้ามีการพัฒนาสูตร รวมถึงโลโก้และรูปแบบของสินค้าให้ใหม่เพื่อความอินเทรนด์ตามยุคสมัย "เพราะเดอร์มิสท์เข้าใจวัยรุ่น" สโลแกนก็มา........... หลายคนคงสงสัยอีกว่า แล้วเรื่องของคุณภาพละ??? เปลี่ยนรูปแบบแล้วยังคงเหมือนเดิมอยู่ไหม จะสู้แบบเก่าได้หรือเปล่า งั้นไม่พลาดค่ะ มาอ่านไปพร้อมกันเลย
หน้าตาของแป้ง Dermist Cranberry Arbutin Powder โฉมใหม่และโฉมเก่าคะ
รูปแบบผลิตภัณฑ์ด้านหลัง
พูดถึงกระปุกแป้งฝุ่นตัวนี้ ก็จะเป็นกระปุกแบบที่มีฝาหมุนค่ะ ( สีชมพู ) ซึ่งฝาแบบหมุนนี่ก็มีมานานแล้วยังคงใช้แบบเดิมอยู่
ขนาดแป้งของยี่ห้อนี้ สีนี้ก็จะแบ่งเป็น 3 ขนาดด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ขนาด 100 กรัม, ขนาด 50 กรัม, ขนาด 25 กรัม แบ่งตามความสะดวกในการใช้งานของแต่ละคน จะใช้ที่บ้านหรือพกกาไปทำงานก็ได้คะ ตัวกระปุกสีขาว สกรีน Logo และชื่อของแป้ง หมุนฝาเทใส่มือทาได้เลย ง่ายๆชิลๆ แต่ที่เราจะแนะนำก็คือ ตัวขนาดกระปุกที่เป็น Size 25 กรัม เล็กที่สุดซึ่งเหมาะสมกับการพกพาติดตัวไปเที่ยวในวันหยุด หรือ สาวๆวัยรุ่นพกใส่กระเป๋าไปโรงเรียนก็ได้นะค่ะ ( แอบบอกนิดนุงว่า Size 25 ราคาเค้าก็ขายแค่ 25 ฿ อีกด้วยแหละ ) พกไปไหน สบายใจหายห่วงเรื่องหน้ามันแน่นอน คุ้มสุดๆ ขอบอกตามตรง!
มาว่ากันด้วยเนื้อสัมผัสบ้างคะ
อย่างที่บอกตั้งแต่ต้นว่า เจ้าแป้งฝุ่นตัวนี้มีเนื้อที่ละเอียดและบางเบาแถมปกป้องแสงแดด เวลาทาหน้าจะทำให้มีความโปร่งแสง เลยทำให้หน้าดูขาวและใส เนียนไปกับผิวหน้าของเราได้ดีมากๆ สีก็จะเนื้อสีขาว มีกลิ่นหอมเบอร์รี่เบาๆ อ่ะนะ แล้วแมตกับผิวของสาวหลายๆคน ลืมบอกว่าไม่มีชิมเมอร์นะค่ะ ส่วนตัวผู้เขียนก็มีความชอบอยู่ เลยต้องมาแบ่งปันความสวยส่งต่อให้ผู้อ่านทุกท่น แล้วจะบอกว่าถ้าวันไหนใครที่แต่งหน้าแล้วต้องการคุมมันให้ติดทนแน่นๆกันไป ก็ทารองพื้นแล้วใช้แปรงปัดก่อนลงพัฟฟ์ก็ดีนะค่ะะ หรือใครที่ไม่อยากใช้เยอะ ก็หาแปรงพกไปด้วยก็ได้ คู่กับแป้งเอาไว้ปัดเวลาที่เราจะทาในแต่ละครั้งที่แนะนำแบบนี้ เพราะว่า ช่วยในเรื่องของการประหยัดให้ครบสูตร ถูกและดี ตามที่บอกไว้
สำหรับวิธีใช้ วิธีใช้ เจ้าของกระทู้มักใช้ทาเป็นขั้นตอนสุดท้ายหลังแต่งหน้าเสร็จค่ะ เพื่อเอาไปควบคุมความมันของเครื่องสำอางที่เราทาไว้ โดยใช้แปรงที่เราพกไว้ สัมผัสกับเนื้อแป้งฝุ่น ไม่ต้องลงเยอะนะค่ะ สะบัดแปรงสักนิดและก็ปัดเบาๆ ลงบนใบหน้าได้เลยค่ะ จากที่เจ้าของกระทู้ใช้แปรงมาบนหลังมือให้ดูจะรู้สึกได้แลยว่าแป้งเนียนไปกับผิวเลยคะ
ใครที่อยากได้ความนวลเนียนขึ้นไปอีก จะทาหลังจากลงรองพื้นและกันแดดโดยใช้แปรงปัดหรือพัฟฟ์แตะเบาๆ บางๆก็พอค่ะ เจ้าของกระทู้จะทำแบบนี้ในวันที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งเยอะๆ แต่ต้องการให้ผิวหน้าดูเป็นธรรมชาติ และต้องการให้แป้งมีความติดทนมากขึ้นคะ
บางคนอาจจะแบ่งแป้งใส่ตลับเล็กๆไว้แล้ว เพราะบางคนไม่ชอบพกแปรง อันนี้ผู้เขียนก็เป็นค่ะ ชอบใช้พัฟในการซับ ซับ และซับ งั้นเราก็เพียงแค่ใช้พัฟแตะแป้งเบาๆบางๆไม่ต้องเยอะมากค่ะในปริมาณที่พอเหมาะแล้วก็ค่อยๆกดพัฟที่ใบหน้าของเราค่ะ
เพียงเท่านี้ หน้าก็สวยเด้ง ขาวเนียนใส คุมมันติดทนนานทั้งวัน พร้อมออกจากบ้านจ้า
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม